ปีหนูมาถึงแล้ว ตอนแรกก็คิดว่าจะเป็น “หนูทอง” ที่ไหนได้ ดันเป็น “หนูชง” เสียอย่างนั้น
พูดให้ดูฮิปสเตอร์หน่อยก็ “2020 ใจร้ายกับเราตั้งแต่วีคแรกเลยนะ” ปกติไม่สนใจเรื่องชงไม่ชง เพราะถ้าชงกาแฟอ่ะอย่างชอบ (5555) แต่พอขึ้นปีใหม่ปุ๊บหมีก็ป่วยปั๊บชนิดเอาตัวเองแทบไม่รอด ยิ่งป่วยในเมืองกรุงแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ออกไปนอกบ้านแต่ละหนนี่ไม่ต่างกับนรก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ “ฝุ่นจิ๋ว” คัมแบ็คนี่ยิ่งลำบาก
ยิ่งพอเห็นว่าปีชวดปีนี้มีปีนักษัตรของตัวเองที่ร่วมชงไปกับเค้าด้วยแล้ว เซลส์โชคลางในร่างกายก็เริ่มทำงาน เริ่มโบ้ยไปแล้วว่า เฮ้ย ที่มันแย่แบบนี้เพราะปีนี้เป็นปีชงของเราแน่ๆ!
สุดท้ายก็ทนหัวใจเรียกร้องไม่ไหว คว้ากระเป๋าเตรียมไปแก้ชงที่วัดชื่อดัง เล่งเน่ยยี่ หรือชื่อยาวๆ ของเค้าคือ วัดมังกรกมลาวาส หวังจะปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปแล้วรับไอมงคลเข้ามา เรื่องแก้ชงหรือไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลเนี่ยมันก็ต้องเริ่มตั้งแต่ต้นปีใช่มั้ยล่ะ ว่าแล้วก็ไปกันเล้ยยย
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ามีปีไหนที่ชงบ้าง เรามาดูกันก่อนจะลงลึกไปคอร์สสอนแก้ชงของหมีแล้วกัน
ส่วนปีที่ชงเต็มๆ ชนิดได้ใบเซอร์ฯ บาริสต้าเต็มตัวของปีนี้คือคนที่เกิด ปีมะเมีย หรือก็คือคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2473, 2485, 2497, 2509, 2521, 2533, 2545, 2557 นับเป็นปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุด เพราะชงเต็มๆ 100%
ส่วนปีที่เรียกว่าเป็นชงร่วม ก็คือคนที่เกิดใน ปีชวด เป็นคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2455, 2467, 2479, 2491, 2503, 2515, 2527, 2539, 2551
แน่นอนว่าพี่ชวดไม่ยอมชงคนเดียว ลากเอา ปีเถาะ มาชงกันมันส์เลย สำหรับใครที่เกิดปีเถาะหรือเป็นคนที่เกิดในปี พ.ศ. 2458, 2470, 2482, 2494, 2506, 2518, 2530, 2542, 2554 อะไรไม่ดีในปีนี้ก็โทษว่าเพราะปีชงได้เลยนะ
เหมือนเลขสามจะสวยไป ก็เลยยก ปีระกา มาเป็นอีกหนึ่งปีชงร่วม หรือคนที่เกิดปี พ.ศ. 2464, 2476, 2488, 2500, 2512, 2524, 2536, 2548, 2560 นั่นแหละจ้า
ความสนุกอย่างหนึ่งของช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มันคือการที่เรามานั่งลุ้นกันนั่นแหละว่าปีหน้าฟ้าใหม่ใครจะชงใครจะชิล แล้วพอรู้ว่าชงเราก็ต้องอยากไปทำบุญแก้ชงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจ ซึ่งหนึ่งในสถานที่ที่คนนิยมไปแก้ชงกันมากก็หนีไม่พ้นวัดเล่งเน่ยยี่นี่แหละ
แม้หมีจะไปในช่วงวันธรรมดา แต่คนก็เยอะพอควรเลยนะ มีทั้งคนที่ไปเพื่อจะไปไหว้พระเอาสิริมงคล และคนที่ไปเพื่อแก้ชงโดยเฉพาะ แต่ที่เห็นแล้วแปลกตาคือคนจีนเค้านิยมมาที่นี่ด้วยเหมือนกัน แถมยังมีเป็นเรื่องของ “ธุรกิจ” อีกต่างหาก
ใช่เลย คนจีนส่วนมากมาที่นี่เพราะเค้ารับแก้ชง
แต่ละคนหอบอุปกรณ์แก้ชงกันพะรุงพะรังไปหมด บ้างสิบ บ้างยี่สิบ เอาเป็นว่าแต่ละคนหิ้วกันเยอะอ่ะ เราเองก็ยังมือใหม่ เลยอาศัยเมียงๆ มองๆ เค้าไปแทน แหะๆ
ส่วนขั้นตอนการแก้ชงนั้นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แรกๆ อาจจะมึนหน่อย แต่พอทำไปแล้วก็คล่องเอง
ขั้นแรกเลย ไปซื้ออุปกรณ์แก้ชงมา เจ้าชุดอุปกรณ์แก้ชงที่หมีว่าเนี่ยก็คือชุดสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงนั่นเอง เค้าจะเปิดขายกันด้านหน้าอาคารทำบุญ จำหน่ายในชุดละ 100 บาท แต่วันที่หมีไปเค้าแปะป้ายว่าหมด ของจะเข้าหลังช่วงเทศกาลตรุษจีน หมีก็เลยงง คิดในใจว่ามีงี้ด้วยเหรอ สงสัยต้องรอ “พรีออเดอร์” อิอิ
แต่ว่าของพวกนี้บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดก็มีจำหน่ายกันคึกคัก หมีเลยไปซื้อจากตรงนั้นมาแทน หน้าตาจะแตกต่างจากที่ขายในวัดหน่อย (ซึ่งในตอนหลังจะเสร็จสิ้นพิธีกรรมแล้ว เจ้าหน้าที่วัดดันแสยะยิ้มบอกว่าใบแบบนี้เป็นของปลอม หมีก็อ้าว คุณไม่มีขายฉันก็ต้องไปซื้อด้านหน้าไง ที่วางๆ อยู่ตรงหน้าองค์เทพก็มาจากร้านเดียวกันหมดนั่นแหละ อีกอย่างเขาขายกันโจ๋งครึ่ม ซื้อก็ซื้อมาแล้ว ไหว้ก็ไหว้แล้วเนอะ)
พอเราได้ชุดสะเดาะเคราะห์มาแล้วก็นำใบแดงมาเขียนชื่อ อายุ วัน เดือน ปี เกิด เวลาตกฟาก และปีนักษัตรลงไป (เขียนในใบแดงเท่านั้น!) ช่องไหนไม่รู้หรือไม่แน่ใจก็เติมคำว่า “ดี” ลงไปแทน ซึ่งทางวัดจะมีตารางนับปีนักษัตรแบบจีนให้ด้วยจ้า
เขียนเสร็จก็นำชุดไหว้ไปไหว้เทพเจ้าแห่งดวงชะตา หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไท่ส่วยเอี๊ย องค์เทพจะอยู่ด้านใน มีป้ายบอกทางชัดเจน ตั้งรวมอยู่ดับเทพองค์อื่นๆ แต่หาไม่ยากเพราะมีของไหว้กองอยู่เต็มไปหมด
จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการจุดธูปบูชา อธิษฐานขอบารมีคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ปีนี้ต้องเฮงๆ ต้นปี ลาลาลาลาลา เฮงๆ ทั้งปี~
เสร็จสิ้นแล้วก็นำชุดไหว้มาปัดตัว 13 ครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า พรึ่บพั่บๆ! (แต่ถ้ามาไหว้แทนคนอื่นไม่ต้องปัดนะ)
สุดท้ายก็นำชุดไหว้ฝากไว้ตรงหน้าองค์เทพไท่ส่วยเอี๊ย เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม ฮูเร่! แก้ชงเสร็จแล้วจ้า!
ทำทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก็รีบกลับออกมาเลย ร้อนมาก คนก็เยอะ ปีนี้รู้สึกว่าการจัดการของทางวัดไม่ค่อยครอบคลุมเท่าไร ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำด้วย ก็บรรดาคนที่มาแก้ชงนี่แหละที่ถามกันเองพึ่งพากันเอง 555 แต่ทำเสร็จแล้วก็สบายใจ ไม่ลืมที่จะไหว้เทพองค์อื่นๆ แล้วเซียมซีกลับมาสักนิด เฮ้ยยย นี่เราไม่ได้งมงายเลยนะะะ
เอาเป็นว่าใครจะไปแก้ชงก็รีบๆ ไปละกัน ความจริงช่วงเวลาที่เป็นที่นิยมในการไปแก้ชงก็คือก่อนตรุษจีน (แต่ชุดแก้ชงดันหมดแล้วเข้าหลังตรุษจีน เป็นงง) ยิ่งตอนนี้การเดินทางก็สะดวกขึ้นเพราะนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานีวัดมังกร โผล่มาเดินไปอีกไม่กี่สิบก้าวก็ถึงวัดแล้ว สะดวกมากๆ หมีคอนเฟิร์ม!