มาต่อกันดีกว่า ว่าด้วยเรื่องของ iPad Pro พระเอกของงาน พวกสเป็คภายใน ไปหาอ่านตามเว็บอื่นเอาเองนะ ขอข้าม เอาแค่บอกว่า มีหน้าจอ 12.9" (พอๆกะ Notebook เลย) กับมี Apple pencil ก็พอละ
Apple Pencil ?!!! บางคนถาม มันจะ Pencil ได้ไงฟระ!! ปากกาเห็นๆ อย่าเถียงสิครับ ก็ทาง Apple เขาบอกมาว่า มันเป็น Pencil (ดินสอ) จริงจริ๊ง...
เอาเป็นว่า มาดูข้อมูลกันดีกว่า **ข้อมูลจาก iphonemod นะครับ**
- สามารถใช้ได้กับ iPad Pro เท่านั้น … ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์อื่นได้
-อัตราตอบสนอง 240 ครั้ง/วินาที รับจุดข้อมูลได้มากกว่านิ้วถึงสองเท่า
- รองรับแรงกดหลายระดับ ตามความหนักเบาของน้ำหนักมือ เอียงปากกาเพื่อแรเงาได้!!! เหมือนใช้ดินสอถ่าน หรือดินสอธรรมดา (ลองไปหา VDO Present ดูนะครับ ผมว่าสวยดี)
- แบตเตอรี่ชาร์จผ่านหัวต่อ Lightning หรือเสียบกับ iPad Pro เพื่อชาร์จ
- เมื่อแบตเตอรี่เต็มสามารถวาดได้ต่อเนือง 12 ชั่วโมง เมื่อแบตเตอรี่หมดชาร์จเพียง 15 วินาที สามารถใช้งานได้นานครึ่งชั่วโมง
- แอปพลิเคชันที่รองรับเบื้องต้นคือ Note, Mail และ Paper by FiftyThree
- แอปพลิเคชันอื่นจะได้รับการปรับปรุงเพื่อใช้กับ Apple Pencil ในเดือนพฤศจิกายนนี้
โดยรวม แม้จะดู ว้าว!! น่าสนใจ แต่ผมว่า คงไม่ต่างจาก ช่วงที่ผมเคยลองใช้ Samsung Galaxy Note 1 แอพต่างๆ ที่จะใช้ร่วมดินสอนี้ได้ ยังมีน้อย ผมว่ารออีกสัก 1-2 รุ่น ก็ไม่สายนะผมเชื่อว่า อีกหน่อย มันจะเป็นเครื่องมือชิ้นเยียม ในการทำงาน หรือนำเสนองาน กับลูกค้า หรือจะเอาไว้ใช้เสนอในการประชุมก็ดีนะ (สามารถใช้ MS Office ได้เท่าๆกับ PC) ในความรู้สึกผม iPhone 6S หรือ 6S+ จะเปลี่ยนก็ได้ ไม่เปลี่ยนก็โอเค ส่วน iPad Pro ยังต้องอาศัย การรอคอยเวลา พัฒนาให้ดีกว่านี้อีก โดยเฉพาะการรอ ให้แอพพลิเคชั่นต่างๆ มาซัพพอร์ท ให้มากกว่านี้ก่อน น่าจะดีกว่าซื้อตอนนี้ แต่ถ้าใครอยากซื้อ ก็ซื้อได้ครับ หลังจากวันที่ Apple ออกมา Present หุ้นของ Apple ก็ตกทันที !!! (สงสัย ผิดหวัง 555) ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุใด แต่ในช่วงวันนั้น หุ้นที่ USA ก็ตกกันทั้งนั้นนะ 555 อยากรู้ อ๋อ!!!! เกือบลืม สำหรับสาวก Hermes ดีใจด้วยนะครับ Apple ได้ร่วมมือกับ Hermes ออก Collection "Apple Watch Hermes" มาขายด้วยกัน 3 รุ่น ราคาก็ไม่มากไม่มาย แค่ประมาณ 39,600-54,000 บาท เท่านั้นเอง !!! ราคาสบายๆกระเป๋า (ซื้อเสร็จ กระเป๋าเบาสบาย 555) เอิ่ม ใครใคร่ซื้อ ก็ซื้อได้เลยนะครับ ผมขอเอาเงิน ไปจองคอนโดดีกว่า 555 ^^
**ขอขอบคุณข้อมูลจาก iphonemod ด้วยครับ**
Tag :
“ได้วิวแม่น้ำ สวยขนาดนี้เลยรึนี่?!“ เป็นความรู้สึกของผมตอนที่ขึ้นไปชั้น 38 วิวสวยแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย มีมุมที่เห็นสวนเบญจกิติด้วย
สำหรับผมแล้ว BTS สถานี "ห้าแยกลาดพร้าว" เป็น สถานี Interchange กับ MRT ที่ผมชอบที่สุด และมักจะเป็นทำเลที่ผมแนะนำ ให้คนมาอยู่อาศัยมากที่สุดอันดับต้นๆเลย
มีความท้าทายเล็กๆ กับการเปลี่ยนอดีต ’สถานทูตออสเตรเลีย‘ ให้กลายมาเป็น ‘Luxury Condo’ และ ’Mixed-Use’ ระดับ ’iconic’ ริม ’ถนนสาทร‘
'เกือบหลับ แต่กลับมาได้' จะมีโครงการไหนกันเชียวที่จะเหมาะกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่ 'Hyde Riverbay Charoennakorn' (ไฮด์ ริเวอร์เบย์ เจริญนคร)
โครงการใหม่ของ Major ที่แน่มาก แกร่งมาก เพราะไม่หวั่นไหวกับการต้องถูกขนาบข้างโดย Sansiri แบบรั้วชนรั้วเลย!
'dcondo calm Ramkhamhaeng 40' (ดีคอนโด คาล์ม รามคําแหง 40) ก็เป็นอีกโครงการที่ผมบอกเลยว่า คุณจะลืมภาพจำของแบรนด์ดีคอนโดแบบเดิมๆ ไปแทบหมดสิ้น เพราะโครงการนี้ เค้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้งสายสีส้มและสายสีเหลือง!!!
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
ขออวดว่าผมได้รีวิวหนังสือเล่มนี้ก่อนหนหน้านี้แล้วด้วยนะ อิอิ แต่ที่จริงผมไม่ได้ตั้งใจรีวิวหรอก แต่เป็นคนอ่านหนังสือแล้วชอบ ‘Short Note’ ประโยคดีๆ คมๆ เก็บไว้ แต่ปรากฏว่ามันโดนบาดเยอะมาก จนสามารถเอามาลงในเพจได้เลย
ช่วงนี้ผมชอบเข้าไปดูงานออกแบบของ Foster + Partners บ่อยสุดๆ คือรู้สึกได้เลยว่าเราอินกับสไตล์การออกแบบของเค้ามากๆ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าเค้าคือใคร Foster + Partners คือบริษัทที่ออกแบบ Apple Store ตรงเซ็นทรัลเวิลด์ นั่นแหละครับ น่าจะพออ๋อกันขึ้นมาบ้างเนอะ
ยุคนี้ใครเค้าเที่ยวต่างประเทศกัน คนรวยเค้าเที่ยวนอกโลกครับ!
Apple Store นี่ไม่ว่าจะไปเปิดสาขาที่ไหน ก็สามารถกลายเป็นแลนด์มาร์คของที่นั้นๆ ได้ตลอด ล่าสุดเค้าเพิ่งเปิดสาขาใหม่ที่ประเทศมาเลเซีย ไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งนี่เป็นสาขาแรกของมาเลเซีย
เดือน 7 กำลังจะผ่านพ้นอีกแล้วนะครับ ตอนนี้อากาศกำลังชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ ไปเลย ซึ่งหลายเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณว่าดอกเบี้ยแบบคงที่เริ่มกลับมาแล้วนะ