ใครที่ชื่นชอบสมาร์ทเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยมาฟังกันได้ทางนี้เลย เพราะไม่นานมานี้ บริษัท สยามเทค แอนด์ ดีเวลล็อป จำกัด เพิ่งจะเผยหลังเปิดตัว GYGAR Interactive Presenter ว่าได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมจากทุกกลุ่มลูกค้ามากเลยนะ!

 

        งานนี้เค้ามั่นใจด้วยว่าเทคโนโลยีนี้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการที่แตกต่าง อีกทั้งยังเน้นกลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าองค์กรต่อเนื่อง และล่าสุด! จับมือกับทาง บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้บริการและส่งมอบ GYGAR Interactive Presenter เพื่อเสริมประสิทธิภาพด้านการขายและการดำเนินงานธุรกิจในองค์กรแล้ว

 

        นายลือเขต กลิ่นมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเทค แอนด์ ดีเวลล็อป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ "GYGAR Interactive Presenter" เทคโนโลยีสื่อการนำเสนอแบบอินเตอร์แอคทีฟ เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยมแถมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจริงๆ

 

        และล่าสุดที่จับมือกับทาง สิงห์ เอสเตท ก็เพื่อใช้ผลิตภัณฑ์นี้ส่งเสริมธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการขายอสังหาริมทรัพย์ และการทำงานภายในองค์กรที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้างประสบการณ์การทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ให้องค์กร มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้านั่นเองงง

 

        ด้าน คุณนพดล สมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี สารสนเทศ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยภาพลักษณ์สินค้าหรูหราที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ของทางบริษัท การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์จึงเป็นเรื่องที่บริษัทให้ความสำคัญมาก เพราะนั่นหมายถึงการยกระดับมาตรฐานในการขับเคลื่อนองค์กรและโครงการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

        ไอ้เจ้า GYGAR Interactive Presenter เนี่ย ใช้งานสะดวกง่ายดายในรูปแบบมัลติฟังก์ชัน ไม่จำเป็นต้องเปิดคอมพิวเตอร์ ต่อโปรเจคเตอร์ หรือต่อพรินท์เตอร์ ก็สามารถโชว์พรีเซนเทชั่นแบบไร้สาย ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต และแคปหน้าจอที่สำคัญส่งต่อทางอีเมล์ให้กับทุกคนในที่ประชุมได้ทันที

 

        ยังไม่พอ ยังสามารถใช้แทนกระดานไวท์บอร์ด เขียนหน้าจอพร้อมการบันทึก รองรับการสัมผัสพร้อมกันได้ถึง 20 จุด และเขียนพร้อมกันได้ถึง 10 จุด ช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณที่ต้องจ่ายให้กับอุปกรณ์การนำเสนออื่นๆ แถมได้ภาพลักษณ์ทันสมัย ความเป็นมืออาชีพ สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับลูกค้า เสริมศักยภาพการทำงานของพนักงานอีกด้วย

 

        เห็นอย่างนี้แล้วพี่หมีคิดว่าไม่แน่ในอนาคตหลายบริษัทอาจหันมาใช้สมาร์ทเทคโนโลยีแบบนี้มากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาแล้วยังประหยัดทรัพย์ในกระเป๋าอีกเนอะ