สืบเนื่องจากเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้ ผมได้มีโอกาสไปส่องทำเลโครงการ "THE ORIGIN Sukhumvit 105" (ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) โครงการใหม่แกะกล่องของพี่ออริจิ้นเค้า ใครที่สนใจลองไปอ่านบทความเกี่ยวกับโครงการนี้
คลิกที่นี่ ดูกันได้ครับ
แล้วบังเอิ้ญบังเอิญมีโครงการคอมมูนิตี้มอลล์เปิดใหม่อยู่เยื้อง ๆ กับโครงการพอดี ด้วยความเป็นคนชอบของใหม่แล้วน้ำย่อยในกะเพาะเริ่มทำงาน เลยขอแวะไปส่องดูบรรยากาศและหาอะไรกินในโครงการนี้ซะหน่อยละกัน
โครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่ผมจะพาไปตลุยบุกเบิกในวันนี้ก็คือ โครงการ ‘ดาดฟ้า (Dadfa)’ นั่นเอง
ใช่แล้วครับ เพื่อน ๆ ไม่ได้เข้าผิด คำว่าดาดฟ้านั่นเป็นชื่อโครงการจริง ๆ ไม่ได้เป็นพื้นที่ชั้นบนสุดของอาคารอย่างที่ผมพยายามจะสื่อเหมือนในชื่อบทความหรอก อิอิ
โครงการดาดฟ้านี่ผมชอบแนวคิดของเค้านะ เพราะมันช่างแตกต่างจากชื่อของเค้ามากจริง ๆ หลายคนแค่ได้ยินชื่อก็คงคิดว่ามันคงจะเป็นพื้นลานคอนกรีตเปลือย ๆ และร้อนอบอ่าวเหมือนโดนเผาอยู่กลางที่แจ้งใช่มั้ยล่ะ
ป่าวเลย... โครงการนี้กลับเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่มาในรูปแบบอาคารสูง 2 ชั้น บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 5 ไร่
และที่บอกว่าเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว เค้าก็เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวจริง ๆ มีสวนเล็ก ๆ และต้นไม้แทรกตัวอยู่ตามโครงเหล็กอย่างกลมกลืน
แม้ว่าตัวโครงการ ‘ดาดฟ้า’ จะเป็นทำเลทองอยู่ติดถนนและไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ทำเลดีขนาดนี้แต่ทางเจ้าของเค้าก็ไม่ได้หวังจะโกยผลกำไรแต่อย่างเดียวนะ
เค้าทำธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับตัวเอง และก็ได้แบ่งปันสิ่งดีๆ ให้กับสังคมไปพร้อม ๆ กัน ด้วยการเติมสีเขียวและพื้นที่เพื่อสุขภาพให้ย่านชุมชนที่เต็มไปด้วยที่อยู่อาศัย
เกริ่นมาซะยาวเชียว เริ่มอยากเห็นภายในโครงการกันแล้วใช่มั้ยล่ะ ตามผมไปดูกันเล๊ยยยยย
เริ่มแรกเดินเข้ามาก็ต้องสะดุดตากับรูปแบบอาคารก่อนเลย โครงการดาดฟ้าเลือกใช้รูปแบบโครงการเป็นอาคารเหล็กซะเป็นส่วนใหญ่ ผสมผสานกับต้นไม้เยอะ ๆ เป็นสไตล์ Tropical Loft
มาต่อกันที่ตัวอาคาร ด้านขวาสุดจะมีบันไดขนาดใหญ่ให้สามารถเดินขึ้นไปชั้นสองได้เลย โดยไม่ต้องเข้ามาภายในโครงการ ส่วนด้านซ้ายก็จะเจอกับสามหนุ่มสามมุมมายิ้มต้อนรับเราตามสไตล์
"สวนผัก โอ้กระจู๋"
แต่ที่ผมชอบและว่าแปลกว่าทั่วไปก็อย่างเช่นร้าน
"August Moon" ที่เป็นร้าน Nail & Tea ร้านน้องใหม่ในโครงการ ร้านนี้ต้องขอบอเลยว่าเอาใจสาว ๆ แบบสุด ๆ เพราะเค้ามีบริการทำเล็บในราคาเริ่มต้นแค่ 100 บาทเท่านั้น!!!
จุดพีคของเค้าก็คือเค้ามีบริการสปามือเท้าจากสครับเมล็ดกาแฟออเเกนิกและส่วนผสมของพืชด้วยนะ เอาใจสายรักสุขภาพแบบสุด ๆ
ส่วนอีกร้านที่คนส่วนใหญ่จะต้องรู้จักอย่าง "ไล-บรา-รี่" โดยครั้งนี้มาในแบรนด์น้องที่ชื่อ
"Happening Library" ที่แตกต่างทั้งบรรยากาศและเมนูอาหาร แต่ก็ยังอบอุ่นสไตล์ห้องสมุดเหมือนเดิม
ร้านนี้ผมแนะนำเลยหรับหรับใครที่มองหาที่นั่งทำงานเงียบ ๆ หรืออ่านหนังสือเตรียมสอบ บลา บลา บลา เพราะถ้าอ่านจนเริ่มเบลอเค้าก็มีเมนูกาแฟมากมายไว้ให้ดึงสติ สมาธิกลับมาลุยกันต่อแบบยาว ๆ ไปเลย 555
และถ้าใครที่อยากจัดหนัก ๆ แบบไม่เป็นภาระต่อร่างกายก็ต้องจัดชาบูปลากับร้าน
"มิตร ปลาจุ่ม" ที่เค้าก็เคลมหนักเลยว่าเป็นร้านชาบูสำหรับสายสุขภาพที่แท้จริง
ร้านนี้เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวเลยนะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุนี่เหมาะสมสุด ๆ เนื้อปลาย่อยง่าย แล้วยังมีประโยชน์ มีโปรตีนสูงด้วยนะเออ
ต่อกันที่ชั้นสองของโครงการกันดีกว่าสำหรับ
"ร้าน ปัน ฟาร์ม สุข" ที่เอาใจคนชอบกินอย่างหนักหน่วง แต่เป็นห่วงสุขภาพ (อย่างผม 555) เพราะร้านนี้เค้าจำหน่ายทั้งของกินของใช้ภายในบ้านต่าง ๆ มากมาย
และใครที่เริ่มกินจนรู้สึกแน่นท้องแล้ว ที่นี่เค้้ามีก็มียิมไว้ใช้เพื่อน ๆ ได้ออกกำลังกายกันด้วยนะ ซึ่งก็มาพร้อมกับถึง 2 สไตล์ สำหรับหนุ่ม ๆ ก็จัดไปกับ
"The Fitness Lasalle" และสำหรับสาว ๆ ก็มี
"Yoga Cafe & Studio BKK" ไว้ให้ไปฝึกวิชาตัวเบากันด้วย 555
หลังจากที่เดินดูร้านรวงโดยรอบแล้วสิ่งที่ผมรู้สึกตัวได้อีกอย่างก็คือ
"หายใจโล่งดีแหะ!" มันรู้สึกปลอดโปร่งแบบบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะไม่ได้ติดแอร์ปรับอากาศในพื้นที่ส่วนกลาง แต่ตลอดเวลาที่เดินผมกลับไม่รู้สึกร้อนเลย รู้สึกร่มเย็น สบายตัวมาก ๆ
และอย่างที่บอกไปตอนต้นบทความว่าทั้งโครงการเค้าแทรกซึมเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวทุกอณูเลย ผมว่านี่แหละส่วนสำคัญที่ทำให้โครงการนี้อากาศปลอดโปร่งได้ขนาดนี้ เปรียบเหมือนเป็นปอดของชุมชน คนลาซาลเลยทีเดียว
ต้นไม้ที่นี่มีหลากหลายขนาด หลากหลายชนิดเลย ใครที่ชื่นชอบต้นไม้ลองมาเดินเล่นเดินชมกันได้ เค้ามีทางเดินเป็นแนวยาวตลอดทั้งโครงการ อย่างที่บอกว่าเค้าไม่ได้ออกแบบเพื่อหวังผลกำไรอย่างเดียว แต่เพื่อเติมสีเขียวและพื้นที่เพื่อสุขภาพให้ย่านชุมชนที่เต็มไปด้วยที่อยู่อาศัยด้วย
มาแล้วอย่าลืมสูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอดก่อนกลับกันด้วยล่ะ 5555
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับโครงการดาดฟ้า ลาซาล ต้องยอมรับเลยว่าเป็นพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์สำหรับคนที่รักและใส่ใจสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะทุกร้านเค้าเน้นสินค้าแบะบริการเพื่อนสุขภาพทั้งนั้น
ลืมบอกไปว่าตัวโครงการจะตั้งอยู่ระหว่างลาซาลซอย 31 และ 33 ภายในซอยสุขุมวิท 105 นะจ๊ะ ถ้าใครที่มารถไฟฟ้าก็มาลงที่สถานีแบริ่งทางออก 1 แล้วต่อพี่วินเข้ามาก็แค่ 20 บาทเท่านั้น ส่วนการเดินทางและสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ในทำเลนี้สามารถไปอ่านกันที่บทความ
THE ORIGIN Sukhumvit 105 : คอนโดคนรุ่นใหม่ ใจกลางลาซาล ได้เลย ขายของนิดนึง 555
ก่อนจากกันวันนี้ต้องบอกก่อนว่าร้านค้าต่าง ๆ ที่ผมเล่าวันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโครงการนี้เท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายร้านที่น่าสนใจเลย ถ้าวันหยุดที่จะถึงนี้แล้วใครไม่รู้จะไปเดินเล่นที่ไหนก็ลองไปกันดู ทางโครงการดาดฟ้าเค้าก็มีกิจกรรม DADFA WEEKEND MARKET ให้มาเดินเล่น หาของกิน ช้อปปิ้งสินค้าแฮนด์เมดกันได้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย
ลองไปดูที่เพจของทางโครงการ
"ดาดฟ้า (Dadfa)" กันดูก็ได้ เค้ามีกิจกรรมต่าง ๆ คอยอัพเดตอยู่ตลอดเวลาเลย เสียดายวันที่ผมไปไม่ได้เป็นวันที่จัดกิจกรรมเลยไม่ได้เก็บบรรยากาศมาฝากเพื่อน ๆ ถ้าใครไปแล้วมีร้านไหนเด็ด ๆ ที่ผมพลาดไป ก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังด้วยน้าาา
อากาศดี ๆ แบบนี้... ใครเบื่อ ๆ อยู่บ้าน ลองออกมาเดินเล่น "ดาดฟ้า" ดูไหมล่ะ!