สำหรับท่านที่คุ้นเคยกับคอนโดของ LPN ก็คงจะนึกถึงคอนโดราคาไม่สูง ทำเลกลางๆ ไม่ถึงกับดีมาก หน้าตาเหมือนๆ กัน จำนวนยูนิตเยอะๆ อยู่ตามโซนนอกๆ เมือง ใช่ไหมละครับ
โดยเฉพาะคำว่า "ชุมชนน่าอยู่" ที่ดีเวลลอปเปอร์เจ้านี้นำมาเป็นสโลแกน (และก็ทำได้จริงๆ) ก็กลายเป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของคอนโด LPN
ซึ่งโดยปกติ "ทาง" ของเขา ก็จะเป็นแบบนั้นแหละครับ
แต่ The Lumpini 24 คือความ "แตกต่าง" อย่างมีนัยสำคัญครับ
โครงการนี้ทำเลอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ทำเลที่เราสามารถบอกได้ว่ามีคนต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น) มากกว่าคนไทย
ดังนั้นนี่คือ "ของใหม่" หรือ "ของแปลก" ของ LPN เพราะทำเลนี้ "ขายถูกไม่ได้"
จึงเป็นที่มาของคำว่า "แกะดำ" ของ LPN ที่ผมใช้เรียก
เอ... หรือจะเรียกว่า "แกะทอง" ดีนะ 555
ที่ดินแปลงนี้ LPN ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ว่ากันว่า 11 ปี กว่าจะชนะคดีและนำมาพัฒนาต่อได้
โครงการขายหมด 90% ตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อปลายปี 2556 ครับ โดยเฉพาะห้องแบบ 1 ห้องนอน หมดเกลี้ยงเหลือเฉพาะห้องแบบวิลล่า ราคา 30-40 ล้านบาท
จำนวนยูนิตทั้งหมด 400 กว่ายูนิต แถมเปิดขายแค่ครึ่งเดียวคือ 200 กว่ายูนิต คือชั้นเลขคี่ (ส่วนชั้นเลขคู่ เก็บไว้ให้ VIP จองหมดก่อนขาย) แต่มีคนมาจับสลาก 1,000 กว่าคน ที่โรงแรมเดวิส
จะเหลือได้อย่างไร
ราคาเปิดที่ประมาณ 150,000-175,000 บาท/ตร.ม.
โครงการนี้มันดียังไง?
LPN ตั้งใจสร้างโครงการนี้ให้เป็น Landmark ของบริษัทนะครับ
ทีมออกแบบใช้ของ บริษัท A49 ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิคเบอร์ต้นๆของไทย
ผมว่าสวยหรูดี อาจจะไม่ล้ำเหมือนที่ A49 ออกแบบให้ Ashton Asoke ของ Ananda แต่ก็ดูมีราคาทีเดียว
ช่วงนี้โครงสร้างอาคารเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ก็ยิ่งเห็นความสวยงามโดดเด่นเป็นสง่าทีเดียว
The Lumpini 24 ตามกำหนดเดิม จะต้องโอนได้ในช่วงปลายปี 58 ที่ผ่านมา
แต่ทาง LPN ขอเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ค. 59 นะครับ
เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ในการก่อสร้างชั้นสระว่ายน้ำชั้นบนสุด ที่คร่อมมาทางซอยด้านข้าง
ทำเลของโครงการ อาจจะมองว่าไกลจาก BTS พร้อมพงษ์ (900 เมตร)
แต่เอาจริงๆ ครับ
ซอยนี้ทำเลดีทั้งซอย แถมที่ดินเป็นหัวมุมถนนซอยที่ตัดไปยังซอยสุขุมวิท 22 และก็ใกล้กับถนนพระรามที่สี่ด้านหลัง
ในส่วนของตัวคอนโดเอง จะไม่มี 7-11 เหมือนอย่างคอนโด LPN ที่อื่นๆ นะครับ
แต่ไม่ต้องห่วง โซนนั้นมีครบทั้ง Lawson, Starbucks, Truecoffee ฯลฯ
ส่วนกลางนั้น อลังการกว่า LPN ปกติ
ที่นี่มี 2 ชั้น และสระว่ายน้ำเป็นแบบลอยฟ้า อยู่ชั้น 46 (บอกแล้วว่า การเอาสระว่ายน้ำไปดาดฟ้าแปลว่าไฮโซฯ ทันที 555)
ที่จอดรถประมาณ 70% ไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งตอบโจทย์ทำเลที่เจ้าของห้องน่าจะมีรถกันเป็นส่วนใหญ่
บวกกับสโลแกน "ชุมชนน่าอยู่"
The Lumpini 24 จึงเป็นที่ถูกใจของคนที่ชอบทำเลแถวนั้นเป็นอย่างดี
ในแง่การลงทุน
โครงการนี้คนซื้อ "เก็บ" กันเพียบเลยครับ เอาแค่คนที่ผมรู้จักก็เยอะแล้ว
คำว่า "เก็บ" คือไม่ได้ประกาศขายกันเลยด้วยซ้ำ ทำให้ Traffic ในการซื้อ/ขายจึงเบาบางมาก
และตัว LPN เอง พอขายหมดก็ไม่โปรโมตเลยนะครับ ตั้งหน้าตั้งตาสร้างเลย
แต่ LPN นี่ มีแคแรคเตอร์นะครับ
คือจะไปบวกกันเยอะเอาช่วงตึกเสร็จ เห็นของ ก่อนโอนนี่ ขายต่อกันมันส์เลยทีเดียว
ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้ Traffic มีไม่มาก
แต่ Sale ที่โครงการ ก็ว่ามีคนมาซื้อ/ขายต่อกันเรื่อยๆ นะครับ
อย่างล่าสุด แบบ 2 ห้องนอนที่ยังพอมีขายอยู่บ้าง ก็ปรับราคากันไปหลายแสนแล้ว
ส่วน 1 ห้องนอน หมดไปตั้งแต่วันแรกแล้วครับ
สำหรับคนอยากได้ ซื้อต่อช่วงนี้ ถ้าบวกไม่เยอะก็ซื้อได้นะครับ คิดว่าใกล้ๆโอน ราคายังน่าจะไปต่อได้อีก
เพราะตึกก็สวยโดดเด่น แถม LPN ก็การันตี “ชุมชนน่าอยู่” อยู่แล้วด้วย
คงต้องมารอดูกันละครับว่า ถ้าเจ้า "แกะดำ" ตัวนี้ เป็นที่ชื่นชอบ มันจะชักชวนเพื่อนๆ "แกะดำ" ของมันมาเพิ่มหรือไม่