อ่านหัวข้อข่าวที่นำมาฝากแล้ว คงเดากันได้ไม่ยาก หลังจากที่มีโอกาสได้หยิบยกบทวิเคราะห์หรือการคาดการณ์สถานการณ์อสังหาฯอยู่บ่อย ๆ ในขณะที่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ 3 เดือนสุดท้ายของปี ล่าสุด "คอลลิเออร์ส"เตือน โค้งสุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ อสังหาฯซัพพลายใหม่เติมตลาดเพิ่ม 1.7 หมื่นยูนิต จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องเร่งหั่นราคาตัดหน้าคู่แข่งอย่างต่ำถึง 10%

 

        สถานการณ์ตลาดอสังหาฯช่วงไตรมาส 4 ปี นี้ถือเป็นช่วงที่จะต้อง ปรับแผนแข่งขันในตลาด เพราะเป็นจังหวะที่มีซัพพลายเหลือในตลาดจำนวนมาก แต่ยังมีหลายโครงการที่ทยอยเปิดตัวในช่วง ไตรมาสที่ 4 อีกประมาณ 17,000 ยูนิต (หน่วย) อีกทั้งยังมีสต็อกคงค้างในตลาดจำนวนมาก คาดว่าทั้งปีจะมีซัพพลายคอนโดมิเนียม เปิดตัวประมาณ 47,000 ยูนิต แม้ว่าจะติดลบประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากปีที่แล้ว 60,000 ยูนิต

 

        ส่วนย่านหรือทำเลที่มีการแข่งขันสูง ๆ ก็จะเป็น ตามเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพราะมีการเปิดตัวโครงการจำนวนมาก ซึ่งจะอยู่ในย่านจรัญสนิทวงศ์ เพชรเกษม ที่มีโครงการเหลือขายเปิดตัวไปแล้ว 8,000 ยูนิต จากที่มีการเปิดตัว 20,000 ยูนิต และ กำลังจะมีโครงการเปิดตัวเพิ่มอีก 6,000 ยูนิต จาก 3 โครงการ ประกอบด้วย ไรส์แลนด์ 2,000 ยูนิต, ศุภาลัย 2,000 ยูนิต และ พาร์คแลนด์ 2,000 ยูนิต

 

        ทั้งนี้จากซัพพลายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ เริ่มเห็นการขายตัดราคาขายคอนโดมิเนียมโครงการเก่าที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ อาทิ ย่านบางอ้อ ค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท เปิดตัวในราคา 2.19 ล้านบาทต่อยูนิต หรือ 80,000 บาท ต่อตารางเมตร(ตร.ม.) ขณะที่อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เปิดตัวมาในราคา 1.69 ล้านบาท ต่อยูนิต หรือ 62,000ต่อตร.ม. รวมถึง ย่านสุขุมวิท พระราม 4 อนันดาฯ เปิดตัวในราคา 3.59 ล้านบาทต่อยูนิต ขณะที่พฤกษาฯ เปิดตัวมาในภายหลังด้วยราคา 2.69 ล้านบาท ต่อยูนิต ซึ่งภาพรวมตลาดหากขายแพง จะไม่สามารถขายได้โครงการใหม่จึงต้องปรับแบบโครงการ เพิ่มจำนวนยูนิต เพื่อลดราคา ให้ขายได้จึงจะอยู่รอดได้ในภาวะเช่นนี้

 

        เรียกได้ว่าเป็ฯสถานการณ์ที่ดุเดือดกันเลยทีเดียว ซึ่งเราก็คงจะต้องจับตาดูสถานการณ์ของปี 2563 ว่าทิศทางอสังหาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้หรือไม่ และ ผู้ประกอบการแต่ละรายจะรับมืออย่างไรต่อไป