ปีนี้ "ตลาดพลู" จัดว่ามีความเนื้อหอมระดับ มัดเอานางงามทุกสถาบันมารวมกันเลยนะครับ

 

        ทั้งที่มีอยู่ในตลาดแล้ว และกำลังจะเปิดขายในปีนี้หรือปีหน้า เช่น โกวศุ(เปิดไปแล้ว) , พี่แอฟ , พี่สิบหมื่น , ต้นไม้ (ใครไม่เข้าใจ พยายามตามเพจเยอะๆนะครับ อิอิ)

 

        แทบจะครบทุก Developer กันละ ใครไม่มา ถือว่าผิด 

 

        ที่สำคัญ ส่วนใหญ่ มักต่อท้ายชื่อโครงการว่า "สาทร-ท่าพระ" ใครไม่ใช้ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างโครงการ ก็เป็นด้ายยยนะ ... 555

 

        เดี๋ยวผมจะพยายามทำรีวิวให้ครบทุกโครงการเลย รออ่านกันได้

 

        ส่วนวันนี้ จะเป็นโครงการอะไร เลื่อนลงไปอ่านได้เลยครับ 

 

        1. ชื่อโครงการ "Unicorn" ได้แต่ใดมา?

 

        เมื่อหลายเดือนก่อน ชื่อโครงการ "Unicorn" ได้ลอยเอื่อยๆมาเข้าหูผมอย่างจัง โดยพลันผมไปนึกถึง "เจ้าม้ายูนิคอร์น" สีสันบาดใจ ที่เจ้าอสูรน้อย (ลูก) ชอบดูใน Netflix เหลือเกิน

 

        ทีนี้ก็มานั่งนึก โครงการจะออกแบบมาเป็นไงหว่า 555 ดูแล้วไม่น่าใช่ 

 

        เลยลองสอบถามทาง Altitude ไป ได้ความว่า แนวคิดโครงการ เป็น "Unicorn" จริง แต่ไม่ได้เอามาจากการ์ตูนนะ 555 แต่เป็น "Unicorn" ที่หมายถึง Start up ที่สร้างมูลค่าได้ถึงหลัก 1 พันล้านเหรียญต่างหาก ซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่ปี 2013 โดยคุณ Aileen Lee (ใครฟระ?555) 

 

        โครงการ ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เน้นการเป็นสังคม และสร้างสังคม ออกแบบส่วนกลางให้เอื้อต่ออาชีพสมัยใหม่ 

 

        จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ "Unicorn" นั่นเอง 

 

        และแน่นอนว่า เมื่อมาอยู่แถวนี้ "Unicorn" ชื่อเต็มก็จะต้องกลายเป็น "Unicorn สาทร-ท่าพระ" อย่างแน่นอน 5555 เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามเนอะ

 

        2. ทำเลที่ตั้ง อยู่ที่ไหนกันนะ

 

        "Unicorn สาทร-ท่าพระ" วางตัวเองอยู่ติดถ.ราชพฤกษ์ ฝั่งขาออกเมือง มุ่งไปทางกาญจนาภิเษก เลยแยกที่ตัดกับถ.รัชดาภิเษกมาทางซ้าย

 

        เวลาขับรถเข้าโครงการ อาจจะงงกันเล็กน้อย เพราะต้องไปกลับรถทางเส้น ถ.รัชดาก่อน ไม่สามารถวิ่งตรงผ่านแยกได้ ก่อนไปเยี่ยมชมโครงการ ศึกษาทางรถหน่อยก็ดีครับ จะได้ไม่หลงทางกัน

 

        รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด คือ BTS สายสีเขียว "สถานีตลาดพลู" ห่างประมาณ 150 ม.* (ตรงนี้ฝากไว้ก่อน เดี๋ยวไปขยายข้อ 3)

 

        เขียนถึง "ตลาดพลู" จู่ๆก็เริ่มมีน้ำลายออกมาเต็มปาก เพราะเจ้าสมองตัวดี ดันไปนึกถึงของอร่อยๆแถวนี้เนี่ยสิ 5555

 

        แถวนี้จัดว่าเป็นดงของกินชั้นเยี่ยมเลยนะ มีร้านอร่อยๆ ซ่อนตัวอยู่เพียบ ผมนี่ สั่ง Grab มาสอย แทบทุกเช้าเลย 

 

        สาเหตุที่แถวนี้มีร้านอร่อยๆเพียบ เคยเล่ามาหลายทีแล้ว แต่ก็ยังจะขอเล่าอีกที อิอิ ก็เพราะว่า แต่ดั้งเดิมสมัยเรายังมีเมืองหลวงเป็น "กรุงธนบุรี" ตรง "ตลาดพลู" จะเป็นชุมชนที่คนจีนมาตั้งรกรากกัน ซึ่งแน่นอนว่า คนจีนกับของอร่อยมักเป็นของคู่กันเสมอ

 

        ถึงแม้ว่า ทุกวันนี้จะย้ายไป "เยาวราช" กันแล้ว แต่หลายส่วน ก็ยังคงเลือกที่จะไม่ย้าย เลยทำให้เรายังมีของอร่อยๆอยู่นั่นเอง ต้องขอขอบพระคุณจริงๆครับ แฮร่..!!

 

        ตรงโซนนี้ ยังมี "The Mall ท่าพระ" เป็นแหล่งพึ่งพิงชั่นเยี่ยม ห่างจากโครงการประมาณ 500 กว่าม. เดินได้อยู่แล้ว และในช่วงเย็นๆ จะมีของกินตามทางเยอะเชียว

 

        ในแง่อาหารการกิน อยู่ในขั้นอุดมสมบูรณ์เลยครับ 

 

        3. Sky walk มีจริงหรือ?

 

        มาถึงที่ค้างเอาไว้จากหลายบรรทัดก่อน 

 

        ครั้งแรกที่ผมได้ยินข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนว่า ทางโครงการ(อาจ)จะทำ "Sky walk" จากตัวสถานี มาเกยถึงหน้าโครงการเลย

 

        ผมยังออกลังเลว่า "จะจริงหรือ?" เพราะได้ยินมาว่า การบันดาล "Sky walk" ขึ้นมาแต่ละครั้ง ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนไม่น้อยเลย สูงถึง 8 หลัก..!!

 

        พวกเจ้าใหญ่ๆหลายเจ้า ยังมีไม่กี่โครงการเลย ที่จะสร้าง "ขา" เพิ่มมาที่หน้าโครงการแบบนี้ จึงออกไปทาง "ไม่เชื่อ" มากกว่า "เชื่อ"

 

        แต่มาถึงตอนนี้ ก็ต้องเชื่อแล้วล่ะครับ 555 เพราะเขาประกาศออกมาซะขนาดนี้แล้ว

 

        เพราะฉะนั้น ระยะห่างถึงสถานีรถไฟฟ้า จาก 150 ม.จึงกลายเป็นเหลือ 0 ม.ทันที!!! เข้าใจตรงกันนะ

 

        นับว่าเป็นข่าวดีของคนที่ต้องตาต้องใจเจ้ายูนิคอร์นตัวนี้จริงๆ การเดินบน "Sky walk" มันดีกว่าเดินด้านล่างแน่นอน แต่ถ้าใครไม่อยากเดินให้เมื่อยกีบ ก็ให้ลงจากสถานีที่ทางออกปัจจุบันนี่ละครับ ด้านล่างจะมีพี่วินนั่งรอให้เราไปซ้อนท้ายอยู่หลายคันเลย เวลาจะไป "ตลาดพลู" หรือที่อื่นแบบด่วนๆ เราก็เดินมาใช้บริการพี่ๆเขาได้นะ ไม่ไกล

 

        4. Fallabella 

 

        ใน Sales Gallery เมื่อเราเดินเข้าไป สิ่งแรกที่เตะสายตาเลยคือมินิบาร์ที่ปะตัวอักษรว่า "Fallabella" ที่คอยบริการเครื่องดื่มให้ผู้มาเยือน

 

        เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้วกับ 1 ในร้านในตำนานแห่งย่านราชดำริ ที่คนนิยมมาแฮงค์เอาท์ พร้อมมีอาหารจานเด็ดไว้บริการด้วย ซึ่งตอนนี้ได้ย้ายมาเปิดที่ "Iconsiam" แทนแล้ว ใครคิดถึง ก็ไปเยือนกัน 

 

        ส่วน "Fallabella" ที่อยู่ในโครงการ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหายไปไหนนะ เพราะจะฝังรากอยู่ที่ Lobby ไปตลอดเลยครับ

 

        อ๋อ ส่วนใครอยากมาดื่มเพื่อระลึกความหลัง ช่วงนี้ที่ Sales Gallery มีบริการให้ดื่มฟรีทุกวันเลยนะ มาดื่มกันเร็ว 555  

 

        5. ส่วนกลาง ของคนยุคใหม่

 

        ในส่วนของ Facility ทั่วไป ผมคงไม่กล่าวถึงเนอะ ไปดูใน Preview เอาได้ ว่ามีอะไรบ้าง ที่นี่มีครบอยู่แล้ว 

 

        Facility ที่แตกต่างจากที่อื่นจริงๆ ก็คือ E-Sport room ลองเลื่อนไปดูรูปล่างๆได้เลย

 

        E-Sport room อธิบายง่ายๆ มันคือห้องเล่นเกมนั่นเอง ซึ่ง..ถูกใจผมยิ่งนัก อิอิ ภายในห้องจะมีคอมพิวเตอร์อย่างดีหลายเครื่องไว้คอยบริการ เอาใจนักแคสเกม หรือ ยูทูปเบอร์ อาชีพใหม่ของคนในยุคนี้ ได้เป็นอย่างดี 

 

        ส่วนกลางอื่นๆที่นี่ จะเน้นการสร้างสังคมครับ รวมไปถึงการสร้างโอกาสหารายได้

 

        Co-Creation Kitchen ก็เป็น 1 ในส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ เราสามารถมาทำอาหารเพื่อขาย ตรงนี้ได้เลย

 

        นับว่าเป็น Facility ที่ออกแบบมาสอดคล้องกับชื่อโครงการ "Unicorn" จริงๆ ผมเชื่อว่าเป็น "จุดขาย" ที่ดีนะ

 

        6. รูปแบบห้อง

 

        ภายในโครงการจะมีแบบห้องหลักๆแค่ 3 แบบเท่านั้น คือ แบบ 1 Bedroom ขนาด 23.64-34.56 ตร.ม. , 1 Bedroom Plus ขนาด 36.98-57.78 ตร.ม. และ Loft 1+1 Bedroom ขนาด 57.01-69.28 ตร.ม. (รวมพื้นที่ด้านบนแล้ว)

 

        รูปแบบที่ผมชอบที่สุดที่นี่ ก็คือแบบ Loft นี่แหละครับ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านดี ฝ้าสูง 4.6 ม.

 

        มีห้องนอน 2 ห้อง สามารถเอาไปปรับเปลี่ยนใช้ตามที่เราชอบได้

 

        มีข้อแนะนำนิดหนึ่ง ตรงบนฝ้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ว่างอยู่ เราสามารถทำเรื่องขอนิติฯ ในภายหลังเพื่อดัดแปลงให้เป็นพื้นที่เก็บของได้นะ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ประมาณหนึ่งเชียว

 

        ผมคาดว่า ห้อง Loft น่าจะขายหมดโครงการได้อย่างไม่ยากเย็น แหม น่าจะทำมาเยอะกว่านี้หน่อย 555 

 

        7. Smart mirror

 

        เป็นอีก 1 จุดเด่นที่ผมชื่นชอบจริง อธิบายง่ายๆ มันคือกระจกเงาบานใหญ่ ที่แฝง Tablet Android ไว้ด้านในแบบเนียนๆ 

 

        ทันทีที่เห็นนี่ นึกถึงคุณภรรยาเลยว่าต้องชอบแน่นอน

 

        ในห้องตัวอย่าง จะมีการวางไว้ในที่แตกต่างกันไป เช่น บนตู้วางรองเท้า หรือห้องนอน แต่ผมขอเสนอให้ย้ายไปวางติดผนังในห้องน้ำครับ รับรองดูเพลิน 555 

 

        โดยปกติ ผมมักหนีบเอา iPhone เข้าไปในห้องน้ำเสมอ เพื่อเปิดฟังเพลงระหว่างอาบน้ำ ตัวคุณภรรยานี่ยิ่งกว่า พก iPad เข้าไปดูซีรีย์ ซึ่งตกแตกไปเรียบร้อย ฮือๆ 

 

        ปัญหานี้จะหมดไปแน่นอน เมื่อมี Smart mirror มีใครพอแนะนำได้ไหมครับว่าสามารถซื้อได้ที่ไหน อิอิ 

 

        ตัว Smart mirror ไม่ได้แถมตลอดเวลานะ ต้องอาศัยความสามารถในการเจรจา 555 และดูช่วงโปรโมชั่นด้วย ลองคุยกับน้องเซลทั้งหลายดูครับ 

 

        8. สินสอด (ราคา)

 

        ค่าสินสอดนั้น พ่อตา Altitude ยังเปิดเผยมาไม่มากนัก อยากรู้ต้องลองไปสู่ขอด้วยตัวเอง อิอิ ผมรู้มาคร่าวๆว่าเริ่มที่ 2.19 ล้านบ. สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom และ ประมาณ 4 ล้านกว่าบ. สำหรับ ห้องแบบ Loft 

 

        ราคาเฉลี่ย/ตร.ม. ทั้งโครงการจะอยู่ที่ราว 100K ราคานี้ พ่อตาได้ให้ห้องเรามาแบบ Fully Furnished เลย ให้เกือบหมดทุกอย่างละ ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้า ลองไปถามน้องเซลที่ Sales Gallery ได้เลยครับว่าได้อันไหนบ้าง ไม่ได้อันไหนบ้าง เพื่อความชัวร์ 

 

        สำหรับคนที่สนใจ ตั้งเตือนในมือถือโลด รอกันอีกไม่นานแล้ว วันที่ 20-21 ก.ค.นี้ ทางโครงการจะเปิดรอบ Pre-sale ให้มาสู่ขอกันได้ สินสอดเริ่มที่ 2.19 ล้านบาท ก่อนไป ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด คลิกที่นี่ ด้วยนะ สามารถติดต่อทาง Sales Gallery ที่เบอร์นี้ได้เลย 093-663-5656 หรือถ้าสะดวกทางไลน์ ก็ คลิกที่นี่  แล้วไว้เจอกันครับ