มีข่าวออกมาแล้วว่า ครม. เห็นชอบโครงการร่วมลงทุนไฮ สปีด เทรนสายแรกของไทยเชื่อม 3 สนามบิน พร้อมอนุมัติงบลงทุน 149,650 ล้านบาทจ้า

 

        งานนี้ ทาง รฟท.จ่ายให้กลุ่ม CPH ปีละ 14,965 ล้านบาท นาน 10 ปี นับจากปีแรกที่เปิดให้บริการในปี 2567 พร้อมสั่งตั้งหน่วยงานกำกับ 5 ด้าน พร้อมไฟเขียวสร้างรถไฟทางคู่ "บ้านไผ่-นครพนม" หลังรอคอยมากว่า 50 ปี

 

        โดย นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติและเห็นชอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินแล้ว

 

        อย่างที่บอกไปว่างบประมาณจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการนี้ วงเงินคือ 149,650 ล้านบาท ซึ่ง รฟท.จะชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการแก่เอกชนที่ได้รับการคัดเลือกด้วยการแบ่งจ่ายเป็นรายปี ปีละไม่เกิน 14,965 ล้านบาท เป็นเวลา 10 ปีหลังจากเริ่มการให้บริการโครงการ

 

        วงเงินนี้เมื่อคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบันจะมีค่าเท่ากับ 117,226.87 ล้านบาท ต่ำกว่ากรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติไว้ที่ 119,425.75 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 2,198.88 ล้านบาท โดยให้เอกชนร่วมลงทุนเป็นเวลา 50 ปี และเอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการโดยมีมูลค่าโครงการ ณ ราคาปัจจุบัน 224,500 ล้านบาท

 

        ส่วนในอีก 50 ปี ข้างหน้าโครงการจะกลับมาเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ โดยคาดมูลค่าในขณะนั้นกว่า 300,000 ล้านบาท โดย รฟท.จะลงนามในสัญญากับนิติบุคคลเฉพาะกิจที่ภาคเอกชนต้องจัดตั้งขึ้นมากลางเดือน มิ.ย.นี้ และน่าจะเปิดให้บริการได้ต้นปี 2567 ครับผม

 

        ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ยังกล่าวว่า ครม.มีมติให้ รฟท.ดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม วงเงินงบประมาณ 66,848.33 ล้านบาทด้วย ระยะเวลาดำเนินโครงการคือ 8 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562-68 โดยในปี 2562 จะเริ่มเวนคืนที่ดิน 7,100 แปลงเพื่อมาก่อสร้าง

 

        ส่วนปี 2563 จะเริ่มประกวดราคา หลังจากนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดให้บริการในปี 2567 หรือต้นปี 2568 ซึ่งจากผลการศึกษาระบุว่าเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะรองรับผู้โดยสารได้กว่า 3.8 ล้านคน/ปี รองรับปริมาณสินค้าได้ 700,000 ตัน/ปีและเมื่อเปิดให้บริการจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ 13% นอกจากนั้นคาดการณ์ว่าในปี 2599 จะขนผู้โดยสารได้ 8.3 ล้านคน/ปี ขนสินค้าได้กว่า 1 ล้านตัน/ปีเชียวแหละ

 

        ยังไงพี่หมีก็อยากจะเห็นเร็วๆ แล้วว่าของจริงจะเป็นยังไง แต่ก็คงต้องรอกันต่อไปยาวๆ เหมือนกัน