เกิดเป็นหมี อะไรดีหมีก็ว่าดี อะไรอร่อยหมีก็อยากจะกลับไปกินบ่อยๆ นั่งคิดนอนคิดกลิ้งคิด สุดท้ายก็ตัดสินใจไปซ้ำร้านเดิมเสียหน่อย
ร้านที่ว่าก็คือร้าน
Tong Lai Shun (ตงไหลซุ่น) ร้านที่หมีเคยพาจอมยุทธ์สายกินทุกท่านจับตะเกียบฟาดฟัน กลิ้งหลุนๆ ลงทุ่งซาลาเปากันมารอบหนึ่ง ใครยังไม่ได้อ่านก็ตามไปอ่านได้
ที่นี่
จนมาล่าสุดนี้อย่างที่บอกไปว่าหมีมานั่งคิดนอนคิดแล้วร้านนี้มันก็ดีนะ มีเมนูให้เลือกเยอะเลย ตอนไปครั้งแรกลองไปแค่ไม่กี่อย่าง ทำไมเราไม่ลองกลับไปย้ำ กลับไปซ้ำ กันสักหน่อยล่ะ
คิดมานานหลายเดือน ทนเสียง (กระเพาะ) ร่ำร้องไม่ไหว สุดท้ายก็ตัดสินใจ...ขอกลับไปย้ำที่ร้านนี้อีกรอบแล้วกัน!
แน่นอนว่าการเดินทางสะดวกเหมือนเดิม และครั้งนี้หมีก็ยังคงเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟฟ้า เตือนความจำกันอีกครั้งว่าใครที่อยากจะมาร้านนี้นั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีพร้อมพงษ์ได้เลย มาลงที่นี่แล้วเราก็จะพร้อมกินทันทีจ้า 555
เมื่อเรามาถึงสถานีพร้อมพงษ์แล้วก็เดินออกมาตรงทางออก 3 ได้เลย เดินบันไดลงมาแล้วก็หันหลังเดินไปยังซอยสุขุมวิท 41 เดินไม่ไกลจากตัวสถานีมากนักวางใจได้
พอถึงซอยสุขุมวิท 41 แล้วก็เดินเลี้ยวเข้าซอยไปโลด เดินเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวเข้าตรอกแรกทางขวามือเราก็เจอแล้ว
จำได้ว่าตอนมาครั้งแรก ป้ายภาษาไทยของชื่อ ‘ตงไหลซุ่น’ มันพังๆ หน่อยเพราะตัว ‘ซุ่น’ เหลือแค่ไม้เอก นึกว่าจะซ่อมแล้วแต่ก็ยังเหมือนเดิม โถ่ๆ
เอาเถอะ เปิดประตูเข้าไปแม้ว่าจะเป็นเวลาบ่ายโมงแล้วแต่ก็ยังมีคนอยู่แฮะ น่าจะเข้ามากินช่วงบ่ายกันเยอะแล้วเพิ่งลุกไปได้ไม่นานเพราะบางโต๊ะยังเหลือซากอารยธรรมเอาไว้ให้ชมอยู่เลย
ส่วนโต๊ะที่ยังนั่งอยู่ทำให้รู้สึกว้าวมากเพราะมีกลุ่มน้องๆ นักศึกษามากินกันโต๊ะหนึ่ง อีกโต๊ะเป็นกลุ่มชายไทยพาเพื่อนต่างชาติมาสังสรรค์ โต๊ะต่อมานั่งกินคนเดียวเงียบๆ ส่วนอีกโต๊ะเป็นอาม่ากลุ่มหนึ่งมาเฮฮากัน เลยทำให้รู้สึกว่าเป็นร้านที่คนทุกวัยสามารถมานัดเจอกันได้จริงๆ
มาถึงกลุ่มหมีๆ บ้างดีกว่า ได้เมนูมาแล้วก็เปิดๆ ดูว่าจะสั่งอะไรดี แต่อย่างหนึ่งที่ขอสั่งหน่อยเพราะเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันที่ทำให้อยากกลับมาซ้ำร้านนี้นั่นคือเมนูเต้าหู้ทรงเครื่องแบบเผ็ด ผู้ครองตำแหน่งม้ามืดของคราวที่แล้ว กลับมาครั้งนี้ก็ยังต้องกินเพราะน้องดีงามที่สุดในสามโลก 5555
ส่วนเมนูอื่นๆ ที่เลือกมาเป็นหมูต้มสไตล์เสฉวน ไก่แช่เหล้า เกี๊ยว และเมนูของหวานที่อยากลองมากๆ เพราะแปลกตาเหลือเกินอย่างเมนูแอปเปิ้ลทอด
รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะทีละอย่างๆ ขอเริ่มต้นที่หมูต้มสไตล์เสฉวนก่อนแล้วกัน เห็นหน้าตาน่ากลัวมากเพราะพริกแดงเถือกไปหมดเลย แต่ก็ไม่ได้เผ็ดมากเกินรับไหวนะ
ถ้าคนทานเผ็ดไม่เก่งอาจกินได้ไม่มากนัก แต่ก็ยังสามารถลองได้นั่นแหละไม่ใช่ว่าเผ็ดเกินรับไหวอะไรหรอก ส่วนรสชาติหมีว่ามันเหมือนเกาเหลาบ้านเราเลยแต่ใส่น้ำมันพริกเยอะไปหน่อยเท่านั้นเอง 5555 ก็คือรสชาติไม่ได้แปลกใหม่ แต่ว่าหมูอร่อย
ต่อมาไก่แช่เหล้า หน้าตาไม่ได้ว้าวอะไร รสชาติก็เช่นกัน 555 ถ้ารสซึมเข้าเนื้อกว่านี้อีกนิดน่าจะดี
น้ำจิ้มที่ให้มาหมีตัวอื่นที่มาด้วยบอกว่าเค็มไปนิด แต่ส่วนตัวหมีว่าอร่อยดี อาจเพราะชอบพวกน้ำจิ้มเค็มๆ อยู่แล้วด้วยมั้ง แหะๆ
เมนูเดิมที่น่ารักที่สุด ดีเยี่ยมตลอดกาลคือเต้าหู้ทรงเครื่องแบบเผ็ด แค่นั่งดูน้องเด้งดึ๋งๆ อยู่ในจานก็มีความสุขแล้ว มาคราวนี้ก็ยังคงความดีงามเอาไว้เหมือนเดิม รักษาตำแหน่งอันดับหนึ่งได้อย่างเหนียวแน่นมาก
แต่มีอีกเมนูหนึ่งที่ธรรมด๊าธรรมดาแต่เอาเข้าจริงกลับรสชาติดีกว่าคิดนั่นคือเกี๊ยวของทางร้าน
จะว่าไงดีล่ะ มันฉ่ำๆ ดีนะ ต่อให้เป็นเกี๊ยวทอดก็ยังมีความฉ่ำอยู่ข้างใน มีไส้ให้เลือกหลายอย่างเลย ถือว่าเป็นเมนูที่เหนือความคาดหมายอยู่เล็กน้อย แต่ในส่วนของเกี๊ยวทอดถ้าแป้งกรอบกว่านี้อีกนิดจะได้สิบเต็มสิบแน่นอน
มาต่อที่เมนูสุดท้าย เป็นเมนูที่หมีชอบมากๆๆๆ คนรักของหวานต้องมาตำ สั่งเมนูนี้มาเพราะความอยากรู้และต้องเสี่ยงโชคจริงๆ แต่ถือว่าโชคยังดีเพราะอร่อยเกินคาด นั่นคือเมนูของหวานอย่างแอปเปิ้ลทอด
ความจริงเมนูนี้มีให้เราเลือกหลายอย่างว่าจะเอาเป็นแอปเปิ้ล กล้วย มันเทศ หรือแตงโม แต่หมีเลือกเอาแอปเปิ้ลมา จำได้เลาๆ ในสมองว่าเคยอ่านนิยายจีนแล้วมีเมนูนี้ ไอ้พวกผิงกว่อ (แอปเปิ้ล) ราดน้ำเชื่อมเนี่ย น่าจะคล้ายๆ แบบนี้เหมือนกันล่ะมั้ง
ความจริงมันคือแอปเปิ้ลที่คลุกเคล้ากับคาราเมล (หรือพูดให้ถูกคือน้ำตาลนั่นแหละ) เมนูนี้มาช้าที่สุด รอนานที่สุด แต่ก็คุ้มค่าสำหรับหมีนะ ทางร้านจะแยกส้อมแช่น้ำแข็งมาให้ใช้กับเมนูนี้โดยเฉพาะ เพราะตัวน้ำตาลที่เคี่ยวไว้มันจะเหนียวๆ หนึบๆ ไปจนถึงขั้นกรอบเลย
ใครนึกภาพไม่ออกรสชาติมันมีส่วนคล้ายๆ กับน้ำตาลปั้นที่ขายหน้าศาลเจ้าเวลามีงานเทศกาลนั่นแหละ แต่มันมีบางส่วนที่แข็งไปแต่บางส่วนที่ยังร้อนอยู่ก็จะยืดๆ ดึงได้สาวได้เหมือนสายไหมเบาๆ
ส่วนตัวแอปเปิ้ลหั่นมาเป็นคำๆ คลุกเคล้าความหวานมาอย่างดี แรกๆ ต้องเป่าหน่อยเพราะร้อนมาก มันมีความหวานเป็นทุนเดิมแต่ก็แอบแฝงความเปรี้ยวมาในเนื้อนิดหน่อย เอาจริงก็คืออร่อย น้ำตาลของร้านดีมาก คนชอบกินหวานน่าจะชอบ นั่งแซะน้ำตาลกินได้จนหมดจาน แต่คนไม่ชอบหวานก็อาจจะไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น
สรุปคือเป็นร้านที่สามารถไปย้ำไปซ้ำไปบ่อยๆ แต่เมนูที่สั่งมานั้นก็ยังต้องเสี่ยงดวงอยู่ดี บางเมนูตั้งความหวังไว้มากดันไม่ค่อยถูกใจ แต่เมนูไหนที่สั่งสุ่มๆ มากลับเป็นม้ามืดตลอดซะงั้น ร้านนี้จะมีพาร์ทสามมั้ยยังไงฝากติดตามด้วยแล้วกันคร้าบ อิอิ