เพิ่งเป็นข่าวเป็นคราวกันไม่นานมานี้เองว่าทาง “เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ “CPN” ประกาศเปิดตัวโครงการ “Central Village” (เซ็นทรัล วิลเลจ) Luxury Outlet ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Bangkok Outlet Experience” กะพริบตาไม่กี่ทีก็ก่อสร้างไปแล้วกว่า 80%
แต่ชีวิตคนเราล้วนไม่ง่าย ทั้งๆ ที่กำลังไปได้สวยแต่ดันมีเรื่องตะหนุกตะหนานมาสะกัดดาวรุ่งกันเสียก่อน กลายเป็นมหากาพย์ "ทอท. ตัวร้ายกับนาย CPN ตัวดี" ให้เราได้ติดตามกัน แต่ถ้าใครยังไม่รู้ว่า Central Village คืออะไร แล้วก่อสร้างเกือบเสร็จแล้วดันมีเรื่องอะไรเข้ามาอีก วันนี้หมีมาสรุปความเป็นมาคร่าวๆ ให้ได้อ่านกัน ง่ายๆ ภายใน 4 ข้อ!
รู้จักกับ Luxury Outlet และ Aerotropolis กันก่อน
ถ้าพูดถึง Luxury Outlet แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพ่วงเอา Aerotropolis มาด้วย Luxury Outlet ที่ว่านี้คล้ายๆ กับศูนย์การค้านั่นแหละครับผม แต่มันก็ไม่ใช่ศูนย์การค้าแบบเต็มตัวเลยซะทีเดียว พูดให้น่าฟังมันคือรูปแบบใหม่ของการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมลดราคา
ปกติแล้วถ้าจะรอไอ้เจ้าพวกนี้ลดราคาแต่ละทีเค้าจะมี Seasonal Sale กันใช่มั้ยล่ะ แต่ Luxury Outlet ที่ว่านี้จะเอาสินค้าแบรนด์เนมมาลดราคากันทุกวันเลย
และที่หมีพูดถึงอยู่เนี่ยมันก็คือส่วนหนึ่งของ Aerotropolis หรือเมืองสนามบิน โมเดลระดับโลกที่ประสบความสำเร็จมาก โดยองค์ประกอบของ Aerotropolis นั้นเด่นๆ เลยก็จะมีในเรื่องของการคมนาคมไร้รอยต่อ แหล่งช็อปปิ้ง ร้านอาหาร สถานที่พักผ่อน รวบรวมอยู่ใกล้สนามบิน ถือเป็นจุดละลายทรัพย์ครั้งสุดท้ายก่อนนักท่องเที่ยวจะบินจากไปนั่นเอง
และด้วยความที่สุวรรณภูมิบ้านเรานับว่าเป็นทำเลทอง ทางเซ็นทรัลพัฒนาเลยปิ๊งไอเดียจะสร้างแพลตฟอร์มใหม่ของสถานที่ช็อปปิ้งขึ้นมาบ้าง สุดท้ายเลย บู้ม! เกิดเป็นโกโก้ครันช์... เอ๊ย! เกิดเป็น Central Village นี่เอง
สะดวกสบาย ง่าย ราคาถูก
อย่างที่บอกไปว่าด้วยความเป็นงานลดราคาที่ไม่ต้องรอให้ถึงช่วง Seasonal Sale งานนี้หลายฝ่ายเลยจับตามอง Central Village กันมากทีเดียว โดยการคมนาคมไร้รอยต่อคือเรื่องแรกที่ต้องใส่ใจ ซึ่ง Central Village เองก็มีโลเคชั่นตั้งอยู่ในส่วนต่อขยายของสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ดังนั้นแค่นั่งรถรับส่งจากสนามบินเพียง 10 นาที เราก็สามารถโปรยเงินช็อปก่อนขึ้นเครื่องได้ไม่ต่างจากเอ้าท์เล็ตของเมืองอื่นๆ อย่าง ฮ่องกง โอซาก้า หรือฮอกไปโด แล้ว
เราเองเป็นคนกรุงเทพฯ พอดีอยากช็อปแบรนด์เนมบ้างก็สามารถเดินทางไปง่ายๆ โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีด้วยทางด่วนและถนนสายหลักหลายสาย หรือใครไม่มีรถส่วนตัวก็นั่งรถรับส่งจาก Central World มาที่โครงการก็ยังได้อีก เนี่ย...ถึงได้บอกไงว่ามันสะดวกสบาย ง่าย แถมยังราคาถูกด้วย
มีอะไรบ้างใน Central Village
แน่นอนว่าต้องเป็นแบรนด์ดังทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ถ้าให้เจาะจงกันหน่อยเท่าที่หมีพอจะรู้มาก็จะมีแบรนด์ Polo Ralph Lauren, Kenzo, Vivienne Westwood, CK Jeans,Adidas, Matter Makers, Guess, Converse, Super dry, Rip Curl, Roxy, Quiksilver, Samsonite ฯลฯ แล้วเค้าก็ไม่ได้เน้นแค่เรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เพราะในโครงการก็จะมีแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัว ของเล่น แล้วก็พวกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกเพียบเหมือนกัน
และด้วยความเป็นเมืองสนามบิน ที่นี่จึงจะไม่ได้มีแค่แหล่งช็อปปิ้งเท่านั้น แต่ยังเสริมทัพเพื่อเติมเต็มความครบครันกันด้วยโรงแรม ร้านอาหาร จุดบริการนักท่องเที่ยว สนามเด็กเล่น เวิร์คกิ้งฮับ และอีกมากมายหลายอย่างที่ตอบโจทย์ความเป็น Aerotropolis กันแบบเต็มที่
นอกจากนี้ทาง CPN เค้าก็คาดการณ์ไว้เลยว่า Central Village จะดึงดูด Traffic จากกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงได้ถึงปีละกว่า 6 ล้านคน หรือตกวันละกว่า 17,000 คน ส่วนทาร์เก็ตนั้นคือกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูงและชอบสินค้าแบรนด์เนมแต่ต้องการสินค้าในราคาคุ้มค่า กับกลุ่มนักท่องเที่ยว Young Affluent จากทั่วโลก พุ่งเป้าไปที่พี่จีนกับพี่รัสเซียเลยแหละ
จะถึงเส้นชัยอยู่แล้วแต่เจอสกัดดาวรุ่ง
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากำหนดดีเดย์วันเปิดให้บริการของ Central Village ก็คือปลายเดือนสิงหาคมนี้ ใช่แล้ว สิงหาคมนี้! เป็นพี่หมีก็คงเตรียมจุดพลุฉลองเพราะเค้าก่อสร้างไปแล้วกว่า 80% แต่พลุก็ดันเป็นหมัน เพราะ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ดันไปพบว่าบางส่วนของโครงการมันมีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิของกรมธนารักษ์ ซึ่งตอนนี้ พี่ ทอท. เค้าเช่าอยู่นะเฮ้ย!
ไม่ยอม เจอแบบนี้แล้วยอมไม่ได้! ทอท. เลยยื่นทำหนังสือให้ตรวจสอบเรื่องการก่อสร้าง Central Village แต่ทาง CPN ก็โต้กลับไปเหมือนกันว่าการสร้างโครงการนี้ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการนะ ตัวอาคารแต่ละหลังขนาดพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ความสูงไม่เกิน 23 เมตร สร้างบนที่ดินที่ซื้อมาจากเอกชนจากหยาดเหงื่อแรงกายของเราอย่างถูกต้องตามกฎหมาย! ถึงจะตั้งอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ไม่ได้รุกล้ำที่ดินของรัฐสักหน่อย! ยังไงก็จะเปิดให้บริการในวันที่ 31 สิงหาคม 2562 นี้แน่นอน!
สรุปคร่าวๆ แล้วก็จะประมาณนี้ ซึ่งหมีว่ามันก็น่าคิดอยู่เนอะว่าทำไม ทอท. ถึงเพิ่งยื่นหนังสือให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบถึงเรื่องการก่อสร้างโครงการที่ว่านี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเวลาตั้งมากมาย แต่ก็นั่นแหละครับ มหากาพย์เรื่องนี้ดูท่าจะยังไม่จบ เราชาวบ้านตาดำๆ ก็คงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป แต่พี่หมีว่าคงไม่ต้องรอนานหรอก เดือนสิงหานี้เราคงได้ดูอะไรดีๆ กันอีกสักรอบหนึ่ง