ขอย้ำอีกทีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คนในเรื่องก็เป็นคนจริงๆ ไม่ใช่ตัวแสดงแทน
ต้นปีมานี้เพิ่งเจอกับตัวเองสดๆ ร้อนๆ กับอาการ แสบจมูก แสบคอ ทรมานมากเหมือนจะตายให้ได้ พอลองเงยหน้ามองฟ้าก็ต้องหรี่ตาลง เอ๊ะ นั่นมันหมอกเหรอ? ไม่ใช่นี่ นั่นมันฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 นี่หว่า โอ้โห น้องคัมแบ็คแล้วทุกคน!
เจอละตัวการบั่นทอนสุขภาพกันตั้งแต่ต้นปี แปลกใจหน่อยๆ ที่ไม่เห็นมีประกาศแจ้งเตือนอะไรเลย เงียบมากเหมือนยืนอยู่กลาง Silent Hill บรรยากาศขมุกขมัวชนิดที่ว่าถ้าเจอผู้คุมวิญญาณจาก Harry Potter โผล่มาก็ไม่แปลกใจสักนิด
ชาวคอนโดเอง ถึงจะอยู่ที่สูงขนาดไหนก็ยังต้องเจอกับสภาพอากาศแย่ๆ แบบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกัน อย่าดูถูกอภินิหารหลวงปู่ฝุ่น แกซอกซอนไปได้ทุกที่ แฝงอยู่ในทุกมุมของบ้านเรา แถมยังเล็กจิ๋วแบบเข้าไปในร่างกายได้ง่ายอีกต่างหาก เฮ้ย นี่มันเอเลี่ยนหรือเปล่าฟะ!
และนี่นะ นับวันยิ่งหนักข้อขึ้นทุกที คัมแบ็คทีไรเล่นเอาคนอาการหนักไปเยอะ แถมในเมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ออกมาตรการรับมืออะไรเลยนอกจากพ่นน้ำปิ๊วๆ เราเองจึงต้องลุกมาดูแลตัวเอง เพราะ This is not my PM! (อ๋อ หมายถึงฝุ่นนะครับไม่ได้ล้อใคร แหะๆ)
ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศช่วงนี้จึงขายดีเทน้ำเทท่า แต่ว่า...การจะให้ทุกคนซื้อเครื่องฟอกอากาศทุกบ้านมันก็แปลกๆ ยังไงอยู่ด้วยปัจจัยต่างๆ สมมติคอนโดฯ มี 234 ยูนิตก็ต้องซื้อทุกยูนิตเลยสิงั้น
เครื่องฟอกอากาศจำเป็นไม่แพ้แอร์ในห้อง แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสร้างเครื่องฟอกอาการใหญ่ๆ สักเครื่อง แล้วให้มันทำงานครอบคลุมพื้นที่บริเวณนั้น ไม่เฉพาะแค่ลูกบ้าน แต่รวมไปถึงคนในชุมชนรอบข้างด้วย แหม...ฟังดูหล่อเลย
เอาจริง ไอเดียนี้นับว่าเข้าท่านะ เพราะหมีเพิ่งไปดู "หอฟ้าใส" หอฟอกอากาศระดับเมืองที่เพิ่งเปิดตัวเป็นโครงการนำร่องที่ 101 True Digital Park มา จะอยู่ตรง Family Park หน้าอาคารวิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท
นึกถึงเมื่อปีก่อนที่รัฐติดตั้งหอฟอกอากาศระดับเมืองตรงหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เพื่อช่วยลดฝุ่น จำได้ว่าหน้าตามันดูเหมือนอนุสาวรีย์อะไรทำนองนั้น
แต่มาเห็นตัวนี้คือคนละเรื่อง เพราะหลุดไปนอกโลกเหมือนอยู่ในหนังไซไฟ เห็นแล้วอยากวิ่งไปทำท่าบัญชาการสั่งปล่อยลำแสงมรณะของ Death Star ไปทำลายดาวคนอื่นเหมือนใน Star Wars ฮ่าๆๆ
กลับสู่ความเป็นจริงคือเจ้าหอที่ไปดูมาเนี่ย สามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง (เครื่องของรัฐมีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อยกว่า 17,000 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง) แถมใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลส์ ขนาด 3,850 วัตต์ ร่วมกับระบบแบตเตอรี่ มันเลยสามารถช่วยลดการพึ่งพาแหล่งไฟฟ้าจากภายนอกด้วยอีกต่อหนึ่ง
ลักษณะการทำงานของเครื่องก็มีอีกหลายขั้นตอนเลย แต่หมีไม่ได้อยากจะมาลงลึกถึงการทำงานของมัน เลยขอพูดคร่าวๆ ว่า หลักๆ แล้วการทำงานของเจ้าเครื่องนี่คือจะดูดอากาศเข้าไปในตัวเครื่อง แล้วกรองอากาศที่ผ่านเข้ามาดักจับเชื้อโรคด้วยแผ่นกรองอากาศ (ที่จะสร้างเลเยอร์กันกี่ชั้นก็ว่าไป อย่างตัวที่หมีไปดูมานี่ก็สร้างเลเยอร์กรองกันหลายชั้นอยู่)
เสร็จแล้วเครื่องก็จะปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาให้เราได้สูดกันเต็มปอด เชื้อรงเชื้อโรคไม่มีปะปนเข้าไปได้แน่
พอมาอยู่ในรูปของ “หอฟอกอากาศ” ไม่ใช่ “เครื่องฟอกอากาศ” หมีเลยคิดว่า เออแฮะ...เจ้าเครื่องนี่มันดูสะดวกดีไม่น้อยนะสำหรับคนที่อยู่ในคอนโดฯ
เพราะแทนที่เราจะให้ทุกครัวเรือนซื้อเครื่องฟอกอากาศคนละเครื่อง สู้ทำหอฟอกอากาศไปเลย ตู้มเดียวจบ แบบนี้ง่ายกว่าหรือเปล่าน้อ
แน่นอนว่าสิ่งนี้มันก็ต้องใช้ทุนแหละ แต่ถ้าถามว่ามันดีมีประโยชน์มั้ยหมีว่าราคาที่จ่ายมันก็คุ้มค่าอยู่นะ
เลยแอบคิดว่าถ้าหลายๆ โครงการ หลายๆ เจ้าหันมาทำหอฟอกอากาศ อาจจะขนาดไม่ใหญ่มาก ติดตั้งในตัวโครงการ น่าจะเป็นการตอบโจทย์ด้านสุขภาพให้ลูกบ้านได้ไม่น้อย
เพราะต้องยอมรับจริงๆ ว่าการฟอกอากาศมันจำเป็นมากสำหรับบ้านเมืองเราในตอนนี้ ปีที่แล้วว่าฝุ่นเยอะแล้ว ปีนี้คือหนักกว่า เช็คค่าฝุ่นทีนี่เห็นแข่งกันขึ้นแดงขึ้นม่วงเป็นทิวแถว การฟอกอากาศนอกจากจะช่วยกำจัดเชื้อโรค แบคทีเรีย ฝุ่นละออง ทำให้อากาศมีความบริสุทธิ์มากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดโอกาสของการเกิดโรคภูมิแพ้ด้วย ประโยชน์เห็นๆ
มันอาจจะไม่ได้ทำให้ฝุ่นบริเวณนั้นหายไปแบบไร้ร่องรอย แต่อย่างน้อยก็สามารถลดจำนวนพวกมันได้เนอะ
อีกอย่างหมีเห็นว่าเดี๋ยวนี้หันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทรนด์ Well-Being กันมาก ปลูกผักปลูกต้นไม้กันก็เยอะแล้ว น่าจะหันมาสร้างอากาศบริสุทธิ์ให้ปอดลูกบ้านกันก็เป็นความคิดที่เข้าท่า
แต่เชื่อสิว่าสร้างกันมาเจ้านึงแล้ว อีกไม่นานก็คงเริ่มแพร่หลาย เพราะเดี๋ยวนี้หลายเจ้าเค้าหันมาใส่ใจสุขภาพของลูกบ้านกันมากยิ่งขึ้น