ช่วงนี้คงจะเป็นช่วงเตรียมตัวสำหรับการเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยของน้องใหม่เฟรชชี่ปี 1 เห้อออ แอบคิดถึงความหลังสมัยเรายังเป็นนักศึกษาตัวน้อยๆ จากต่างจังหวัด ที่ต้องจากพ่อจากแม่มาอยู่หอพักคนเดียวครั้งแรก เชื่อว่าหลายๆคนคงมีประสบการณ์การอยู่หอพักแบบน้องหญิงดอยกันเยอะมากๆอย่างแน่นอน
โดยบางมหาลัยอาจจะมีหอพักรองรับนักศึกษาจากต่างจังหวัดหรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “หอใน” กันอยู่แล้ว ซึ่งถ้าเป็น "หอใน" ก็อาจจะดีขึ้นมาหน่อยที่อาจจะราคาถูก แต่ก็แอบมีข้อเสียนิดนึงตรงที่จะมีกฎระเบียบเยอะ ส่วนบางมหาลัยที่ไม่มีหอพักรองรับนักศึกษา(แบบมหาลัยของน้องหญิงดอย) นักศึกษาก็จะต้องหาหอพักเอง ซึ่งเรียกกันติดปากว่า “หอนอก” ส่วนตัวน้องหญิงดอยมองว่ามันมีข้อเสียใหญ่ๆเลยคือราคา "แพง" เมื่อเทียบกับหอใน แต่ข้อดีของมันก็มีนะ เพราะหอนอกจะกฎระเบียบน้อยกว่าหอในมากกก
สำหรับนักศึกษาเบี้ยน้อยเงินน้อย ที่ยังต้องขอเงินจากที่บ้านเป็นค่าใช้จ่าย หลายๆคนอาจจะไม่ได้มีต้นทุนสูงจนสามารถเช่าหรือซื้อคอนโดราคาแพงที่ตกแต่งมาแล้วสวยๆได้ ก็ต้องอาศัยหอพักกันนี่แหละ น้องหญิงดอยเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องมาหาหอพักราคาไม่แพงมาก สำหรับอยู่อาศัยตลอดการเรียนมหาวิทยาลัย แต่พูดก็พูดเถอะ ใครๆก็อยากอยู่ห้องสวยๆกันทั้งนั้นแหละ แต่ในเมื่อไม่มีเงินจะตกแต่งมากนักครั้นจะโทรไปขอเงินพ่อแม่สำหรับซื้อของแต่งห้อง ไม่วายโดนดุยาวแน่ๆ
ทีนี้โจทย์หลักของนักศึกษาที่อาศัยหอพักก็คือ “จะแต่งห้องยังไงให้สวยโดยที่งบไม่บานปลายจนพ่อแม่ด่า?” น้องหญิงดอยเลยจะมาแบ่งปันเทคนิคและวิธีต่างๆสำหรับการตกแต่งหอพักให้น้องๆนักศึกษา ด้วยประสบการณ์ของตัวเองโดยตรง 5 วิธี!! จะมีอะไรบ้าง อย่ารอช้า เลื่อนลงไปอ่านพร้อมๆกันเล้ยย
1. เก็บกวาดห้องให้สะอาด
ถือเป็นวิธีเบสิคและไม่เสียเงินสักแดงเดียว แค่ปัด กวาด เช็ด ถู ห้องให้สะอาด วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีมากๆ นอกจากจะทำให้ห้องของน้องๆสะอาดแล้ว ยังทำให้สุขภาพของน้องๆดีอีกด้วยนะ เพราะฝุ่นต่างๆนี่แหละ ที่เป็นตัวการหลักที่อาจจะทำให้เราป่วยได้นั่นเอง
2. ร้านค้าเบ็ดเตล็ด มีของดีๆราคาถูกเพียบ
อย่ามองข้ามร้านค้าพวกนี้เชียวนะ เพราะสมัยเรียนน้องหญิงดอยยังหาเงินด้วยตัวเองไม่ได้ ก็อาศัยการซื้อของจากร้านค้าพวกนี้แหละบ่อยเชียว โดยร้านค้าเบ็ดเตล็ดจะมีของราคาถูกเยอะแยะมากมาย บางร้านราคาเดียว 20 บาท ปัญหาคือต้องเลือกเยอะหน่อย แต่สำหรับน้องๆคนไหนที่อยากได้ของตกแต่งสวยๆน่ารักๆขึ้นมาอีกนิด น้องหญิงดอยแนะนำร้านค้าเบ็ดเตล็ดนำเข้าจากญี่ปุ่นอย่าง Daiso ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีมีอยู่ตามห้างใหญ่ๆทั่วไป อาจจะจ่ายแพงกว่าเบ็ดเตล็ดตามตลาดนิดหน่อย แต่รับรองว่าของใช้น่ารักๆเยอะมาก อ้ออออ หรือจะเป็นร้านค้าจากเกาหลีอย่าง Miniso ที่ก็มีตามห้างเยอะเลยทีเดียว หาซื้อไม่ยาก ที่สำคัญเค้ามีของขายเยอะเลยทีเดียว ทั้งตุ๊กตา รองเท้าสลิปเปอร์ใส่ในบ้าน กรอบรูป หรือแม้แต่เครื่องสำอาง ถ้าน้องๆคนไหนพอมีเงินขึ้นมาหน่อย ก็ลองไปช้อปปิ้งที่ร้านพวกนี้ดูได้นะ
3. อีเกีย มีหมด ตั้งแต่ราคาต่ำ กลาง ไปจนถึงสูง
พูดถึงอีเกีย น้องๆจากต่างจังหวัดบางคนอาจจะไม่ค่อยได้เข้าไปช้อปปิ้งกันซักเท่าไหร่ หรือบางคนอาจจะไม่เคยเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะอีเกียมันมีแต่ที่กรุงเทพฯยังไงล่ะ จำได้ว่าตอนน้องหญิงดอยเรียนมหาวิทยาลัยอิเกียมีอยู่แค่สาขาเดียวเองคือสาขาบางนา ซึ่งก็ไกลจากที่น้องหญิงดอยอยู่ตอนนั้นพอสมควร แต่ปัจจุบันอิเกียเค้าเปิดสาขาใหม่ที่เซ็นทรัลเวสเกตเพิ่มมาด้วย อ้ะๆ ที่สำคัญเดี๋ยวนี้น้องๆนักศึกษาที่เรียนต่างจังหวัดก็ยังสามารถช้อปปิ้งที่อิเกียได้โดยไม่ต้องตีตั๋วเข้ากรุงเทพฯด้วยซ้ำ เพราะล่าสุดอิเกียเค้ามีบริการช้อปปิ้งออนไลน์ส่งถึงที่แล้วด้วย ต้องบอกก่อนเลยว่า ของใช้ต่างๆในอิเกียมีหลากหลายราคาสำหรับรองรับคนหลายระดับมากเลยนะ ไม่ต้องกังวลว่าจะแพงจนงบบานปลายแต่อย่างใด วางแผนการใช้เงินดีๆแล้วมาเดินดูก่อน รับรองว่าได้ของติดมือไปอย่างแน่ๆ อีกอย่างที่สำคัญเลยคืออิเกียมีของครบ น้องๆอาจจะไม่ต้องไปช้อปปิ้งที่อื่น ซึ่งก็จะช่วยประหยัดเวลาน้องๆไปได้อีกเยอะ
4. วางแผนใช้เงินให้ดี อะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็นตัดออก
ข้อนี้อยากจะเสริมให้หน่อยว่า อยากให้น้องๆลิสท์รายละเอียดที่ต้องใช้จ่าย จะได้ขอเงินพ่อแม่ง่ายขึ้น อย่างกรณีน้องหญิงดอยนี่ลิสท์เป็น 10 อย่างเลยนะ ทั้งโต๊ะคอม เก้าอี้คอม กรอบรูป กระถางต้นไม้ฯ เยอะมาก พอเอาไปเสนอพ่อแม่ก็ยังโดนตัดออกเกือบครึ่ง!! โดยวิธีนี้ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเทคนิคให้น้องๆได้หรือเปล่า ส่วนตัวน้องหญิงดอยมองว่ามันสามารถใช้เป็นเหตุผลในการขอเงินพ่อแม่ได้ดีเลยแถมป้องกันของใช้ตกหล่น และใช้เป็นบัญชีรายจ่ายในส่วนของการตกแต่งห้องได้ด้วย
5. DIY จากของรอบตัว
เป็นวิธีที่ดีและได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย สำหรับวิธีการ DIY จากสิ่งต่างๆรอบตัว น้องหญิงดอยขอยกตัวอย่างของตัวเอง(อีกแล้ว) ว่าตอนนั้นย้ายของเข้าหอ แล้วมีลังเหลือใช้เยอะมาก ครั้นจะทิ้งก็แอบเสียดายแหะ กว่าที่เราจะทำกระดาษได้ต้องตัดต้นไม้ไปตั้งหลายต้น และด้วยความประหยัด(ขี้เหนียวนั่นแหละ) ทำให้น้องหญิงดอยได้ช่องใส่ของกระจุกกระจิกและหนังสือจากกระดาษลังเหลือใช้จากการย้ายของเข้าหอพัก ทำเป็นมุมเล็กๆบนโต๊ะทำงาน ซึ่งมันก็ใช้ได้จริงๆนะ แถมประหยัดเงินในกระเป๋า(พ่อแม่)ได้อีกด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้มีวิธี DIY ของต่างๆให้เราได้ศึกษาด้วยตัวเองจากอินเตอร์เน็ตเยอะเลยทีเดียว น้องหญิงดอยมองว่ามันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีมากและยังช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 วิธีตกแต่งหอพักยังไงให้งบไม่บานปลายที่น้องหญิงดอยนำมาฝากน้องๆนักศึกษา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่แค่น้องๆนักศึกษาเท่านั้น เพื่อนๆคนไหนที่อยู่หอพักก็สามารถนำวิธีนี้ไปลองปรับใช้ดูได้นะ หรือใครมีวิธีอื่นๆที่อยากแนะนำ ก็อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนกับน้องหญิงดอยและเพื่อนๆชาวคอนโดติดดอยวัยทีนกันด้วยล่ะ