ตั้งแต่รถไฟฟ้าเริ่มขยายอาณาเขตไปโซนอื่นมากขึ้นก็รู้สึกได้เลยว่าบรรดาผู้ประกอบการทั้งหลายคึกคักกันมากจริงๆ
อย่างที่ผมไปมาวันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้ามากๆ
รถไฟฟ้านั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่รถเมล์ หรือเรือในย่านนี้ก็มีด้วยเช่นกัน
เรียกได้ว่า “ปักธง” ถูกที่นั่นแหละ
เกริ่นมานาน เริ่มสงสัยแล้วล่ะสิว่าวันนี้จะพาทุกคนไปส่องโครงการไหน
โครงการนี้เค้ารับประกันเลยว่าจะได้วิวแม่น้ำทุกยูนิตแน่นอน!
ใครที่อยากได้คอนโดวิวแม่น้ำในราคาที่จับต้องได้ ไม่ควรพลาด
นั่นก็คือโครงการ “ไอดีโอ จรัญฯ 70 - ริเวอร์วิว (IDEO Charan70-Riverview)” จากทางอนันดานั่นเอง
จริงๆโครงการนี้ ผมเคยเขียนถึงไป 2 บทความละ
บทความแรก เขียนตั้งแต่ช่วงเพิ่งรู้ที่ตั้งใหม่ๆ รู้ข้อมูลน้อยมาก จนเรียกว่าไม่รู้ดีกว่า 5555
เพราะฉะนั้น ตอนนี้ไม่ต้องไปสนละเนอะ มาอ่านบทความนี้แทน
ส่วนบทความที่ 2 จะเกี่ยวกับการเลือกห้อง ถ้าใครยังไม่ได้อ่าน
คลิกที่นี่
ส่วนบทความนี้ ทำขึ้นมาเพราะทาง "พี่โอรีโอ้"(อนันดา) ได้เนรมิต Sales Gallery เสร็จเรียบร้อย
เชื่อว่า ต้องมีคนสนใจแน่นอน เลื่อนไปอ่านกันเล้ย
ก่อนเข้าไปส่องห้องตัวอย่างของโครงการนี้
ผมขอพาทุกคนมาดูทำเลแถวนี้กันก่อนสักหน่อย
อย่างที่บอกไปว่าแถวนี้เดินทางสะดวกดีนะ
ถ้ารถไฟฟ้าเปิดเมื่อไหร่ก็สบายบรื๋อ เพราะตัวโครงการตั้งห่างจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน "สถานีบางพลัด" แค่ 295 เมตรเท่านั้น
แว่วมาว่าสถานีนี้จะเปิดให้ใช้งานกันได้ในเดือนมีนาคม ปี 2563 หรือก็คือต้นปีหน้านี้แล้ว
โครงการ "ไอดีโอ จรัญฯ 70 - ริเวอร์วิว" สร้างเสร็จราวปี 2565
ดังนั้นสร้างเสร็จเมื่อไหร่ก็สบายใจได้ว่ามีรถไฟฟ้าให้ใช้บริการแน่นอน
ทางออกที่ใกล้กันกับตัวโครงการมากที่สุดจะเป็นบันไดนะ ใครที่อยากใช้ลิฟต์ หรือใช้บันไดเลื่อนต้องเดินเลยไปอีกนิด
แต่ใครอยากออกกำลังขา ก็ใช้ทางนี้ได้เลย ไม่ว่ากัน อิอิ
ส่วนเรื่องของรถเมล์หรือรถกระป๊อเองก็มีเหมือนกัน
ไม่ไกลจากตัวโครงการนักก็เจอป้ายรถเมล์แล้ว
ส่วนรถกระป๊อจะเป็นรถสีเขียวสายบางพลัด-เซ็นทรัลปิ่นเกล้า-ชัยพฤกษ์ นะ
อีกหนึ่งรูปแบบการเดินทางที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะโครงการนี้มันใกล้แม่น้ำจริงๆ ดังนั้นก็ต้องมีการเดินทางด้วยเรือ!
ใครต้องการเดินทางทางน้ำ สามารถเดินเข้าไปในซอยวัดอาวุธวิกสิตารามได้เลย
เดินเข้าซอยมาประมาณ 390 เมตร จะมีท่าเรือข้ามฟากเล็กๆ อยู่ในสุด เป็นท่าเรือข้ามฟาก
เราสามารถข้ามไปฝั่งตรงข้าม แล้วค่อยนั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ต่อไปได้อีกหลายที่เลย เช่น เอเชียทีค หรือ ท่าเรือสาทร เป็นต้น
ส่วนเรื่องอาหารการกินก็นับได้ว่าอุดมสมบูรณ์ทีเดียวนะ
ถ้าไม่นับพวกร้านตามสั่งหรือคาเฟ่เล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลายแล้ว ใกล้ๆกันกับตัวโครงการเลยก็มี Tesco Lotus ด้วย
ถ้าเป็นห้างฯ ใหญ่ขึ้นอีกระดับ ก็จะเป็น Central Pinklao ห้างฯ ดังของย่านนี้ครับ
ใกล้โครงการจะมีสะพานลอยอยู่ เดินห่างออกมาจากหน้าโครงการเล็กน้อยก็เจอแล้ว
เบื่อร้านข้าวฝั่งนี้แล้วก็ข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ 555
ฝั่งตรงข้ามยังมี 7-Eleven ด้วยนะ ใครอยากหาซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องเดินไปถึง Tesco Lotus แค่ข้ามสะพานลอยแล้วเดินลงมาก็เจอแล้ว
แต่ได้ยินมาว่าเค้าจะเพิ่ม 7-Eleven เข้าไปในตัวโครงการด้วยล่ะ เป็น 7-Eleven ขนาดใหญ่อีกต่างหาก สบายไปอีกกก
อ้อ! อีกอย่างที่ต้องพูดถึงเลยคือรอบๆ โครงการมีธนาคารเยอะมาก!
เท่าที่ผมเดินดูเนี่ยก็เจอไปสามธนาคารแล้ว คือ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ แล้วก็ธนาคาร กรุงเทพ
อาจแสดงได้ว่า เป็นแหล่งคนเป๋าตุงก็ได้เนอะ อิอิ
เดินกลับมาที่ตัวโครงการกันบ้างดีกว่า
โครงการนี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เลย มีป้ายใหญ่มาก ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ
ตั้งอยู่ตรงปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 70/2 พอดีเป๊ะเลยล่ะ
วันที่ผมไป ทาง Sales Gallery เตรียมที่จะเปิดให้คนที่สนใจเข้าไปชมดูห้องตัวอย่างกันได้แล้วนะ
บรรยากาศด้านใน ถือว่าดีทีเดียว
มีพื้นที่สำหรับรองรับลูกค้าอยู่เยอะเลย
โครงการนี้จะเป็นคอนโดฯ รูปแบบ High Rise สูง 38 ชั้น 1,421 ยูนิต มีร้านค้าอีก 3 ยูนิต และย้ำอีกครั้งว่า เห็นวิวแม่น้ำทุกยูนิต!
หลายคนได้ยินคำว่าเห็นวิวแม่น้ำก็น่าจะใจตุ๊มๆ ต่อมๆ กันใช่มั้ยล่ะ 5555 ผมก็ด้วย
ที่ Sales Gallery จะมีห้องตัวอย่างให้เราได้แวะไปแชะภาพมาฝากกันทั้งหมด 4 Type ด้วยกัน คือ Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ Hybrid
มาเริ่มกันที่ห้องแรกก่อนดีกว่า กับห้อง Studio 26.00 ตร.ม.
สำหรับห้อง Studio จะเป็นห้องตอนลึก
ในส่วนของครัวจะอยู่ติดกับประตูเลย สามารถวางเครื่องซักผ้าตรงนี้ได้ด้วย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอน
เฉพาะส่วนนี้จะได้เพดานสูง 2.65 เมตร ระยะดูทีวีกว้าง 3.70 เมตร ก็ถือว่าสบายดีทีเดียวนะ
พื้นที่ส่วนนั่งเล่นตรงนี้ สามารถปรับเป็นพื้นที่ทานอาหารได้ด้วยเหมือนกัน
ห้องนี้จะได้พื้นที่ส่วนโต๊ะทำงานติดหน้าต่าง ให้เราได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่
ฝั่งขวามือของโต๊ะทำงานจะเป็นระเบียงที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ถือว่าพอเหมาะสำหรับการใช้งานเลย
ใครที่กังวลเรื่องของกลิ่น หรือเสียงรบกวนก็สบายใจได้
เพราะครัวของห้องนี้จะเป็นครัวแบบปิด มีประตูบานเลื่อนกั้นให้เรียบร้อย แถมยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ด้วย
ห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้ง และมีธรณียกสูงกันไม่ให้น้ำจากในห้องน้ำไหลออกมาด้านนอก
มีตู้เก็บรองเท้าจัดวางให้เรียบร้อยในฝั่งตรงข้าม ดูเป็นสัดส่วนดีครับ
ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom 31.00 ตร.ม.
ในส่วนของห้อง 1 Bedroom นี่ความกว้างอยู่ในขั้นพอเหมาะทีเดียว จะอยู่กัน 1-2 คนก็ไม่มีปัญหาอะไร
ห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้าง ต่างจากห้อง Studio อยู่บ้าง
ภายในห้องจะแบ่งสัดส่วนชัดเจนมากกว่า คือแบ่งไปเลยว่าตรงไหนเป็นห้องนั่งเล่น ตรงไหนเป็นห้องนอน
ห้องนี้เราก็จะได้ครัวแบบปิดเหมือนกันครับใช้เป็นบานสไลด์กระจก
และในพื้นที่มีโต๊ะทานข้าวตั้งอยู่ด้านในเลย ไม่อึดอัดนะ มีพื้นที่กว้างอยู่
ใครที่ชอบทำอาหารทานเองน่าจะถูกใจ เพราะไม่ต้องกลัวว่าจะมีกลิ่นรบกวนแผ่ฟุ้งไปเผื่อโซนอื่นในห้อง
แล้วก็ด้านในสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ด้วย
ถัดออกไปด้านนอกก็จะเป็นระเบียงพอดี ซักผ้าเสร็จเปิดประตูระเบียงออกไปตากได้เลย
ไม่ต้องเสียแรงยกตะกร้าผ้าไปมาให้มนุษย์วัยทำงานอย่างเราปวดหลังเล่น
ส่วนห้องนอน และห้องครัว ดีตรงที่ติดหน้าต่างทำให้เราได้แสงธรรมชาติ
ซึ่งผมคิดว่าทุกห้องของโครงการนี้เค้าเน้นส่วนนี้จริงๆ
ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะมันสะดวกกับการชมวิวแม่น้ำด้วยแหละ
ห้องนั่งเล่นตรงนี้จะได้เพดานสูง 2.65 เมตรครับ
ห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้ง และมีธรณีประตู ยกสูงขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยทุกห้องทุกแบบ
เรามาต่อกันที่ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00 ตร.ม.
ห้องนี้เป็นห้องที่โดยส่วนตัว ผมรู้สึกชอบนะ
ซึ่งความที่มันเป็นแบบ Plus เนี่ย มันก็หมายความว่าเราสามารถจัดการห้องส่วนที่ Plus ได้ตามใจเรา
มีพื้นที่เยอะแยะดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบความกว้างขวาง และโปร่งโล่ง
ถ้าอยู่คนเดียว ก็จัดตกแต่งห้อง Plus เป็นห้องทำงานก็ได้
แต่ถ้าเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกสัก 2-3 คน ก็เหมาะที่จะอาศัยอยู่เหมือนกัน เพราะในส่วนของห้องเล็กที่เพิ่มให้มานั้นสามารถปรับจากห้องทำงานเป็นห้องนอนได้
เท่าที่ดูพื้นที่แล้วผมว่าห้อง Plus ที่เค้าให้มานี่มันกว้างพอควรเลยนะ (หรืออาจเพราะติดกระจกด้วยก็ไม่รู้ รู้แค่ชอบ! 555)
ถ้าเป็นห้องทำงาน หรือห้องเก็บของก็ถือว่าโอ่โถงทีเดียว
แต่ถ้าใครอยากจะเปลี่ยนมาทำเป็นห้องนอน ก็สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตได้เหมือนกันครับ
เป็นอีกห้องที่แบ่งสัดส่วนลงตัวมากๆ
มีบานกระจกสไลด์กั้นในส่วนของห้อง Plus ให้
ด้านนอกจะเป็นระเบียง ซึ่งแน่นอนว่าแสงสามารถเข้าถึงได้ดีอีกแล้ว
พื้นที่ส่วนโซนนั่งเล่น สามารถขยายได้ตามสะดวก มีโต๊ะทานข้าวเล็กๆ เพิ่มขึ้นมาด้านข้างพอกระจุ๋มกระจิ๋ม
เป็นห้องที่ลงตัวมากๆ และคิดว่าคนน่าจะเล็งกันเยอะทีเดียว
แต่เอาจริงนะ ไฮไลท์ของคอนโดวิวแม่น้ำ มันต้องห้องสุดท้ายสิ
เป็นห้องที่เรียกได้ว่า ใส่เข้ามาเพื่อเอาไว้ให้เราได้รับวิวแม่น้ำกันเต็มๆ ไปเลย
กับห้อง Hybrid ขนาด 34.50 ตร.ม.
Hybrid ของที่นี่นั้นสูงถึง 4.55 เมตร..!!!
ห้องนี้เท่าที่ดูผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่าใส่มาเพื่อยั่วกระเป๋าคนจรัญฯ จริงๆ เพราะเค้าให้ส่วนของกระจกสูงมาก
คือเปิดประตูเข้าไป สายตาก็จะโฟกัสกับส่วนนี้พอดีเลยแหละ
ผมไปถามเค้ามาแล้วว่าห้องรูปแบบนี้จะมีให้เฉพาะที่ชั้น 32-37 เท่านั้น
เรียกง่ายๆ คือครองตำแหน่งวิวดีที่สุดไปเลย
ดูทรงแล้วน่าจะขายได้เร็วกว่าเพื่อน และเกลี้ยงแน่นอน
ห้องนี้จะมีห้องนั่งเล่น และส่วนทานอาหารที่ให้เพดานสูง 4.55 เมตร เช่นกัน
มีอีกห้องอยู่ด้านล่างด้วย สามารถปรับแต่งตามการใช้งานได้เลย
ส่วนชั้นบน จะเป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ให้เราวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เต็มที่
ในห้องตัวอย่าง ตู้เสื้อผ้าที่เค้าวางไว้ให้ดู จะมีขนาด 2.20 เมตร
แต่ทางน้องเซลบอกมาแล้วว่า มันสามารถวางได้กว้างถึง 3 เมตรเลยนะ
หรือเราจะปรับเปลี่ยนไปวางเตียง King Size แทนก็ได้ เลือกเอาที่ชอบได้เลย
บันไดที่ใช้ขึ้นมาชั้นสอง แอบอยู่ใกล้ผนัง ตัวบันไดกว้างพอควร ไม่แคบไปหรือชันไป
ข้างบันได เป็นโต๊ะทานอาหารที่อยู่ติดกับโซนนั่งเล่น ซึ่งโซนนั่งเล่นก็ติดกับกระจกบานสูงอีกที
ทุกห้องของที่นี่ พื้นห้องเป็นพื้นไวนิลผสมหิน หน้าสัมผัสไม้ และสามารถกันน้ำได้แบบ 100%
ส่วนผนังเป็น Bearing Wall Structure เป็นระบบที่ช่วยให้ผนังสามารถรับน้ำหนักแทนเสาได้ดี
ทำให้ภายในห้องไม่แหว่งไปแหว่งมา มีพื้นที่ใช้สอบมากขึ้น ตกแต่งห้องก็จะง่ายกว่าคอนโดทั่วไป
ส่วนวิว...เป็นเพราะโครงการยังสร้างไม่เสร็จ ผมเลยขอถ่ายเอาวิวบริเวณใกล้เคียงมาให้ดูกัน
ถ้ามองไปฝั่งทางเหนือ เราจะได้วิวรัฐสภาใหม่
ตัวรัฐสภานี่จะสร้างเสร็จเมื่อไหร่ไม่แน่ใจ แต่สวยแน่นอน รอหน่อยนะ
ส่วนฝั่งทิศใต้นั้นเป็นวิวสะพานพระราม 8 กับวิวเมือง ถ้าได้ถ่ายจากมุมสูงคงสวยกว่านี้
เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกเอาตามใจเลยครับ (เลือกไม่ได้ก็ซื้อสอง จบปิ๊ง 5555)
สำหรับใครที่สนใจ วันเสาร์-อาทิตย์ที่ 2-3 ที่จะถึงนี้ และวันที่ 9-10 พฤศจิกายนนี้เค้าจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างที่สำนักงานขายแล้ว
โดยช่วงก่อนเปิดขายพรีเซลส์นั้นจะเปิดให้ชมแค่วันเสาร์และอาทิตย์ สี่วันเท่านั้นนะครับ ย้ำว่าสี่วัน วันธรรมดายังไม่เปิดนะเออ
ส่วนรอบ Pre-sale นั้นปักธงไว้เลยในวันที่ 16-17 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้นี่เอง เห็นว่ามีห้องราคาที่ดีที่สุดด้วยนะ และจะเปิดชั้นขายเพิ่มด้วย
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.59 ล้านบาท ผ่อนแค่ 2,900 บ./เดือน เอง ราคาช่างน่าสอยยิ่งนัก ผ่อนก็เบาหวิว
ว้อย จะรอดไหมเนี่ย 5555 กระปุกหมูน้อยของผมเลยหวาดหวั่น