เมืองทองธานีเป็นอีกหนึ่งอาณาจักรที่เป็นสถานที่สำคัญเป็นอย่างมาก อย่างพวกคอนเสิร์ต หรือ งานต่างๆที่มักจะไปจัดอยู่ที่นั่นเสมอ อย่างล่าสุดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่เคยจัดที่ศูนย์สิริกิตต์ทุกๆปี ก็โยกย้ายไปจัดที่เมืองอิมแพคทองธานีแล้วเช่นกัน ซึ่งบางครั้งเรามักจะเห็นคนออกมาบ่นกันผ่านทางโซเชี่ยลอยู่เสมอในเรื่องของการเดินทาง ที่ค่อนข้างจะยากลำบากไปซักหน่อย
แต่ล่าสุดหลังจากประกาศเรื่องของรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่จะมุ่งตรงสู่อาณาจักรเมืองทองธานีโดยตรง ก็ยิ่งทำให้เมืองทองฮอทเข้าไปอีก เช่นเดียวกับบางกอกแลนด์รุกลงทุนอสังหาฯให้เช่า ทุ่ม 6 พันล้าน ต่อยอดอาณาจักรเมืองทองฯ บนที่ดิน 600 ไร่ เนรมิตพื้นที่ไมซ์ โรงแรม ชอปปิง มอลล์ จ่อเปิดตัวปลายปี ที่จะตอกเสาเข็มปีหน้า รับอานิสงส์ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู 2 สถานี ตั้งเป้ารายได้แตะหมื่นล้านใน3 ปี
ล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญกับการประกาศแผนลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า รับอานิสงส์ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า สายสีชมพู 2 สถานีมาที่อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ และริมทะเลสาบเมืองทองธานี ที่ขณะนี้รอรัฐไฟเขียวให้ดำเนินการ คุณปีเตอร์ กาญจนพาสน์ รองประธานกรรมการบริษัทและกรรมการบริหาร บางกอกแลนด์ เผยว่า เตรียมเงินสำหรับลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในอาณาจักรเมืองทองธานี อีก 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมมูลค่าที่ดิน บนที่ดินรอพัฒนาซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่ 600 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดกว่า 4,000 ไร่ของเมืองทองธานี เพื่อรองรับส่วนต่อขยายจากแนวรถไฟฟ้า สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ระยะทาง 2.8 กิโลเมตร จากสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี ซึ่งจะมีสถานีส่วนต่อขยาย 2 สถานีมาที่ อาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์และริมทะเลสาบเมืองทองธานี
โดย 2 สถานีดังกล่าว จะร่วมลงทุนกับบีทีเอส โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป เพื่อรองรับผู้เดินทางเข้า-ออกงานอีเวนท์ในอิมแพ็คฯเพิ่มขึ้น 30-40% จากปัจจุบันมีกว่า 10-15 ล้านคนต่อปี จากยอดการจัดงานอีเวนท์รวมกว่า 1,000 งานต่อปี ซึ่งก็เป็นที่มาที่ทำให้ราคาที่ดินพุ่งอีกด้วยโดยคาดว่า เมื่อส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการ จะช่วย เพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ภายในเมืองทองธานี ได้ไม่ต่ำกว่า 3 เท่า ทำให้แนวโน้มราคาที่ดิน ในเมืองทองธานีเพิ่มจาก 1 แสนบาทต่อตารางวา เป็น 3 แสนบาทต่อตารางวา เท่ากับราคาที่ดินติดถนนแจ้งวัฒนะในปัจจุบัน จะแบ่งเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนริมทะเลสาบเมืองทองฯ เตรียมพัฒนาโครงการอสังหาฯที่มีทั้งพื้นที่ไมซ์ (การจัดประชุมสัมมนา ท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และแสดงสินค้า) โรงแรม และชอปปิ้งมอลล์ ให้มีสีสัน โดยขณะนี้ยังรอความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่เรื่องพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู เมื่อได้ความชัดเจน ก็เตรียมประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ริมทะเลสาบฯปลายปี 2562 นี้ คาดว่าจะลงเสาเข็มได้ในปี 2563 และก่อสร้างแล้วเสร็จราวปี 2565 ทันกับช่วงรถไฟฟ้า สายสีชมพูเปิดให้บริการในปี 2564
โซนรอบ อิมแพ็ค และโซนรอบคอสโม บาซาร์ แหล่ง ชอปปิ็งและศูนย์รวมความบันเทิงใจกลางเมืองทองธานี โดยคาดว่าทั้ง 600 ไร่จะใช้เวลาพัฒนาจนครบภายใน 7-8 ปีนับจากนี้หลังจากเมื่อเดือน มี.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการคอสโมบาซาร์ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกว่า 8 หมื่นตารางเมตร คิดเป็นเฉพาะพื้นที่ค้าปลีกราว 4 หมื่นตารางเมตร ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในเมืองทองธานีที่มีกว่า 3 แสนคน และพนักงานออฟฟิศอีกกว่า 3 หมื่นคน โดยคอสโมบาซาร์ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดิน อีก 3 เท่า และทำให้มีผู้สนใจเช่าคอสโมออฟฟิศมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 50% ขณะที่ก่อนหน้านี้ ได้เริ่มก่อสร้างสะพานเชื่อมอาคารต่างๆ ของเมืองทองธานี ระยะทาง รวม 2 กิโลเมตร ลงทุนรวม 500 ล้านบาท แล้วเสร็จปลายปีนี้ อีกทั้งยังคาดว่าบางกอกแลนด์จะมีรายได้ ทะลุ 1 หมื่นล้านบาทภายใน 3 ปี เพิ่ม จากปีงบฯ2562 (ตั้งแต่ 1 เม.ย.2561- 31 มี.ค.2562) ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 7,974 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปีงบฯ2562 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,816 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบฯ 2561 ซึ่งมีกำไร 1,231 ล้านบาท ทิศทางการสร้างรายได้ของอิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นฯ นอกจากจะมุ่งเพิ่มการใช้พื้นที่จัดงานไมซ์ 15-20% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า จากอัตราการใช้พื้นที่ปัจจุบัน 57% เพิ่มเป็น 70% โดยเฉพาะการเพิ่มพื้นที่ใช้งานห้องประชุมขนาดเล็กแล้ว ยังรุกผลักดันรายได้ ในส่วนธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มให้มีรายได้ 2,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือเติบโตเกือบ 3 เท่าจากรายได้ปัจจุบัน 700 ล้านบาท เพื่อเพิ่มการใช้ประโยชน์จากครัวหลักของ อิมแพ็คฯ ซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน เจาะธุรกิจจัดเลี้ยงของลูกค้าทั้งภายในและภายนอกอิมแพ็คฯ
เป็นข่าวที่ดีมากๆเลยนะ พี่หมีเชื่อว่าเมื่อสายสีชมพูสร้างเสร็จเมื่อไหร่เมืองทองคงกลายเป็นอีกสถานที่ที่ต้องบูมมากๆอย่างแน่นอน