ติดดอยคอยคอยดื่มตอนนี้ ผมขอพาไปชิมเบียร์ประเทศใกล้ๆเราอย่างเวียดนาม ต้อนรับ AEC กัน
จริงๆผมไม่ได้เดินไปเองหรอกครับ
แต่ว่ามีเพื่อนรัก อุตส่าห์แบกขึ้นเครื่องบินกลับมาให้ ได้มาสี่กระป๋องตามที่เห็นในภาพ
ไหนๆช่วงนี้อากาศก็เย้นเย็น(ตอนเขียนอากาศยังเย็นอยู่นะ) เบียร์ก็เย็นเจี๊ยบ งั้นเราจะรออะไรละครับ
ขอเริ่มจาก Larue ก่อนละกัน
ลองเซิชกูเกิ้ลดู เจอว่าชื่อเต็มๆของ Larue นี่คือ Biere Larue
อืม.. ตกลงเบียร์ที่เวียดนามจะใช้คำว่า BIA หรือ BIERE ตามแบบฝรั่งเศสกันแน่เนี่ย ใครพอมีความรู้ด้านภาษาก็ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้ผมด้วยนะครับ 555
ซึ่ง Larue เค้าเริ่ม brew มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 โดยนักปรุงเบียร์ชาวฝรั่งเศส
ใน website ระบุว่า Larue นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Heineken Company ซึ่งรูปเสือที่กระป๋องก็ไปคล้ายกับรูปเสือของเบียร์ Tiger ที่อยู่ใน port ของ Heineken เอามากๆ
ปัจจุบันทั้ง Larue และ Heineken ก็ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ของ premium beer ในเวียดนาม
เท่าที่ผมลองดื่มเบียร์ mass ในภูมิภาคอาเซียนของเรา
ผมคิดว่าทั้งหมด น่าจะจัดอยู่ในกลุ่ม Lager แต่ว่าข้อมูลใน website ratebeer บอกว่า เจ้า Larue นี่ ถูกจัดย่อยลงไปอยู่ในประเภท Pale Lager นะ
ซึ่งเบียร์กลุ่มนี้ท่านว่า จะมีสีอ่อนใส และมี abv อยู่ที่ 4-6%
เรามาลองชิมกันว่าไอ้เจ้าเสือ Larue นี่จะต่างจากช้าง หรือสิงห์บ้านเรารึเปล่านะ
เริ่มจาก Larue D’Origine กระป๋องสีน้ำเงินกันก่อน
ตัวนี้ abv.4.2% ซึ่งค่อนข้างน้อย ถ้าเทียบกับ 5-5.5% ของเบียร์บ้านเรา
เทใส่แก้ว เบียร์สีอ่อนใสตามคาดของเบียร์ลาเกอร์ ทรงฟองก็ไม่ต่างจากของบ้านเราเท่าไหร่ ลองดมดูได้กลิ่นหอมจางๆ
ลองจิบแรก ผมว่ารสชาติอ่อนใส ออกแนวเบาๆเน้น refreshment มากกว่าที่จะเน้นเมา ไม่ค่อยมี aftertaste สักเท่าไรนัก
ผมว่าดื่มง่ายกว่าเบียร์บ้านเราที่จะมีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งเบียร์ไทยอาจจะเข้ากับอาหารไทยเราที่เน้นรสจัดมากกว่า
ในขณะที่ Larue ก็อาจจะถูกปรุงมาให้เหมาะกับรสชาติของอาหารเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่จะจืดกว่าบ้านเรา เป็นเบียร์ที่ดื่มง่ายตัวนึงเลยครับ แค่ 4.2% อยู่กันได้ยาวไปๆ
มาต่อที่ Larue Export กระป๋องสีแดง abv.4.5%
เบียร์ขวดนี้ ขออนุญาตดื่มพร้อมแก้วแช่น้ำแข็ง เพราะไหนๆเบียร์ Lager AEC นี่มันก็ใกล้เคียงกันซะเหลือเกิน (ถ้าดื่มเบียร์ดีๆพร้อมน้ำแข็งนี่ฝรั่งมีงงนะครับ)
ตัวนี้สีเหมือนกับตัวแรก แต่ว่ามีฟองหนาว่าพอสมควร กลิ่นก็ออกมาชัดเจนกว่ากระป๋องน้ำเงิน แต่ว่าก็ยังไม่ผิดแปลกไปจากกลิ่นของ Lager ทั่วๆไป
มาลองชิมดูจิบแรกพบว่ามันมีรสชาติที่มี character ชัดเจนกว่ากระป๋องน้ำเงินอย่างเห็นได้ชัด
ทิ้งรสชาติและ aftertaste มากกว่ากระป๋องสีน้ำเงินอยู่นิดหน่อย
ใน website ของเค้าระบุว่า เจ้ากระป๋องแดงนี่จะให้ประสบการณ์แบบ ‘multi level’ ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นยังไง(วะ) 555
แต่โดยรวม ผมว่าตัวนี้สำหรับแฟนเบียร์ชาวไทยน่าจะเข้าทางมากกว่ากระป๋องน้ำเงินนะครับ
สรุป Larue หรือ Biere Larue จากเวียดนามทำออกมาได้ดีกว่าที่คิด (ถ้าเทียบกับเบียร์ลาเกอร์แมสๆในกลุ่ม AEC และประเทศจีนนะ)
เป็นเบียร์ที่มี Character พอดีๆตัวนึง น่าจะไปกันได้ดีกับอาหารเวียดนาม หรืออาหารที่รสไม่จัดนัก
จริงๆทั้งสองกระป๋องนี่ ถือว่ามี abv. ค่อนข้างต่ำ หากแฟนเพจท่านใดมีโอกาสไปเที่ยวเวียดนาม ก็แนะนำให้ลองกันดูนะครับ หรือถ้าใครมีประสบการณ์กับเบียร์เวียดนาม หรือเบียร์นอกเจ๋งๆ ในเวียดนามก็รบกวนมาแชร์กัน
สำหรับ Biere Larue ในเมืองไทย ผมไม่แน่ใจว่ามีขายหรือไม่ แต่ว่าผมเคยเห็น Bia Saigon ในร้านอาหารเวียดนามบางร้านในกทม. ซึ่งผมจะขอยกไปดื่มในโอกาสถัดไป
ขอให้มีความสุขในการดื่มเบียร์โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเย็นๆแบบผิดปกติเช่นนี้ครับ