จะพูดถึงมาตรการในการกระตุ้นอสังหาไทยแล้วช่วงนี้เค้าก็เค้นสมองปล่อยกันออกมารัวๆ กลุ่มนักลงทุนก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นตลาดไทย โดยเฉพาะคนชาติอาเซียนที่เข้ามาอาศัยระยะยาวและส่งลูกหลานมาเรียนต่อในประเทศไทย

 

        นางอรุณี เทียมหงษ์ นายกสมาคมการขายและการตลาดอสังหาริมทรัพย์ ได้ออกมาพูดถึงแนวโน้มการลงทุน อสังหาฯ ของคนไทยและคนต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกปี โดยผ่านโรงเรียนนานาชาติยอดนิยมและมหาวิทยาลัยทั้งหลาย

 

        ในจำนวนนี้จะเห็นได้หลายที่เลย เช่น ม.หอการค้าไทย, รังสิต, เอแบค ฯลฯ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่อย่างจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบการซื้อขายอสังหาฯ แนวใหม่ขั้น

 

        รูปแบบที่ว่าก็คือการซื้อคอนโดฯ ในไทยเพื่อให้ลูกหลานเรียนในโรงเรียนนานาชาติได้ในเรตค่าเทอมเพียงครึ่งราคา และยังมีโอกาสได้วีซ่าอยู่ไทยในระยะยาวด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มแรงดึงดูด โดยมีเอเยนซีคนกลางเป็นผู้วางโปรแกรมระหว่างสถาบันการศึกษาและดีเวลอปเปอร์ไทย โดยเค้าก็คาดไว้ว่าในอนาคตโมเดลที่ว่านี้คงจะได้รับการตอบรับอย่างสูง

 

        อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจโลกเริ่มตกต่ำ หลายประเทศเริ่มนำทรัพย์ออกมาขายและเปิดช่องให้ผู้สนใจลงทุนอย่างต่อเนื่องนั้น เค้าก็มองว่านี่เป็นโอกาสสำหรับกลุ่มนักลงทุนไทย คือการเข้าไปซื้อหรือลงทุนกลุ่มทรัพย์ในประเทศที่เปิดช่องพ่วงให้โอกาสสำหรับบุตรหลานเข้าเรียนต่อระดับไฮสกูลของรัฐบาลแบบฟรีๆ นี่แหละ

 

        แต่ว่าในขณะเดียวกันก็ได้รับผลตอบแทนจากกิจการที่ลงทุนด้วยเหมือนในสหรัฐฯ ที่พบว่าในปัจจุบันมีครอบครัวคนไทยอาศัยอยู่ในรัฐฟลอลิดามากกว่า 5,000 ครอบครัวเลยนะ แถมคนเหล่านั้นยังมีบ้าน มีกิจการ และได้รับวีซ่าสำหรับผู้ทำธุรกิจด้วย

 

        ดังนั้นหลายฝ่ายเค้าเลยมองว่า โมเดลการลงทุนแบบนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับกลุ่มคนไทยระดับ B+ กลุ่มเจ้าของกิจการเล็ก-ใหญ่ ที่มีรายได้ครอบครัวต่อเดือนมากกว่า 2 แสนบาท และต้องการส่งบุตรหลานเรียนในต่างประเทศทั้งในเมือง ชิคาโก บอสตัน หรือออร์แลนโดนั่นเอง

 

        จะว่าไปประเทศเราก็มีนักเรียนจากต่างชาติเข้ามาศึกษาเยอะเลย พี่หมีก็เคยเห็นข่าวว่าประเทศไทยเราติดอันดับประเทศที่พ่อแม่ในอาเซียนหรือประเทศในแถบเอเชียต้องการส่งลูกเข้ามาศึกษาต่อเหมือนกัน ถือเป็นเทรนด์อสังหาฯ ที่น่าจับตามองจริงๆ!