คืนก่อนพี่หมีนอนไถเฟสบุ๊คเล่นอยู่ดีๆ ก็บังเอิ๊ญญบังเอิญไปเจอโพสที่เพื่อนแชร์มาหน้าฟีด สะกิดต่อมอ้วนของพี่หมีจริงๆ โพสที่ว่านั่นก็คือ “กุ้ยช่ายตลาดพลู” หันมองนาฬิกาเป็นเวลา 5 ทุ่ม… อยากจะกดอันเฟรนด์ให้รู้แล้วรู้รอดกับการกระทำอันแสนใจร้ายนี้ คืนนั้นพี่หมีหลับไปพร้อมกับเสียง จ๊อกกกกกก (เสียงท้องร้องนั่นเอง) พร้อมกับใจที่มุ่งมั่นมากว่า เอาล่ะ รุ่งเช้า ฉันจะต้องได้กินกุยช่ายตลาดพลูให้ได้!!!
ถ้าพี่หมีมุ่งมั่นทำงานเท่าเรื่องกินก็ดีสิ อิอิอิ พี่หมีเริ่มต้นออกเดินทางเลยจ้า วิธีเดินทางก็ง่ายๆ พี่หมีเริ่มต้นจาก สถานี BTS ราชเทวีก่อนเลย (พี่หมีซื้อตั๋วแบบเที่ยวเดียวในราคา 59 บาท) ลงที่สยามเดินข้ามไปเปลี่ยนเป็นสายสีลม แล้วนั่งยาวไปถึงสถานีตลาดพลูเล้ยยย
ความซวยมาเยือน พี่หมีขนลุดซู่ไปหมด เหมือนมีพลังงานบางอย่างมาสถิต55555 แต่ความจริงแล้วพี่หมีแค่…ปวดฉี่ หันซ้ายแล ขวา นั่นไง ทางออก 3 ไปเดอะมอลล์ ท่าพระ!!! สวรรค์ของพี่หมีอยู่ไม่ไกล ขอตัวแวะไปทำธุระก่อนแล้วกัน
เรียบร้อยยยแล้ว พี่หมีเดินข้ามสะพานลอยที่เชื่อมต่อกับชั้น 2 ของตัวห้างเดอะมอลล์ เพื่อมุ่งหน้าไปตลาดพลูต่อ
เอ๊ะ!! แอบเห็นอะไรนะ
ฮั่นแน่ ล้อมรั้วแบบนี้ ต้องเตรียมสร้างอะไรแหงๆ ขอแวะไปชมซักหน่อยแล้วกัน
นั่นไง ว่าแล้ว พฤกษา มาปักหมุดอยู่ตรงนี้อีกราย ทำเลดีซะด้วย ตรงข้ามห้างเลยแหะ ซึ่งโครงการที่พฤกษาเค้ามาปักหมุดไว้ก็คือ โครงการ The Tree Talat Phlu Station หรือ เดอะทรี ตลาดพลู สเตชั่นนั่นเอง แอบเห็นรายละเอียด ตรงป้ายไวนิลที่เค้าล้อมรั้วเอาไว้ว่า โครงการ เดอะทรี ตลาดพลู คือจะเป็นอาคารชุดพักอาศัย 1 อาคาร เป็น Low Rise สูง 34 ชั้น แต่มีห้องทั้งหมด 910 ห้องเลยนะ!! ที่สำคัญมีอาคารสำหรับจอดรถแยกต่างหากอีกหนึ่งอาคารมาในความสูง 6 ชั้นเลยทีเดียว ส่วนรายละเอียดยิบย่อยอย่างรูปแบบ/ขนาดห้อง ส่วนกลางต่างๆ อย่าเพิ่งคาดหวัง เพราะตอนนี้พี่หมีก็ยังไม่รู้555555 (คงต้องรอให้โครงการคืบหน้ากว่านี้สักนิด ไว้พี่หมีจะมาอัพเดทนะจ้ะ)
เอ้อออ มาหากุ้ยช่ายกิน ก็แอบได้งานเหมือนกันนะเนี้ย อิอิ
ส่องๆทำเลดู แอบอิจฉาลูกบ้านในอนาคตของเค้านะ เพราะอะไร? เพราะของกินล้อมรอบขนาดนี้ ไม่อดตาย แถมไม่ผอมด้วย55555
คือถัดจากโครงการก็มี ตลาดไทยช่วยไทยพลาซ่า อันนี้มีของกิน มีเสื้อผ้า ร้านยา ร้านแว่น โอ้ยยย หายห่วงอ่ะอยู่ตรงนี้ เดินเลยจากโครงการนิดเดียว ก็เจอป้ายรถเมล์ละ พี่หมีขอเริ่มทำภารกจตะลุยตลาดพลูต่อเลย
ต้องบอกก่อนว่า ตลาดพลูอยู่ไม่ไกลจากโครงการ หรือ ตัวเดอะมอลล์เท่าไหร่ เดินเรื่อยๆชิลล์ๆ ก็ได้ถือว่าออกกำลังกายนิดหน่อย แต่ด้วยสภาพอากาศในวันนี้ พี่หมีขอเลือกนั่งรถแล้วกันนะจ้ะ
มาถึงแล้ว ตลาดพลู เอ๊ะๆ!! แอบแว่วๆได้ยินเสียงหวูดรถไฟ
จริงๆด้วย รถไฟมา ตามา รถไฟ (แอบคิดถึงหนังสือเรียนภาษาไทยสมัยประถมเบาๆเหมือนกันนะเนี้ย)
โอโห แหะ ตลาดพลูนี่วินเทจไม่หยอกเลย แอบนึกถึงกรุงเทพยุคพ่อแม่เราช่วงๆ 70-80 หน่อยๆ เคยเห็นรูปตามโซเชี่ยล คือบริเวรณนี้ใช่เลย มีเอกลักษณ์ดีนะ อย่างแถวๆสถานีรถไฟตลาดพลูนี่ก็เท่ห์สุดอะไรสุดแล้ว ร้านรวงต่างๆยังคงความเป็นเอกลักษณ์อยู่เลย
กลายเป็นพาสำรวจตลาดพลูไปซะงั้น ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอเดินไปดูอีกฝั่งนิดนึง
เป็นตลาดและบ้านคน ตลาดปิดแล้ว (คาดว่าอาจจะเปิดตอนเช้าตรู่) ส่วนบ้านคนนี่ เหมือนคุมโทนความวินเทจมากๆ
กำลังจะข้ามถนน สายตาเหลือบไปเจอบ้านไม้สองชั้น โดดเด่นมาก เขยิบมาดูถึงรู้ว่า เค้าเป็นร้านเบเกอรี่ ชื่อร้าน DNA Bakery
Back to the Future เจาะเวลาหาอดีตมากๆ ไม่รู้พี่หมีคิดไปเองหรือเปล่าว่ามันวินเทจอ่ะ ข้ามถนนไปเจอร้านขายหม้อไห ถ้วยชาม ต่างๆ แต่… มันไม่ธรรมดา เพราะมันเป็นหม้อสมัยก่อนน่ะสิ!! เห็นมั้ย พี่หมีไม่ได้คิดไปเอง ว่ามันวินเทจสุดๆไปเลย
เอาล่ะ สำรวจบ้านเรือนไปซักพัก หิวแหะ ไปหาอะไรกินดีกว่า ย่านนี้ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องของกิน คือมีอาหารให้เลือกเยอะมากกกก นี่ขนาดตอนที่พี่หมีไปบางร้านยังไม่เปิด หรือบางร้านอาจจะปิดไปแล้ว ก็ยังถือว่าของกินเยอะอยู่ดี
พวกของกินขึ้นชื่อของเค้าก็มีทั้ง กุ้ยช่ายตลาดพลู บะหมี่ตงเล้ง เกาเหลาเนื้อเปื่อย ขนมหวาน โอ้ยยยย เยอะแยะทั้งของคาวของหวานเลยทีเดียว
พี่หมีแวะชิมทีละเล็กละน้อยจนอิ่ม ก่อนจะเดินกลับ BTS ชิลล์ๆ ระยะทางไม่ไกลให้อาหารย่อย
สรุปเลยว่านอกจากจะได้ทานอาหารอร่อยๆในตลาดพลูแล้ว สิ่งหนึ่งที่พี่หมีสัมผัสได้คือวิถีชีวิตของผู้คนที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ตึกรามบ้านช่องที่ยังคงสวยงาม
เพื่อนๆลองหาเวลาว่างซักวันหรือครึ่งวันแวะมาหาอะไรอร่อยๆ พร้อมกับการซึมซับวิถีชีวิตผู้คน พี่หมีเชื่อว่า คงจะได้รับความประทับใจไปแบบพี่หมีกันอย่างแน่นอน