เจริญกรุงนี่ก็ถือว่าเป็นถนนเก่า ถนนแก่ เส้นหนึ่งในกรุงเทพเลยนะ รู้อะไรมั้ยว่าแหล่งช้อปปิ้งย่านแรก ๆ ของบางกอกก็คือย่านเจริญกรุง บางรัก แถว ๆ นี่แหละฮะ
เจริญกรุงก็เลยเป็นทำเลสุดแมสมาตั้งแต่ก่อนโน้นเลย พอมาในยุคปัจจุบันใช่ว่าย่านนี่จะเสื่อมสลายคลายความนิยมไปนะฮะ ด้วยความที่ถนนแทบจะเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา เดินทางสะดวกเพราะมีถนนหลายเส้นตัดผ่าน ทั้งถนนจันทน์ ถนนสาทรเหนือ ถนนสาทรใต้ ถนนสีลม หรือจะเป็นพระราม 3 มุ่งเข้าสู่รัชดา-ท่าพระ เพื่อไปฝั่งธนบุรีก็ยังได้
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันย่านช้อปปิ้ง หรือ ย่านแฮงเอ้าท์จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ผมยังมองว่าเจริญกรุง ยังคงเป็นย่านที่คงความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ของตัวเองเอาไว้ได้อยู่นะ
แม้จะเก่าแก่ แต่ก็ยังมีคนตามจีบอยู่เรื่อย ๆ นะย่านนี้ ล่าสุดที่ผมหาข้อมูลดูเนี้ย เจริญกรุงอยู่อันดับที่ 11 ในการจัดอันดันราคาที่ดินที่สูงที่สุดในกรุงเทพเลยนะ
เห็นผมพูดถึงถนนเจริญกรุง ขนาดนี้ เดาได้ไม่ยากครับว่าวันนี้เราจะพาไปสำรวจทำเลโครงการกันอีกแล้ว
ซึ่งโครงการที่ผมกำลังจะพูดถึง เป็นอีกหนึ่งในกิ่งก้านของ Rhythm จาก AP ที่ไปแตกทำเลอยู่ย่านเจริญกรุงนั่นเอง โดยเค้ามาในชื่อว่า Rhythm Charoenkrung Pavillion (ริธึ่ม เจริญกรุง พาวิลเลียน) หรือเรียกสั้น ๆ ว่าริธึ่ม เจริญกรุง ก็ได้ฮะ
วันนี้ผมพาทุกคนมาเริ่มต้นกันที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กันก่อนเลยฮะ คิดว่าคงไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักที่นี่แน่นอน
เริ่มต้นที่นี่เพราะตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจากเอเชียทีคมากครับ อย่างที่ผมกล่าวไว้ตอนต้นเลยว่า ความโดดเด่นของเจริญกรุงในปัจจุบันนอกจากกลิ่นอายความเก่าที่เรียกได้ว่าคลาสสิกแล้ว การเดินทางที่สะดวก มีหลายทางเลือก ก็เป็นอีกตัวชีโรงที่ทำให้เจริญกรุงแมสไม่หยุดไม่หย่อนจริง ๆ
ผมมาทางรัชดา-ท่าพระ ขึ้นสะพานพระราม 3 แล้วมุ่งเข้าเจริญกรุงมา หรือใครจะมารถไฟฟ้าก็ลงที่สถานีสะพานตากสินได้ครับ ลงทางฝั่งวัดยานนาวา ถ้าเดินมาทางนั้นจะถึงโครงการก่อนเอเชียทีคครับ
หรือใครไม่สะดวกทางรถ มาทางเรือได้ฮะ สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าเรือวัดราชสิงขรเพื่อมาเอเชียทีค และ ลงท่าเรือวัดจรรยาวาส เพื่อเดินทางไปโครงการ (ถ้ายังงง ๆ เดี๋ยวผมจะค่อย ๆ อธิบายอีกทีฮะ)
เอาล่ะ กลับมาที่จุดที่ผมอยู่ก่อน ความเอเชียทีค คงไม่ต้องพูดอะไรมากมายนะฮะ(เพราะไม่ได้เข้าไปถ่ายด้วย)
เดินมุ่งหน้าไปฝั่งสาทรเพื่อไปโครงการกันครับ
ย่านนี้เป็นย่านที่คนอยู่เยอะนะครับ ไม่เหงา อย่างแน่นอน ระหว่างที่เดินไปก็จะเจอพ่อค้าแม่ขาย ตั้งร้านริม ”ทางเท้า” ให้เราต้องคอยหลีกกันประปรายครับ อิอิ
เดินๆไปเรื่อย ๆ นอกจากพ่อค้าแม่ค้า ร้านรวงต่าง ๆ ที่มีตลอดทางแล้ว ก็มีโรงแรมนี่แหละครับดัง ๆ ขึ้นชื่อหน่อย ก็โรงแรมแม่น้ำนี่แหละ เขยิบไปข้างหน้าอีกนิดก็เป็น Ramada นั่นเองครับ (บอกแล้วว่าทำเลฮอตจริง คนรุมจีบเยอะ) ใกล้ถึงโครงการแล้วฮะ
ด้วยความฮอต ความคลาสสิกนี่แหละ ต้องบอกว่าที่ดินนอกจากจะแพงแล้ว ยังไม่ค่อยเหลือด้วยนะฮะ ถือว่า AP ได้ทำเลที่ดีไม่หยอกเลยครับ อยู่เกือบหัวมุมถนนเลย
ถึงโรงเรียนนานาชาติโชรวส์เบอรรี่แล้ว โครงการอยู่ตรงข้าม แค่ข้ามถนนแล้วเดินไปประมาณ 10 ก้าวก็ถึงแล้วนะ
ตัวโครงการอยู่ตรงข้ามโรงแรมชาเทรียมเลยฮะ จุดสังเกตง่าย ๆ คืออยู่ตรงแยกตรอกจันทน์นั่นแหละ โครงการอยู่เกือบตรงหัวมุมเลยครับ ซึ่งทางเข้าออกโครงการออกได้ทั้งทางฝั่งถนนเจริญนคร และ ถนนจันทน์เลย
โครงการยังไม่ก่อสร้างนะฮะ เค้าจะเริ่มก่อสร้างช่วงเดือนกุมภาพันะ ปีนี้แหละ แต่ว่าสำนักงานขายเสร็จแล้ว สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่างในสำนักงานขายได้แล้วเช่นกัน
เข้าไปชมโครงการแล้วขอพูดถึงตัวโครงการหน่อยนะฮะ Rhythm Charoenkrung Pavillion เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 4-2-76.6 ไร่ครับ จะแบ่งเป็นอาคารพักอาศัยที่เป็น High Rise 44 ชั้น และมีชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้นฮะ ถึงจะไม่ติดแม่น้ำ แต่เห็นวิวแม่น้ำแน่นอนฮะตรงนี้ อีกอันจะเป็นรึธึ่ม พาวิลเลี่ยนครับ 1 ชั้น มีชั้นใต้ดินอีก 2 (แอบแง้มราคาว่าตอนนี้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.9 ล้านบาทครับ)
ตัวห้องค่อนข้างมีให้เลือกเยอะอยู่ครับ ผมสอบถามดูแล้วเค้าเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งครอบครัวและคนโสดเลยฮะ ดังนั้นรูปแบบห้องจึงมีตั้งแต่ 1 ห้องนอนไปจนถึง 4 ห้องนอนเลย ใหญ๋โตโอ่อ่าครับ มาดูรายละเอียดในแต่ละแบบกันดีกว่า
แบบแรก 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. แบบที่สอง 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. แบบที่สาม 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 75.5 – 128.5 ตร.ม. แบบที่สี่ 3 Bedroom ขนาด 134-159 ตร.ม. และแบบสุดท้าย 4 ห้องนอนขนาด 184-228 ตร.ม. ครับผม
ส่วนในเซลล์แกลลอรี หรือ สำนักงานขายจะมีห้องตัวอย่างของ 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. และ 3 Bedroom ขนาด 134-159 ตร.ม. ให้ชมกันครับ
ถือว่าขนาดห้องเริ่มต้นของโครงการนี่ไม่ได้เล็กแบบแมวดิ้นตายนะ เริ่มต้นได้มาตรฐานพอเหมาะ อยู่คนเดียวสบาย ๆ ตามประสาคนโสดฮะ อย่างที่ผมบอกแหละครับว่าโครงการนี้เจาะกลุ่มลูกค้าทั้งในแบบครอบครัว และ คนโสด ถ้ามีครอบครับขยับขยายไปที่ห้องขนาด 3-4 ห้องนอนก็ได้ พื้นที่โดยเฉลี่ยกว้างขวางมีพื้นที่ใช้สอยเยอะอยู่ครับ
ตัวโครงการจะให้แบบ fully fitted นะครับ แถมเครื่องปรับอากาศ เคาท์เตอร์ครัว+เครื่องดูดควัน และ สุขภัณฑ์ห้องน้ำครับผม
มาดูห้องตัวอย่างกันดีกว่า ห้องแรก เป็นห้อง1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ห้องนี้เข้าไปเราจะเจอเค้าแยกเป็นโซน Dinning Room ก่อนครับ ทางด้านซ้ายมือจะเป็นครัว ที่เป็นลักษณะแบบครัวปิด แบ่งเป็นสัดส่วนที่พอใช้งานได้ครับ เลยโซนดินนิ่งรูมจะเป็น Living Area ครับ
ห้องนอนจะอยู่ทางขวามือครับ เชื่อมต่อเข้าห้องน้ำได้ ห้องน้ำมีการแยกโซนเปียกโซนแห้งให้ครับ ส่วนตัวผมว่าห้องนี้อยู่ 2 ก็ยังไหวนะ เผื่อพ่อแม่ผู้ปกครองคนไหนมีลูกสองคนอยากซื้อคอนโดให้ลูกอยู่ ห้องขนาดนี้ผมว่าก็โอเคอยู่นะครับ
ไปชมอีกห้องกันครับ อันนี้ใครอยากอยู่กันเป็นครอบครัวต้องห้องนี้เลย 3 Bedroom ขนาด 134 ตร.ม.
ขอเสริมนิด เรื่องของแนวคิดของโครงการนี้ค่อนข้างจะทันสมัยฮะ คือผมสรุปสั้น ๆ ตามความเข้าใจของตัวเองเลยนะ แนวคิดของเค้าคือการออกแบบให้ตอบโจทย์คนทุกเจนครับตั้งแต่คนรุ่นใหม่ไปยันคนรุ่นเก๋า ผมชอบนะ อย่างห้องนี้ที่เป็นห้องขนาดใหญ่ครับ เราเดาไม่ยากว่าพื้นที่ขนาดตั้ง 134 ตร.ม. คนอยู่อาศัยจริงก็คงเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวหนึ่งนั่นแหละ ทีนี้ไอเจ้าแนวคิดที่ผมบอกว่าเค้าตอบโจทย์คนทุกเจนเนี้ย เพราะเค้าเน้นสร้าง Space ของคนแต่ละวัยครับ
อย่างห้องเนี้ย ผมดินเข้ามาทางขวามือคือเจอห้องเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง สอบถามเค้าบอกว่าสามารถ Adapt เป็นครัวไทย(ครัวปิด) ได้หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องเสื้อผ้าก็ได้ ตามใจเราครับ ก็เหมือนสร้างแอเรียให้ตัวเองแหละ
บริเวณทางเข้าจะมี Walk-in Closet พื้นที่ใช้สอยได้จริงครับ ห้องนี้จัดแบ่งสัดส่วนตอบโจทย์อยู่ฮะ ทางขวามือมีพื้นที่ที่เป็น Service Area ครับ คือจะเอาไว้เป็นห้องเก็บโน่นนี่ก็ได้นะ แต่อีกอย่างที่ผมชอบก็คือตรงนี้จะมีห้องน้ำเล็ก ๆ ซ่อนอยู่(เรียกว่าซ่อนได้มั้ย) อย่างเวลามีแขกมาหา เราคงไม่อยากให้เค้าเข้ามาใช้ห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนเราหรอกใช่มั้ยครับ?
เข้ามาจะเจอครัวที่เป็นครัวไอแลนด์ครับ ถัดไปเป็นพื้นที่ Living Area เป็นพื้นที่ที่ให้ทุกคนสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ ซึ่งมันจะกั้นกลางซ้ายขวาจะเป็นห้องนอนครับ แต่ห้องตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงาน(แล้วแต่เราจะ Adapt) ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ข้างครัว ห้องน้ำจะมีอ่างให้ครับห้องนี้
ชมกันพอให้หอมปากหอมคอฮะ ผมขอไปต่อที่ทำเลเลยแล้วกันนะ ถ้าเดินเลยโครงการข้ามแยกตรอกจันทน์ไปก็มุงจะสู่ BTS สะพานตากสินฮะ ระหว่างทางเจอทั้งบ้านคน ทั้งสำนักงาน บริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ตลอดทางครับ
ผมขอเสริมนิดนึง จากที่ผมสังเกตดูย่านนี้เริ่มมีคาเฟ่ขึ้นเยอะเลยนะ ร้านเล็กร้านน้อยมีให้เลือกเข้าไปใช่บริการเพียบฮะ แต่ถามว่าผมเข้ามั้ย ก็ไม่นะ5555 ขอไปถ่ายทำเลก่อน แวะเก็บภาพมาฝากนิดหน่อย ระหว่างทางก่อนถึง BTS จะมีทั้งโรงเรียน ทั้งวัดวาอารามครับ ทั้งวัดสุทธิวราราม วัดยานนาวา ราชมงคลกรุงเทพ
มาถึง BTS สถานีสะพานตากสินกันแล้วครับผม ตรงนี้มีถนนสาทรเหนือ ถนนสาทรตัดใต้ผ่านด้วย คือต้องบอกก่อนว่าถึงแม้อนาคตสถานีจะปิดนานเกือบ 4 เดือนเลย (แอบเห็นเพื่อน ๆ บ่นในเพจเราหนาตาอยู่) แต่ในละแวกย่านนี้ก็มีการเดินทางรูปแบบอื่นให้เลือกอยู่ครับ ทั้งรถสองแถวเอย เรือเอย แต่ยังไงก็คงต้องปรับเปลี่ยนเวลาเดินทางกันหน่อยล่ะ
ทางด้านโน้นไปก็จะเป็นโรบินสันบางรักแล้วถ้าเรามุ่งหน้าไปหน่อยก็เข้าเส้นสีลมแล้วฮะ แหล่งออฟฟิศของใครหลาย ๆ คน รวมถึงโรงเรียนอย่างอัสสัมชัญด้วย สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจสำหรับการอยู่แถวนี้คือการจราจรนั่นแหละครับ รถติดมาก ซึ่งผมว่าคนที่เลือกมาอยู่แถวนี้คงต้องทำใจยอมรับกันให้ได้นะฮะ
โดยสรุปการมาเดินให้เหงื่อซึม ที่ริธึ่ม เจริญนครวันนี้ เหมือนได้พาทุกคนมาดูทำเลที่คุ้นเคยเมื่อตอนอดีตนั่นแหละครับ ถึงแม้ว่าย่านนี้เรื่องการเดินทาง(ด้วยรถไฟฟ้า)อาจจะไม่ได้เป็นตัวเด่น หรือชูโรงให้ย่านนี้ฮอตเมื่อเทียบกับย่านอื่นในกรุงเทพ แต่ความโดดเด่นเรื่องวิว ความคลาสสิก ที่มีเสน่ห์ในตัวเองนี่แหละ ที่ส่งผลให้ย่านนี้ยังคงตอบโจทย์ ที่สำคัญผมมองว่าการมีโรงเรียนใกล้ ๆ และมีถนนหนทางให้ใช้หลายเส้น ก็เป็นตัวเสริมอันแข็งแกร่งอยู่เหมือนกันนะ
วันนี้คงต้องจบการส่องทำเลไว้แค่นี้ก่อนแล้วกันฮะ เพราะเห็นที่จะเป็นเหงื่อซกไม่ใช่เหงื่อซึมซะแล้ว5555 ทิ้งท้ายไว้อีกนิดว่า หากใครสนใจก็สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่าง หรือเข้าไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานขายของเค้าได้เลยครับ ส่วนรอบหน้าใครอยากให้ผมไปสำรวจที่ไหน ก็สามารถคอมเม้นต์บอกกันมาได้นะครับผมมม