หลังจากที่ผู้ลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูอย่าง BSR หรือ บีทีเอส-ซิโน-ไทยฯ-ราชบุรีโฮลดิ้งส์ เซ็นสัญญาไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2560 และรับส่งพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2561 กำหนดเสร็จและเปิดใช้งานตามสัญญาคือตุลาคม 2564 โดยมีระยะเวลาการก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน ซึ่งถือเป็นความท้าทายของผู้รับเหมาก่อนสร้างของโครงการนี้อย่าง “ซิโน-ไทยฯ” เป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องทำงานแข่งกับเวลาที่เหลือ 18 โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูได้ใช้วัสดุก่อสร้าง จากโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี กับเงินลงทุนที่ดิน 250 ไร่เพื่อเป็นพื้นที่ตั้ง โรงงานสำหรับผลิตชิ้นส่วนของรถไฟฟ้าสองสายนี้โดยเฉพาะ

 

        ทางด้านผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ผู้แทนจาก บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ได้กล่าวว่า คานทางวิ่ง บริษัทเป็นผู้ผลิตเองที่โรงงานไทรน้อย เพื่อรองรับรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สายโดยเฉพาะ เป็นคานทางวิ่งหรือ guideway beam แบบหล่อสำเร็จขนาดใหญ่ แต่ละชิ้นมีความยาว 30 เมตร น้ำหนักประมาณ 80 ตัน ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างทางวิ่งที่แข็งแรงสำหรับให้รถไฟฟ้าโมโนเรลวิ่งคร่อมอยู่ด้านบน ส่วนการติดตั้งแต่ละครั้งจะต้องขนย้ายไปประกอบในจุดที่ต้องการติดตั้งตามขั้นตอน อาจส่งผลกระทบด้านการจราจร ได้ประสานตำรวจจราจรปิด เพื่อเบี่ยงจราจรชั่วคราวในช่วงเวลา 22.00-04.00 น.

        การวางคานทางวิ่งจะเริ่มจากหัว-ท้ายมายังตรงกลาง หลังจากติดตั้งจุดแรกที่สถานีสามัคคี บนถนนติวานนท์เป็นจุดแรกจะเริ่มสถานีมีนบุรี เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ สายสีเหลืองเริ่มที่ศรีนครินทร์ จะเริ่มทยอยติดตั้งตั้งแต่ปลาย ก.ค.นี้ไป คาดว่าจะใช้เวลา 18 เดือน หรือแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2564

 

        รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองเป็นรถไฟฟ้ารางเดี่ยว 2 สายแรกของไทย และเป็นเส้นทางยกระดับที่มีระยะทางยาวที่สุดที่ รฟม.เคยสร้างมา รวม 64.9 กม. แยกเป็นสายสีชมพูระยะทาง 34.5 กม. และสายสีเหลืองระยะทาง 30.4 กม. ซึ่งผู้รับเหมาเริ่มทำทั้ง 2 สายพร้อมกัน โดยได้ก่อสร้างมา 1 ปีแล้ว ในช่วงแรกมีปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่ การรื้อย้าย แต่ตอนนี้เคลียร์เกือบหมดแล้ว พร้อมเดินหน้าก่อสร้างเต็มที่ ตามสัญญาให้เวลาสร้าง 3 ปี 3 เดือนปัจจุบันสายสีชมพูคืบหน้า 32.9% ล่าช้าจากแผน 5% ส่วนสีเหลืองคืบหน้า 33.47% ยังอยู่ในแผนงาน เพราะมีปัญหาน้อยกว่าสีชมพู

 

        ถึงการก่อสร้างจะล่าช้าจากแผนไปนิดหน่อย แต่ผู้รับเหมาทั้ง 2 โครงการจะเร่งสร้างให้เสร็จตามสัญญาในภายในเดือนตุลาคม 2564 เนื่องจากโครงการก่อสร้างงานโยธาและระบบอาณัติสัญญาณไปพร้อม ๆ กัน โดยระบบรถได้เริ่มออกแบบการผลิตแล้วเช่นกัน เป็นระบบรถของบอมบาร์ดิเอร์ จะมาถึงประเทศไทยในเดือน ก.ย. 2563 จากนั้นจะเริ่มกระบวนทดสอบตามขั้นตอนต่อไป

 

        พี่หมีว่าอาจจะต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรในช่วงขนย้ายไปก่อนในช่วงนี้ แต่ก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี เพราะหากรถไฟฟ้าเสร็จไว คงจะช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางของคนย่านแคราย-มีนบุรี และ ลาดพร้าว-สำโรง ไปได้เยอะแน่นอน