อย่าเพิ่งเบื่อข่าวนี้เลย เพื่อนๆคงจะเห็นกันอยู่บ่อยๆว่าพี่หมีนำข่าวเรื่อง LTV มาเล่าให้ฟังกันอยู่เสมอ แต่เพราะมาตรการนี้เป็นมาตรการที่น่าจับตามองมากจริงๆนะ เพราะล่าสุดพี่หมีเองพอจะทราบมาว่ามาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรือ LTV นี่แหละ ส่งผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก

 

        หลังจากที่มีการประกาศใช้มาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ หรือ LTV ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยคาดหวังเข้าไปควบคุมกลุ่มผู้เก็งกำไรและนักลงทุน เนื่องจากมี "สินเชื่อเงินทอน" เกิดขึ้นในธุรกิจอสังหาฯ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี หากมองในเรื่องการกำกับดูแลระบบการเงินของธนาคารพาณิชย์ เพราะหมายถึง หากผู้กู้ ขาดคุณสมบัติหรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ ย่อมก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบสินเชื่อภาค อสังหาฯ การเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ของสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระยะข้างหน้าได้

 

        อย่างที่พี่หมีเคยนำข่าวเรื่องที่ผู้ประกอบการแต่ละราย ได้ทยอยแจ้งผลประกอบการในไตรมาส 2 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 ซึ่งถ้ามองโดยรวมแล้วเฉพาะไตรมาส 2 แล้ว รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ แต่หากมองในงวด 6 เดือนแรกปี 62 ในส่วนของรวมรายได้ แม้จะมีการปรับลดลงบ้าง แต่ยังมีอัตราเติบโต เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการ ของบริษัทขนาดใหญ่ ที่ช่วยประครองในครึ่งปีแรก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการยังรักษารายได้รวม เนื่องจากแต่ละบริษัทรายได้ค่าเช่า และค่าบริการ ค่านายหน้า รายได้จากการขายที่ดิน รายได้จากการบริหารชุมชน เพียง แต่สถานการณ์จะมาหนัก และรุนแรงในไตรมาส 2 จาก LTV และสภาพเศรษฐกิจในประเทศ รวมถึงสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (เทรดวอร์) ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวลง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว หากมองไปปี 2561 โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ของปี 61 ทั้งประเทศมียอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย 92,500 หน่วย มูลค่า 339,000 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 16 ไตรมาสที่ผ่านมา

 

        ก็ยังคงต้องจับตามองกันอยู่ตลอดเวลาจริงๆ เนื่องด้วยเศรษฐกิจและ มาตรการต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบกระจายไปทั่ว แน่นอนว่าพี่หมีจะคอยอัพเดทให้เพื่อนๆชาวคอนโดติดดอยกันอยู่เรื่อยๆอย่างแน่นอน