แต่วันนี้ Nutella ได้มีคู่ปรับตัวฉกาจคือ Ovomaltine ชื่อคล้ายๆ Ovaltine บ้านเรานั่นแหละครับแต่เป็นครีมช็อกโกแลตมอลต์สูตรสวิสเซอแลนด์ ที่ผลิตในประเทศเบลเยี่ยมโดยฉลากข้างกระปุกได้เขียนไว้ว่า Hergestellt in Belgium มันก็แปลว่า Made in Belgium นั่นเอง!!!  จุดเด่นที่ต่างกันของ 2 แบรนด์นี้ที่เห็นได้ชัดเจนส่วนผสมหลักที่นอกเหนือจากครืมช็อกโกแลต

                  ฉะนั้นคนที่ไม่ชอบกลิ่น, รสชาติของถั่วฮาเซลนัท ก็จะสามารถทาน Ovomaltine ได้อย่างสบายใจทีเดียว พอผมได้ข่าวมา มีหรือครับที่จะรอช้า หาแหล่งพรีออเดอร์ (ที่ยุคนี้ใครอยากพรีออเดอร์อะไร จากไหนก็สะดวกสบายมาก) มาลองกัน เนื่องจากยังไม่มีตัวแทนจัดจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งบังเอิญผมโชคดีที่มีคนรู้จัก สามารถซื้อแบบไว้ใจได้ แล้วส่งมาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากสั่งไปแล้วก็นั่งตังตารอครับ หลังจากนั้น 3 วันผ่านไปก็มีพัสดุที่ผมเฝ้ารอมาส่งถึงบ้านแล้ว!!!  แล้วทีนี้ก็จะมาลองทาน Ovomaltine ของจริง อร่อยจริง อ้วนจริงกันครับ

                   พอเปิดฝาออกมาก็มีฟลอยด์บางๆ ซีลอยู่เหมือน Nutella ไม่รอช้าหาปลายช้อนมาปาดรอบๆ เพื่อเอาฟลอยด์ออก(อย่าพยายามใช้มือแกะเลยครับ มันค่อนข้างลำบากมากในการแกะ แล้วดึงออกมาเป็นชิ้นอย่างสวยงาม...ผมเคยลองมาแล้ว) ผมก็ได้พบกับครีมช็อกโกแลตมอลต์กับชิ้นช็อกโกแลตกรุบๆ พร้อมกับไขมันลอยอยู่ข้างบน (แต่ไม่เยอะเท่า Nutella)ไม่รอช้ารีบเดินไปปิ้งขนมปังรอเลยครับ 555 (ผมเคยกินแบบป้ายขนมปังนุ่มๆ ธรรมดา และขนมปังปิ้ง ผมว่าแบบร้อนๆ กรอบๆ อร่อยกว่าเยอะเลยครับ)  หลังจากนั้นกลับมาเอาช้อนทำการกวนๆ ให้ไขมัน (น้ำมันข้างบน) รวมตัวกับครีมครีมช็อกโกแลตแล้วตักขึ้นมาชิม  รสชาติแต่ต่างจาก Nutella พอควรเลยครับ เรียกว่าคนละแบบเลยดีกว่า กลิ่นช็อกโกแลตมอลต์ กับ ชิ้นช็อกโกแลตกรุบๆ ทำเอาผมลืม Nutella ไปแป๊ปนึงเลยครับ

                    ผมว่ามันกินแล้วเพลินกว่า Nutella แต่รสชาติ Nutella ก็ยังเข้มข้นกว่าเพราะว่าตัวครีมของ Ovomaltine จะเหลวกว่า Nutella พอควร แต่ข้อดีคือมันทาบนขนมปังง่ายกว่ามากๆ ครับ!!!

ผ่านไป 2 นาที ขนมปังเด้งขึ้นมาจากเครื่องปิ้ง ผมก็รีบคว้ามาปาดหน้าด้วย Ovomaltine เป็นสามเส้น (จะได้ปาดง่ายๆ) แล้วปาดให้ทั่ว
ผลสรุป ฟิน..นนนนนครับ ด้วยความที่ตัวครีมที่เหลวกว่า และมีเนื้อกรุบๆ ให้เคี้ยวเพลินๆ ผมว่าเป็นอีกทางเลือกนึงที่ดีสำหรับคนชอบ Chocolate spread เลยครับ  ส่วนค่าตัวของ Ovomaltine นี้ผมซื้อมาราคา 460 บาท (400 กรัม) ก็แพงกว่า Nutella พอสมควร

ใครได้เคยลองชิมก็ลองมาคอมเม้นท์กันได้นะครับ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง  จากที่หาข้อมูลมาใน Duty free ของสิงคโปร์มีวางขายในราคาประมาณ 350-380 บาทครับ เอาแคลอรี่เข้า แล้วอย่าลืมออกกำลังกายเบิร์นออกกันด้วยนะคร๊าบ