ในฐานะที่เติบโดมาในย่านโซนเมืองเก่า
สมัยละอ่อน ก็ชอบไปล่องแถวย่าน สะพานเหล็ก คลองถม เสือป่า สำเพ็ง มากกว่าไปสยามเสียอีก
คือเดินแล้วมันเพลินอ่า มีคนซื้อ คนขาย ร้านค้าอยู่ละลานตา ดูครึกครื้น
จนบางครั้งก็รู้สึกว่า มันจะแน่นอะไรขนาดนั้น แบ่งไปที่อื่นบ้างก็ได้ 555
สมัยก่อน สินค้าที่มาทางน้ำ มักจะมายกพลขึ้นบกไม่ไกลจากแถวนี้เท่าไร แถวนี้จึงอุดมไปด้วยสินค้าแปลกตามากมายจากต่างเมือง
ที่สำคัญคือ "ถูกมาก"
เหล่าพ่อค้าแม่ขายทั้งหลาย ก็จะมาจับจ่ายสินค้าที่นี่ เพื่อไปขายต่ออีกที เป็นแหล่งขายส่งยอดนิยม
จะบอกว่า เป็นทำเลที่ล้ำค่ากว่า "ทอง" ก็ว่าได้ เพราะขายดีแทบทุกร้าน
โซนเสือป่า คลองถม โดยส่วนใหญ่ จึงมักเป็น "ตึกแถว" หรือที่เรียกว่า "อาคารพาณิชย์"
ด้วยความที่เป็นทำเลทอง การไขว่คว้าหาที่มาครอบครอง จึงอยู่ในเกณฑ์ ยากมากถึงยากโค-ตะ-ระ
ไม่ได้ยากเพราะหาไม่ได้นะ แต่ยากตรง "ราคา" นี่แหละ 555 ค่อนข้างรุนแรงทีเดียว
เมื่อได้ยินว่า "พี่สิบหมื่น" มาปักธงย่านนี้ ผมเลยค่อนข้างสนใจว่า มันอยู่ตรงไหนกันฟระ หาที่มาได้เยี่ยงไรนี่
เพราะฉะนั้น มันก็ต้องไปเบิ่งหน่อยแล้วล่ะ
"Tiger Lane" คือชื่อของโครงการ ซึ่งก็ตั้งชื่อตามทำเลเลย
ตัวโครงการจริงๆ ปักตรงถนนเจ้าคำรบนะ แต่ก็ใกล้ "ถนนเสือป่า" แค่ไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น จึงพออนุโลมการตั้งชื่อว่า "Tiger Lane" ได้อยู่
ตัวรายละเอียดโครงการ ผมคงไม่ไปแตะมากเนอะ คิดว่าหากันได้ไม่ยาก
อ๊ะ แต่ก็เอาลิงค์มาเผื่อจิ้มไปดูข้อมูลกัน ไว้ให้ด้วย
คลิกที่นี่
เอาตามที่ผมรู้สึกจากโครงการล้วนๆเลยแล้วกัน
ผมทดลองไปเยือนโครงการผ่าน หนอนด่วนใต้ดิน (MRT) ไปลง "สถานีวัดมังกร" อันสวยงาม
ออกมาทางถนนเจริญกรุง เดินไปเลี้ยวขวาเข้าถนนมังกร (ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปโผล่เยาวราช)
ตรงหัวมุมตรงนี้ก่อนเลี้ยว มี "กาแฟนางเงือก" และ 7-Eleven แวะซื้อพลังงานเซ่นกระเพาะกันได้
จากนั้น เดินตรงไป ก็จะเจอถนนเจ้าคำรบ เลี้ยวซ้ายเดินไปอีกหน่อยก็ถึงโครงการ
ทางเดิน เดินสะดวกใช้ได้ มีทางเท้า จะมีร้านค้า ร้านข้าว อยู่เป็นระยะด้วยนะ
จาก MRT ถึงโครงการ ระยะประมาณ 500 กว่าเมตร
ดูตัวเลขแล้ว รู้สึกเอาเรื่องวุ้ย แต่พอเดินจริงๆ ก็ไม่เท่าไรนี่หว่า สัก 6-8 นาทีได้ละมั้ง เดินเพลินอยู่
ตอนที่เดินเจอโครงการครั้งแรก ตกใจเล็กน้อย (ไม่ได้ดูรูปก่อนไป) "เฮ้ย ดูดีขนาดนี้เลยเหรอ"
คือมันอาจไม่ได้สวยไปกว่า ทาวน์โฮมหรูๆ (ระดับราคาเดียวกัน) ที่อื่นมากนัก
แต่อารมณ์แบบ ไม่เคยคิดว่าจะมีตึกสวยแบบนี้ มาอยู่แถวนี้ได้น่ะ 5555 ปกติจะมีแค่ตึกแถวเก่าๆ อายุหลักหลายสิบปีทั้งนั้น
ว่าแล้ว ก็ขอเข้าไปดูภายในเสียหน่อย...
"ต้องติดต่อที่ Sales Gallery ก่อนนะครับ" เสียงของพี่ยาม พุ่งมาดักหน้าทันที เบรคหัวทิ่มเลย 555
อะ ไป Sales Gallery ก่อนก็ได้ เดินออกไปทางถนนเสือป่านี่แหละ นิดเดียว
ซึ่งต้องบอกว่า สมกับเป็น "พี่สิบหมื่น" จริงๆ ทำ Sales Gallery ออกมาได้ดูดีมาก
อย่างกับ Lobby โรงแรม 5 ดาวเลย แถมยังมีขนมนมเนย ทาร์ตไข่ น้ำชาร้อนๆ หอมๆ มาเซิร์ฟ
นี่ถ้านั่งอีกสักพัก ต้องเผลอสั่ง ขนมจีบ ซาลาเปาแน่ๆ 555
ในโครงการ จะมีทั้งหมด 11 หลัง ตอนนี้ สร้างเสร็จทุกหลังเรียบร้อย
ผมเข้าไปดูในบ้านแล้วตกใจ "ห๊ะ ทำไมพื้นเป็นแค่ปูนเปลือยละ?!!" (ชั้นบน)
น้องเซลล์ที่อัธยาศัยดีมากๆ เห็นผมตกใจ ก็รีบบอกทันทีว่า
เนื่องด้วยเพราะที่นี่ ทำขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่หลากหลาย อาจจะ "อยู่อาศัย" หรือ ทำเป็น"ออฟฟิศ" หรือ "โกดังเก็บของ"
ทางโครงการจึง ไม่ได้ปูพื้นมาให้ในบางชั้น เพื่อที่เราจะได้เอามาตกแต่งเอง ตามความต้องการ
รวมถึงการกั้นห้องในชั้นต่างๆก็ด้วยนะ ปัจจุบันจะเป็นห้องโล่งๆยาวๆ เราสามารถไปกั้นเองตามการใช้งานได้เลย
จะมีชั้นบนสุด ที่มีการกั้นห้องเผื่อเป็นห้องนอนไว้ให้แล้ว
ทุกหลังจะสูง 4 ชั้นเท่ากันหมด มีห้องน้ำทุกชั้น มีลิฟท์ทุกหลัง
ตัวโครงการ มีการออกแบบหลายอย่างให้สอดคล้องกับคนในท้องถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะมีเชื้อสายจีน
มีการดึงเอาซินแสชื่อดัง (แต่ผมไม่รู้จักนะ อิอิ) มาร่วมช่วยออกแบบเลยนะ
เช่น แผงตกแต่งบังแดด มีการทำให้มีลายใบ Clover สี่แฉก ต้นไม้หายาก มีความเชื่อว่า จะมีสิ่งดีๆพุ่งเข้าใส่คนที่มีไว้ในครอบครอง
สีบ้านเป็นโทนเขียว ธาตุไม้ อยู่แล้วเจริญรุ่งเรือง
ซุ้มหน้าต่างชั้นบน ทำเป็นโค้ง ให้เหมือนเกล็ดปลามังกร ช่วยปกป้องอันตราย
โอ้โหว มันดูฮวงจุ๋ย ฮวงจุ้ยดีจริงๆนะ 5555 แม้กระทั่งทำเลที่ตั้ง ก็ยังบอกว่าเป็น "ท้องมังกร" อยู่แล้วอุดมสมบูรณ์
ก็เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งเนอะ อย่างน้อยๆเจ้าสัวระดับต้นๆในบ้านเรา ก็เชื่อเรื่องพวกนี้อะนะ มี ก็ดีกว่าไม่มี เผื่อมันจะส่งผลมาให้เราบ้าง อิอิ
ค่าตัวเริ่มต้นของโครงการคือ 38 ล้านบาท..!!!(ก่อนหักส่วนลด) ยอมรับว่า ตอนแรกรู้สึกตกใจ (อีกแล้ว) เหมือนกันแหะ
ทางน้องเซลล์ ก็เลยหยอดเพิ่มว่า มีแพคเกจพิเศษด้วยนะ "เช่าซื้อ" หรือที่ชาวจีนคุ้นเคยกับคำว่า "เซ้ง" นั่นเอง
อันนี้ผมว่ามันน่าสนใจนะ
เลยรีบโทรไปหาเพื่อนสนิท ที่อาศัยอยู่ทำเลแถวนั้นมา 40 ปีแล้ว
เพื่อนบอกว่า เออ 38 ล้านบาท ราคาเอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่แถวนั้น ตึกแถวเก่าๆ 1 ห้อง สัก 12-16 ตร.วา สนนราคาก็ไปหลัก 10 ปลายๆเกือบ 20 แล้ว
ยิ่งถ้าไปติดถนนใหญ่ ก็อาจจะไปถึง ครึ่งร้อยได้เลย (โว้ววว)
บ้านในโครงการนี้ เริ่มที่ขนาด 24 ตร.วา เพราะฉะนั้น เมื่อคิดถึงขนาดที่ใหญ่กว่า ใหม่กว่า ก็ถือว่าราคา ตามตลาดอยู่นะ แถมยังได้ "พี่สิบหมื่น" มาแปะเพิ่มมูลค่า อยู่หน้าโครงการอีก
อีกทั้ง ตึกแถว หรืออาคารพาณิชย์ในละแวก ส่วนใหญ่จะไม่มีที่จอดรถ ซึ่งคนในพื้นที่ จะต้องหาที่จอดรถรายเดือน ค่าเสียหายเดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาท
ในขณะที่ "Tiger Lane" สามารถเอารถขนาดใหญ่มาจอดได้ 2 คัน Toyota Alphard และ Mercedes S Class จอดพร้อมกันก็ "เอาอยู่นะ" 555
เพียงแค่ ผมรู้สึกว่า ในยุคเศรษฐกิจจ๊ะทิงจาแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนจะกล้าซื้อบ้านราคาแบบนี้เหมือนกัน
ผมลองถามเพื่อนว่า แถวนี้เซ้งเท่าไร
เพื่อนบอกว่า ส่วนใหญ่พวกเก่าแก่จะเซ้งครั้งละ 10 ปี พวกรุ่นใหม่ๆครั้งละ 3-5 ปีก็มี แล้วแต่ตกลง
ส่วนค่าเซ้ง ตีแบบคร่าวๆจะตกปีละประมาณ 1 ล้านบาท แล้วแต่ทำเล และขนาด มากกว่า 1 ล้านก็เยอะ
โอ้ว เท่ากับ 10 ปี ก็ 10 ล้าน และยังมีค่าเช่าอีก เดือนละประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป
ค่าใช้จ่าย สมเป็นทำเลทองจริงๆ เอื๊อก กลืนน้ำลายแป๊บ
ทีนี้ ผมเลยถามเพื่อนว่า ถ้าที่นี่ (Tiger Lane) ปล่อย "เซ้ง" (เช่าซื้อ) ครั้งละ 5 ปี ค่าเซ้ง 5 ล้านบาท (สำหรับ 5 ปี) และมีค่าเช่าอีกเดือนละ 49,000 บ. ถือว่าเป็นไง
"เออ ก็โอเคนะ ค่าเซ้งไม่ต่างเท่าไร ค่าเช่าถือว่าไม่แรง มันก็อาจเหมาะกับเศรษฐกิจช่วงนี้ดี" เสียงตามสายดูเร้าขึ้นเล็กน้อย
แล้วถ้า.. หลังจาก 5 ปีแล้ว เราไม่ไหว ไม่พอใจ ไม่อยากอยู่แล้ว เขาก็จะคืนค่าเซ้ง 5 ล้านบาท มาให้เราละ
"เฮ้ย อันนี้น่าสนโค-ตะ-ระ" เสียงตามสาย มีความกระเส่าอย่างรุนแรง 5555
ซึ่งผมไม่แปลกใจเลย เพราะผมก็ว่ามันน่าสนตรงนี้นี่แหละ
ถ้าคิดเหลือแค่ในแง่ค่าเช่า มันจะกลายเป็น "ถูก" ทันที..!!!
ที่สำคัญ ถ้าเผื่อสมมติว่าอยู่แล้วเฮง อยู่แล้วรวย ฮวงจุ้ยเสริมบารมี อิอิ เงินที่เราจ่ายๆไป ก็ไม่ได้หายไปไหนนะ เพราะทาง "พี่สิบหมื่น" จะเอามาหักกับค่าบ้านให้ด้วย!!!
เช่น สมมติบ้านราคา 40 ล้านบาท เซ้ง 5 ปี เสียค่าแรกเข้า (ค่าเซ้ง) 5 ล้านบาท ค่าเช่า 5 ปี 2,940,000 บ.
รวมแล้ว 5 ปีผ่านไป เราจะเสียค่าใช้จ่ายให้ "พี่สิบหมื่น" 7,940,000 บ. เอาไปหักกับ 40 ล้านได้เลย ก็จะเหลือ 32 ล้านกว่าๆที่เราต้องจ่าย
ถือว่าเป็น ข้อเสนอ ที่แฟร์มากนะ
เอาจริงๆ ทาง "พี่สิบหมื่น" ก็อยากขายขาด
แต่ด้วยความเข้าใจว่า เป็นช่วงเศรษฐกิจขาลุง เอ้ย ขาลง (อิอิ) หลายคนที่อยากได้ อาจยังไม่อยากมีภาระก้อนใหญ่ในวันนี้
จึงต้องออกแพคเกจนี้มาล่อ ซื้อเวลาไปอีก 5 ปี
ยังมีอีกเรื่อง ที่อยากจะเล่า ไม่จบง่ายๆ 555
อีกจุดเด่นของโครงการ ที่บางคนอาจบอกว่า ไม่จำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ผมกลับรู้สึกว่า มันเจ๋งดีนะ
หน้าต่างหลังบ้านทุกชั้น เราสามารถดูบันทึกได้ว่า มันเปิดเวลาอะไร และปิดเวลาอะไร
และยังสามารถตั้งได้ด้วยว่า ถ้าช่วงเวลานี้ หน้าต่างเปิด มันจะแจ้งเตือนมาที่ App ทันที..!!!
โว้ว แบบนี้ลูกหนีเที่ยวลำบากเลย พ่อบ้านก็ด้วย อิอิ
ไม่ใช่มีระบบแบบนี้แค่หลังบ้านนะ ด้านหน้าก็มี แต่จะเป็นแบบ กล้องวงจรปิด
ซึ่งมีความสามารถในการบันทึกใบหน้าได้ด้วย..!!! ถ้ามีคนหน้าแปลก เข้ามาในบริเวณบ้าน มันจะแจ้งมาที่เราทันทีทาง App
อันนี้ พ่อบ้าน ห้ามเผลอนัดกิ๊กมาที่บ้านเชียว อาจคอหลุดได้ 555
ที่ตลกก็คือ เพื่อนผมแซวว่า ถ้ามีสุนัขบ้านอื่นมาอึ ฉี่ หน้าบ้าน มันจะแจ้งไหม
แจ้งนะ..!!! 5555 แถมมีสัญลักษณ์เป็นรูปเท้าสัตว์บอกเราด้วยนะ น่ารักเชียว
นอกจากนั้น ในแต่ละชั้นจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับควันด้วย ถ้าเกิดเหตุมีควันเยอะ จะมีการแจ้งมาที่เราเช่นกัน
อย่างที่ผมบอกนะ ไม่มีระบบพวกนี้ ก็อาจไม่เป็นไร แต่พอมี มันอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้เราได้เยอะทีเดียวนะเออ
ถือเป็นอีกจุดรายละเอียด ที่ "พี่สิบหมื่น" ใส่ใจที่จะใส่เข้ามาในโครงการนะ
โดยสรุป "Tiger Lane" เป็นโครงการที่เหมาะมากกับคนในพื้นที่ ที่ต้องการขยับขยายหาที่เพิ่ม ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัย หรือทำการค้าก็ตาม
เพราะเป็นโครงการที่ค่อนข้างมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องที่สูงทีเดียว
สำหรับคนที่สนใจ ผมได้ยินมาว่า ตอนนี้มีคนมาซื้อขาดไป 3 หลังแล้วนะ (ข้อมูล ธ.ค.2019) หลังที่แพงสุด โดนสอยไปเรียบร้อย ถ้าอยากได้ อย่านิ่งนอนใจ
ช่วงตรุษจีน (11-25 ม.ค. 2020) จะมีโปรได้ทองหนักสูงสุด 10 บาท และลุ้นจับฉลากรับอั่งเปาส่วนลดสูงสุด 2,000,000 บ.ด้วย
รีบไปดูด้วยตาตัวเองที่ Sales Gallery ด่วนๆ ก่อนไปอย่าลืมลงทะเทียนด้วย
คลิกที่นี่ จะได้มีคนมาคอยตอบคำถามเรา เวลาไปเยือนได้เน้อ มีถุงผ้าแจกให้ตามเทรนด์อีกต่างหาก
ถ้าหมด จะมีบ้านสไตล์นี้มาผุดอีกเมื่อไร ไม่รู้เลย หรือบางที อาจจะไม่มีอีกแล้ว ก็เป็นได้
v