หมีเชื่อว่าเพื่อน ๆ ที่ตามข่าวคราวแวดวงอสังหาคงพอทราบกันเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ถือเป็นโปรเจคต์ใหญ่ที่ตั้งตารอคอยเลยทีเดียว นอกจากเรื่องของอสังหาตามแนวเส้นทางของรถไฟความเร็วสูงที่น่าจับตามองว่าจะคึกคัดแค่ไหนแล้ว ยังมีอีกอย่างที่หมีว่าน่าติดตามไม่แพ้กัน

 

        แต่เดิม ที่ดินแปลงว่างไร้การทำประโยชน์ บริเวณสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ "มักกะสัน" ตอนนี้กำลังกลายเป็นขุมทองสร้างความมั่งคั่งให้กับกลุ่มซีพี หลัง บริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้งฯ) เซ็นสัญญากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

 

        หวังดึงคนทั่วทุกมุมโลกผ่าน 3 สนามบิน ทั้งดอนเมือง- สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา เข้ากลางใจพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นอาณาจักรมิกซ์ยูส ประตูเชื่อมโยงระหว่างมหานคร กับเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก(EEC) อย่างที่บอกว่าไม่ใช่แค่พื้นที่ EEC ที่ตื่นตัว แต่พื้นที่โดยรอบมักกะสันอย่าง อโศก - ดินแดง เพชรบุรี รัชดาฯ พระราม 9 ประตูน้ำ พญาไท ราชเทวี ก็มีผู็ประกอบการแต่ละรายขึ้นโครงการกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งภาครัฐเองก็ได้ขยับลงทุนเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ อย่างสายสีส้มตะวันตก รองรับการเกิดขึ้นของเมืองมักกะสัน ที่ว่ากันว่าจะเป็นเมืองที่มีอัตลักษณ์ สร้างการจดจำคล้ายคลึงกับ โครงการวัน แบงค็อก ตึกที่สูงที่สุดในไทยของเจ้าสัวเจริญเจ้าอาณาจักรถนนพระราม 4 ที่ ยันจะเนรมิตพื้นที่นี้ให้มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 2 ล้านตารางเมตร มากกว่าที่รฟท.กำหนด ถึง 2 เท่าตัว

 

        เน้นเป็นศูนย์กลางช็อปปิ้งโลก สถานพยาบาล ทั้งด้านการบริการและเทคโนโลยีชั้นสูง แหล่งรวมของความบันเทิง ศูนย์การประชุมระดับนานาชาติ เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ แน่นอนว่าต้องลงทุนสูงเพื่อออกแบบแม่เหล็กให้สะกดคนทั้งโลก เนื่องจากอยู่ใกล้กับประตูน้ำ ย่านค้าปลีกค้าส่งมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำจำนวนมาก ทำให้เกิดการเชื่อมโยง ระหว่างกัน อีกทั้งยังพุ่งเป้าไปที่สถานพยาบาลระดับโลกที่มากด้วยความทันสมัย การบริการครบวงจรสำหรับผู้ป่วยตลอดจนผู้มาใช้บริการทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

        น่าจับตามากจริง ๆ สำหรับการพัฒฯาของซีพีในครั้งนี้ ในอนาคตหมีเชื่อว่าที่ดินรอบ ๆ มักกะสันต้องพุ่งสูงเป็นเท่าตัวมาก ๆ ใครคิดจะลงทุนแถวนี้ถ้ามีโอกาสคงต้องรีบคว้ากันไว้แล้วล่ะ