หลังจากแบงค์ชาติได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ก็มีแฟนเพจหลายคนถามกันเขามาเยอะครับว่า “เห้ย มันจะส่งผลอะไรกับพวกเราบ้าง?”

        เอาจริงๆ ผมเชื่อนะว่ายังมีคนไม่เก็ทเรื่องนี้กันอยู่เยอะพอสมควร ลองไปถามน้องๆที่รู้จัก ก็เกาหัวกันแกรกๆ ตอบไม่ค่อยได้กันเพราะยังไม่เข้าใจจริงๆ เพราะถ้าให้ไปอ่านนโยบายแบงค์ชาติ แน่นอนว่า งงกันอีกหลายตลบ

 

        ผมเลยมีความคิดว่า เอ้อ เอามาสรุปสั้นๆให้มันเข้าใจง่ายๆ พอจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนที่ยังไม่ทราบ ไปจนถึงลูกเพจที่ยังสงสัยเรื่องนี้กันดีกว่ามั้ย

 

        อ่ะ ผมขอพูดง่ายๆตามประสาผมเลยนะ ไอ้เรื่องอัตราดอกเบี้ยขาลงเนี้ย ขอย้อนไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาก่อน คือ แบงค์ชาติได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% โดยจากเดิมอยู่ที่ 1.75% ลดลงเหลือ 1.50%

 

 

 

 

 

        ซึ่งมันก็มีผลให้ธนาคารหลายๆแห่งเองก็ต้องปรับลดดอกเบี้ยตามๆกันลงมา

 

        เช่นธนาคารสีเขียว อย่างกสิกรไทย ที่มาเป็นเจ้าแรกเลยก็ว่าได้

 

        หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงให้หลังครับ ทีมสีม่วงอย่าง ไทยพาณิชย์ก็กระโดดขาคู่ตามมาติดๆ

 

        เอาล่ะ มาดูดอกเบี้ยที่เราสนใจกันดีกว่า นั่นก็คือดอกเบี้ย Minimum Retail Rate

 

 

        ใช่ครับ ยาวไป จำไม่ได้หรอก เค้าก็เลยย่อๆกันมาเป็น MRR นั่นเอง เอ้า แล้วมันแปลเป็นไทยว่าอะไรล่ะ?...มันแปลเป็นไทยว่า “อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี” นั่นเอง

 

        คำถามต่อมาก็คือ อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อย คืออะไร?

 

 

 

        อันนี้ผมเข้าเรื่องแล้วนะ รายย่อย ก็คือ สินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นต้น ซึ่งสินเชื่อผู้อยู่อาศัยเนี้ยก็คือสินเชื่อพวกซื้อคอนโดหรือกู้ซื้อบ้านที่พวกเราชอบทำกันนั่นแหละครับ

 

        ผมยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันดีกว่า เอาแบบคร่าวๆนะ สมมุติว่าผมกู้ซื้อคอนโดในราคา 4 ล้านบาท ดอกเบี้ยที่ถูกลดลงไป 0.25% ผมเอากดเครื่องคิดเลข 4ล้าน เอาไปคูณกับ 0.25% ก็จะได้ตัวเลขเงินสดก็คือ 10,000 บาทต่อปี!!

 

        แบบนี้พอนึกออกกันมั้ยครับ?

 

        10,000 บาท ต่อปีเอาไปทำอะไรได้บ้าง ยกตัวอย่างง่ายๆ

 

        iced latte grande starbucks 83.3 แก้ว ต่อปี!!

 

 

        หรือว่าข้าวผัดกระเพราะหมูสับ อาหารประจำชาติไทย จานละ 50 บาทผมก็จะสามารถทานได้ 200 จานต่อปี!!! 

 

 

        หรือว่าถ้าผมอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้า เดินทางด้วยรถไฟฟ้า ตีราคาสูงๆ เที่ยวละ 40 บาท ผมจะสามารถใช้บริการรถไฟ้ฟ้าได้ถึง 250 เที่ยว หรือถ้าคิดแบบไปเช้าเย็นกลับ ผมจะสามารถใช้ได้ถึง 125 วันเลยทีเดียว!!!

 

        เป็นอย่างไรบ้างกับการสรุปประเด็นดอกเบี้ยลดจากแบงค์ชาติ ที่ผมสรุปมาให้ เข้าใจกันแบบง่ายๆ หนึ่งในสาระดีๆที่ผมว่าสำคัญและควรศึกษาเอาไว้ วันนี้เอาประเด็นมาบอกกล่าวแบบเข้าใจง่ายๆ สำหรับใครที่ยังสงสัยในจุดไหนข้อไหน ก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้นะ ถ้ารู้ผมตอบแน่นอน ถ้าไม่รู้ผมก็จะพยายามหาคำตอบมาให้55555 เอาไว้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน วันนี้ขอตัวลาไปก่อน ไว้คราวหน้า ผมจะมีสาระอีกเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมติดตามกันได้นะ5555555