เรื่องกินมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ โดยเฉพาะหมีที่พุงกลมอยู่แล้วเห็นของกินทีไรเป็นต้องพุ่งเข้าไปหา ประหนึ่งว่ามีเรดาร์สัมผัสได้ แม้จะมีน้ำตาลอัดแน่นเต็มกระแสเลือด หรือไขมันพอกพูนชวนให้อึดอัด แต่หมีก็ถือคติว่า “ถ้าจะตาย ต้องตายด้วยของอร่อย!”
เป็นคนมีปณิธานมุ่งมั่นแรงกล้าเยี่ยงนี้ ออกยาหมีติดดอยจึงปลุกปลอบใจพร้อมจับตะเกียบฟาดฟัน กลิ้งหลุนๆ ลงทุ่งซาลาเปา... เฮ้ยยยย นอกเรื่องละ เอาเป็นว่าวันนี้หมีผู้หิวโหยมีร้านดีๆ มาแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบอาหารจีน (หรือไม่ชอบก็กินได้ ท้องอิ่มแล้วมีแรง 555) เป็นร้านที่หมีรู้มาว่าเค้ามีเสี่ยวหลงเปาขายลูกละ 10 บาท! แม่เจ้า แถมยังเป็นร้านเล็กๆ ลับๆ ถ้าไม่สังเกตก็คงจะเดินเลยผ่านเลยไปแน่ๆ แต่ไม่ต้องกังวล มีหมีอยู่ทั้งคนอะไรก็เกิดขึ้นได้ ว่าแล้วอย่าชักช้า หมีจะพาไปรีวิวบัดเดี๋ยวนี้!
คำแนะนำ: ควรอ่านรีวิวนี้ให้จบ อย่าเลิกอ่านกลางคัน เพราะงานนี้มี "ม้ามืด"
ร้านที่หมีกำลังพูดถึงอยู่นี้มีชื่อว่า Tong Lai Shun (ตงไหลซุ่น) พิกัดนั้นก็ไม่ใกล้ไม่ไกลเลยคืออยู่ที่สุขุมวิท 41 ตอนแรกหมีคิดว่าจะต้องเดินไกล แต่เอาเข้าจริงๆ เดินแค่แวบเดียวก็ถึงแล้ว
ขั้นตอนแรกสำหรับการเดินทาง ถ้าจะเอาสะดวกสบายก็นั่ง BTS มาลงที่สถานีพร้อมพงษ์เลยครับท่าน จากนั้นเดินมาลงตรงทางออก 3 แล้วหันหลังกลับเดินมุ่งหน้าไปยังซอยสุขุมวิท 41 จะเห็นได้ว่าเป็นซอยที่ค่อนข้างครึกครื้นพอควร เพราะมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์ตั้งป้อมอยู่ตรงปากซอย และมีพนักงานออฟฟิศมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายมานั่งกินข้าวข้างทางกันเพียบ
เราไม่ต้องไปสนใจ แม้กลิ่นอาหารจะยั่วยวนมากแค่ไหนแต่วันนี้เรามาทำภารกิจ! เดินไปเลย เดินตรงไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอตรอกแรกทางขวามือ ย้ำว่าตรอกแรกทางขวามือ เลี้ยวเข้าไปโลดจ้าแม่ เดินไม่กี่ก้าวก็เจออาคารสีทึมๆ ตั้งอยู่แล้ว นี่แหละโฉมหน้าของร้าน Tong Lai Shun ที่เราตามหา!
อันที่จริงอย่าแปลกใจที่เห็นป้ายร้านมันพิกลแบบนี้ 555 นั่นเพราะตัวอักษรมันคงหลุดไปล่ะมั้ง มันเลยเหลือแค่คำว่า 'ตงไหล' อยู่สองตัวกับไม้เอกของคำว่า 'ซุ่น' อีกตัวหนึ่ง เมียงๆ มองๆ อย่างขวยเขินสะเทิ้นบก (เป็นแมวน้ำหรือไงสะเทิ้นบก?) ในที่สุดก็ลองเอื้อมมือไปผลักประตูเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ได้เห็นโฉมหน้าของภายในร้านแล้ว
กวาดตามองรอบๆ ก็ให้ความรู้สึกเหมือนภัตตาคารจีนๆ คืออยู่ในห้องติดแอร์ติดกระจกสีทึบ คนข้างนอกจึงยากที่จะมองเข้ามา บรรยากาศในร้านก็ค่อนข้างเงียบ กินกันเงียบๆ หรือเพราะเป็นเวลาที่ไม่ใช่ Prime Time ก็ไม่รู้แฮะ
ส่วนโต๊ะในร้านมีประมาณสิบกว่าโต๊ะ มีทั้งโต๊ะแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั่วไป และโต๊ะกลมจีนให้เลือกสรร ไปกินคนเดียวหรือสองสามคนเลือกนั่งแบบโต๊ะสี่เหลี่ยมก็ได้ แต่ถ้าไปกันเป็นครอบครัว พาอากงอาม่ามาและหลานๆ มากินกันก็นั่งโต๊ะกลมดีกว่า สานสัมพันธ์ในครอบครัวได้ดี
เจ้าของร้านเป็นจีนเลยแหละ แต่เป็นจีนที่พูดไทล่ายนิดโหน่ยยย แต่ก็สื่อสารกันได้สะดวกนะ
อ้อ! มาพูดถึงอาหารดีกว่า เพราะถูกล่อลวงมาว่าที่นี่มีเสี่ยวหลงเปาลูกละ 10 บาทก็เลยต้องจัดสักหน่อย ที่นี่ขายเข่งละ 10 ลูก แก๊งหมีกลมๆ ก็เลยต้องจัดไปสักหนึ่งเข่ง ยั่วๆ จ้าาา
แต่พอพลิกดูเมนูไปเรื่อยๆ ก็เจออาหารหน้าตาน่ากินอีกเยอะเลย (รายการอาหารเยอะมากจริงๆ) เลยลองเสี่ยงๆ สั่งมาเพิ่มอีกหน่อย ระหว่างนั้นก็นั่งรอไปจ้า ช่วงเวลาที่หมีไปคนยังไม่เยอะเลยไม่ต้องรอนานเท่าไร อาหารก็ทยอยมาทีละอย่าง ไม่นานก็เต็มโต๊ะ
สำหรับ first impression นั้นหมีประทับใจทีเดียว อาหารทั้งหมดหน้าตาดีมากกกก แชะภาพมาฝากกันแล้วก็ต้องขอชิมเสียหน่อย เริ่มต้นที่พระเอกของเราอย่าง "เสี่ยวหลงเปา" งานนี้มาเพราะน้องเค้า ต้องให้เกียรติน้องหน่อย
เสี่ยวหลงเปาที่นี่ขนาดอย่างที่เห็น พอๆ กับช้อนนั่นแหละครับผม หน้าตาดูดีเลยนะ มีความขาวอวบไม่น้อย อิอิ พินิจน้องนางเสร็จแล้วก็อ้ามมมม เข้าปาก เสี่ยวหลงเปานี่เราต้องดูดน้ำซุปข้างในก่อนใช่มั้ยล่ะ แต่ปรากฏว่า...ไม่มีน้ำซุป!
แม่เจ้า หมีพยายามแล้วแต่น้ำซุปคงจะมีน้อยล่ะมั้ง สารภาพตามตรงว่าไม่รู้สึกซึมซับได้ถึงรสน้ำซุปเลย แอบเฟลนิดหน่อยแต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เข้าปากกินทั้งแบบนี้เลยก็ได้ เคี้ยวไปเคี้ยวมาแล้วอร่อยดีเหมือนกัน เหมือนเกี๊ยวนึ่ง หมูให้เยอะ แล้วก็นุ่มอยู่ รู้สึกว่าเสี่ยวหลงเปาของเราก็สมราคาค่าตัวนั่นแหละ
แต่เรื่องมันอยู่ตรงนี้...
ถึงพระเอกของวันนี้จะอยู่ที่เสี่ยวหลงเปา แต่หมีอยากบอกว่าคุณได้ซีนแล้วแต่ซีนคุณแย่มาก เพราะงานนี้ดันมีม้ามืดเข้ามานั่นคือ “เต้าหู้ทรงเครื่อง (แบบเผ็ด)” คุณพระคุณเจ้า หมีขอยกให้เป็นมายเรคคอมเมนด์เลย มันดีมากกก สิบบวกๆๆๆๆ ตอนแรกเข้าใจว่าจะเผ็ดจี๊ดแต่ก็ไม่ได้เผ็ดขนาดนั้น ถึงหน้าตาน้องจะดูซี๊ดซ๊าดก็เหอะ แต่เชื่อสิว่าคนทานเผ็ดไม่เก่งก็สามารถทานได้ แถมมันมีความดีความ มีความฉ่ำซอส เต้าหู้ก็นิ่ม ยิ่งกินยิ่งฟิน ทุกคนที่ไปกับหมีล้วนบอกว่าจานนี้ดีที่สุด!
ชิมอาหารรสจัดไปแล้วเราก็ซดน้ำซุปสักหน่อย กับจานนี้ “บะหมี่ทรงเครื่องน้ำข้น” หน้าตาดีที่สุด หมีชอบภาพลักษณ์มาก เหมือนเป็นนางเอกของวันนี้ และรสชาติก็นางเอกจริงๆ ชิมไปชิมก็คิดว่านี่มันหลินไต้อวี้ นางเอกจากเรื่องความฝันในหอแดงหรือเปล่าเนี่ย เพราะรสชาติน้องคือเป็นน้ำซุปจืดๆ คนชอบทานอาหารมีรสหน่อยน่าจะไม่ชอบ แต่หมีเป็นคนชอบทานรสจืดเลยโอเคกับจานนี้นะ รู้สึกได้ว่าเป็นจานที่เหมาะจะทานในหน้าหนาวมากทีเดียว
สุดท้ายมาจบที่ของทานเล่นกันหน่อย ถึงจะบอกว่าทานเล่นๆ แต่ขนาดและปริมาณไม่เล่นเลย 5555 จานนี้หมีจำชื่อไม่ได้ ต้องขออภัยทุกท่าน แต่มันคืออะไรสักอย่างที่มีความ “กุยช่ายทอด” เป็นแป้งทอดกรอบๆ ที่ยัดไส้ด้วยกุยช่าย หน้าตาคลับคล้ายอาหารอิตาเลียนนามว่าพิซซ่า ปกติหมีเป็นคนไม่ชอบขนมกุยช่ายที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเท่าไร แต่พอลองจานนี้แล้วรู้สึกว่าโอเคเลย มีกลิ่นกุยช่ายและมีความกรอบของแป้ง จิ้มกับซอสแล้วยิ่งนัว ถือว่าผ่านสามผ่านไปเลยจ้า
อาหารที่นี่มีหลายเมนูมากกกก เครื่องดื่มหรือของหวานก็มี ยังไงต้องมาลองกันด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะอาจจะมาช่วงที่ไม่ใช่ช่วงเที่ยงนะ อ้อ! ร้านนี้เปิดทุกวัน 10:30–22:30 น. เลือกเวลามาได้ตามสะดวก หมีแนะนำว่าพาครอบครัวมาทานด้วยกันน่าจะสนุกสนานประทับใจไม่น้อย