ได้ยินว่าเสร็จมานานซักพักแล้ว สำหรับบ้าน บริทาเนีย บางนา กม.12 โครงการบ้านจาก ออริจิ้น เค้านั่นเอง
ตัวชื่อโครงการนี้เค้าก็บอกกันโจ่งแจ้งอยู่แล้วว่าอยู่ที่ไหนทำเลอะไร แทบไม่ต้องแนะนำเลย (แต่ขอแนะนำหน่อยแล้วกัน พอกรุบกริบ)
ประกอบกับที่มาทำธุระแถว ๆ "เมกะบางนา" พอดี ไอเราก็ได้ยินมาหนาหูอยู่แฮะ ว่าช่วงนี้แนวราบบูมมากเว่อร์ ยิ่งแถว ๆ บางนานี่ขับรถตามทางผมเจอแต่ไวนิลบ้านทั้งนั้น แสดงว่าข้อมูลที่ได้รับมานี่ถูกเผงเลยล่ะ
อย่างที่เลือกมาดูบริทาเนียนี่ก็เหตุผลง่าย ๆ เลย ก็บ้านมันสร้างเสร็จแล้วอ่ะ อยากดูบ้านที่เสร็จเข้าอยู่ได้เลยสิ มันจะได้เรียล ๆ หน่อย
พร้อมกันรึยัง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูบ้านกันเลยดีกว่า ไปไกลกันถึงบางนา มาดูซิว่าเค้ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาโลดดด
- โครงการไม่ได้ลึก ยอมรับว่าถ้าพูดถึงหมู่บ้าน สิ่งที่ผม รวมถึงหลาย ๆ คนชอบตั้งคำครหาไว้ในใจคือ ขึ้นชื่อว่าหมู่บ้านอ่ะ ทางเข้าหมู่บ้านกับถนนใหญ่คงลึกแน่ ๆ แต่กับที่นี่ ไม่ได้ลึกเท่าไหร่แฮะ เพราะตัวโครงการติดถนนสุขาภิบาล 6 หรือ ว่าซอยวัดหลวงพ่อโตนั่นเอง
- ขอขยายเรื่องถนนหน่อยนะ คือชอบส่วนตัวเลยแหละ มันเด่นมาก ๆ ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ในซอยวัดหลวงพ่อโต ที่สามารถเชื่อมไปถนนเทพารักษ์ และ บางนา-ตราดได้ ซึ่งต้องบอกว่าสะดวกมากเลย เพราะเราสามารถใช้ทางด่วนบูรพาวิถีวิ่งเข้าออกเมืองได้ด้วย ผมว่าตรงนี้ตอบโจทย์คนใช้รถจริง ๆ แถมโครงการอยู่ไม่ไกลจากสุวรรณภูมิเท่าไหร่ด้วยนะครับ ขับรถราว ๆ 20 นาทีเห็นจะได้
- ตัวโครงการมีสถานที่สำคัญอยู่รอบ ๆ เลย หลัก ๆ ก็มีสนามบินสุวรรณภูมิห่างจากตัวโครงการแค่ 10 กิโลฯ , นิคม บางปู 10 กิโลฯ , นิคม บางพลี 12 กิโล , ม.หัวเฉียว 12 กิโลฯ , ม.ราม2 14 กิโลฯ , ม.เอแบค 24 กิโลฯ (แถมยังมีโรงเรียนเล็กใหญ่ ใกล้ ๆ เพียบ)
- ทำเลครึกครื้นแต่ก็ยังสงบ (อย่าเพิ่ง งงนะ) ที่บอกว่าครึกครื้นเนี้ย คือด้วยความที่ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยวัดหลวงพ่อโต ซึ่งต้องบอกเลยว่าซอยนี้มีคนอาศัยอยู่เยอะพอสมควรเลยแถมในซอยมีทั้งวัดทั้งโรงเรียน จุดนี้ดูเหมือนจะวุ่นวายนะแต่พอเข้าสู่โครงการ ก็ค่อนข้างสงบแล้ว
- ปากท้องไม่ขี้เหร่ ตัวโครงการอยู่ในย่านชุมชนแน่นอนว่ามันมีคนเยอะ ของกินก็ต้องเยอะตามอยู่แล้ว แต่วันไหนอยากไปกินในห้างก็ไปเมกะบางนา เพราะอยู่ไม่ไกลจากโครงการแค่ประมาณ 7 กิโล แบบถ้านั่งแท็กซี่มิเตอร์ยังไม่ขยับเลย นอกจากเมกะแล้วยังมี บิ๊กซี บางพลี , Market Village , โฮมโปร , โลตัส , แมคโคร บางพลี แต่ละห้างไม่เกิน 7 กิโลครับ ถือว่าใกล้โครงการมาก ๆ เลยทีเดียว
- อีกอย่างคือเซเว่นอยู่หน้าทางเข้าหมู่บ้านเลยนะ อยากฝากท้องง่าย ๆ ก็มีร้านสะดวกซื้อที่ไม่ได้อยู่ไกลอะไรเลย ตรงนี้เหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ผมมองว่ามันเป็นประโยชน์มาก ๆ เลยล่ะ
- มาดูในส่วนของตัวบ้านกันบ้าง อ้อ ผมลืมบอกไปว่าตัวบ้านเป็นบ้านเดี่ยวนะ มีให้เลือก 3 แบบ ไล่จากขนาดเล็กไปใหญ่คือ Brompton , Regent , Oxford แต่ตอนที่ผมไปดูเนี้ย ตัว Oxford(ขนาดใหญ่สุด) ขายหมดเกลี้ยงไปแล้วด้วยนะ ฮอตจริง ๆ
- พูดถึงรายละเอียดของบ้านแต่ละแบบนิด ๆ หน่อย ๆ ตามที่เซลล์แนะนำนะ เริ่มจาก Brompton คือตัวนี้จะมีขนาด 130 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ตัวหน้าบ้านค่อนข้างกว้างเลยครับ เนื้อที่จะอยู่ที่ 10 เมตร จอดรถได้ประมาณ 2 คัน ส่วนตัว Regent จะคล้ายกับ Brompton เลยต่างกันที่ขนาดเพราะ Regent จะอยู่ที่ 140 ตร.ม. (แต่ผมไม่ได้ดูตัว Oxford นะ ตามที่บอกไปข้างบนว่าขายไปเกลี้ยงแล้ว)
- ตัวบ้านแต่ละแบบไม่ค่อยแตกต่างกันมากนะครับ จะต่างกันที่ขนาดอย่างที่ผมบอกไป แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ เลยคือ ตัวบ้านทุก ๆ แบบจะมีครัวแยกออกมาจากภายในตัวบ้านครับ สามารถใช้เป็นครัวไทยได้ โดยที่กลิ่นอาหารจะไปรบกวนภายในบ้าน ผมว่าคนชอบทำครัวคงจะชอบใจเลยแหละ แม่ผมแล้วคนหนึ่ง5555
- ตัวบ้านมี 2 ชั้น ตัวชั้นล่างนี่เราสามารถจัดยังไงก็ได้ตามความต้องการเลย แน่นอนล่ะว่าตรงบริเวณประตูทางเข้า หลาย ๆ คนคงเลือกที่จะทำเป็นโซน Living Room เหมือนบ้านตัวอย่างที่ผมไปดูนี่แหละ แต่ถ้าขยับเข้าไปอีกนิด ก็จะพื้นที่ที่เหลือ ถ้าเราจะกั้นเป็นห้องเล็ก ๆ อีกห้องก็ยังได้นะครับ อย่างใครที่บ้านมีผู้สูงอายุผมว่าทำเป็นอีกห้องได้เลยล่ะ
- ส่วนตัวชั้นสองของบ้าน แอบรู้สึกว่าอึดอัดไปหน่อยครับ เพราะ walk in closet ระหว่างห้องนอนแคบมาก เดินสวนกันสองคนแทบไม่ได้เลย แต่ตัวห้องนอนผมว่าพอใช้ได้แหละ จะมีตัวห้องใหญ่กับห้องเล็ก 2 ห้องนอน ซึ่งตัวห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวด้วย แต่ห้องนอนเล็กก็เล็กไปหน่อยแฮะ
- เรามาดูในเรื่องของส่วนกลางกันบ้างดีกว่า ตัวโครงการจะมี Clubhouse ไว้บริการลูกบ้านด้วย ตรงนี้จะมีทั้งพื้นที่ Co-Living Space อยู่บริเวณชั้นแรกครับ จะมีเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็กสระผู้ใหญ่ด้วย ข้าง ๆ กันจะเป็นเหมือนสวนสาธาณะของหมู่บ้าน ขนาดค่อนข้างใหญ่เลย พอให้ความร่มรื่นได้ ส่วนบริเวณชั้นสองของ Clubhouse จะเป็นฟิตเนสและพื้นที่ Kidzone ครับ แต่ส่วนตัวผมว่ามันพื้นที่ Clubhouse มันเล็กไปนะ
- หลังจากที่เข้าไปดูทั่วทั้งโครงการแล้ว มาถึงตรงนี้ ผมขอมาสรุปข้อดีและข้อเสียของโครงการให้ฟังกันเลยดีกว่า ขออนุญาตย้ำตรงนี้นะฮะว่า เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมเท่านั้นนะครับ
ข้อดี
แน่นอนครับว่าเรื่องทำเลถนนหนทางกินขาด เดินทางโดยใช้ถนนได้หลายเส้น
ตัวโครงการใกล้ห้างเยอะมาก เรื่องปากท้องของกินไม่มีขาดแน่นอน
อาจจะดูเล็กน้อยแต่ยกให้เป็นหนึ่งในข้อดีที่ชอบที่สุดเลยคือเซเว่นอยู่ทางเข้าหมู่บ้าน สะดวกมาก ๆ ครับ
ทางเข้าหมู่บ้านไม่ได้เป็นซอยลึก ๆ ติดถนนใหญ่ ลองคิดถึงคุณผู้หญิงหรือเด็ก ๆ กลับบ้านคนเดียวกลางค่ำกลางคืนคือบรรยากาศไม่น่ากลัวครับ
ตัวโครงการออกแบบให้มีครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน ตรงนี้ผมชอบมาก ๆ ตัดเรื่องเวลาทำอาหารแล้วกลิ่นตลบอบอวนภายในตัวบ้านไปได้เลยครับ
ตัวบ้านมีการดีไซน์ให้สามารถกั้นเป็นอีกห้องนอนได้ เหมาะสำหรับใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ภายในบ้านครับ
อันนี้เป็นข้อดีที่น่ารักมากครับ เพราะแต่ละบ้านโครงการจะแถมต้นไม้ใหญ่ให้หลังละต้นด้วย ผมว่ามันดีมาก ๆ เลยนะ
ราคาไม่แรงจนขนหน้าแข่งร่วงครับ เริ่มต้น 5.69 – 7 ล้านบาท เอง ผมว่ามันสมราคาอยู่ครับ
ข้อเสีย
พื้นที่ใช้สอยบางส่วนในบ้านค่อนข้างน้อยไปนิด (ยิ่งบริเวณชั้นสอง) ผมไม่ค่อยชอบเรื่อง walk in closet ระหว่างห้องนอน ตรงนี้แคบไป
ผมว่า Clubhouse เล็กไปหน่อยครับ อาจให้บริการลูกบ้านได้ไม่ทั่วถึง แถมมีแค่จุดเดียวบริเวณทางเข้าโครงการ อันนี้ผมคิดแทนลูกบ้านที่อยู่โซนท้าย ๆ โครงการว่าน่าจะมีส่วนกลางอีกอันไปไว้ได้หลังบ้าน
งานยังไม่ค่อยเนี๊ยบ เช่นพวก แนวกำแพงกระเบื้อง ซึ่งตอนตรวจบ้านเค้าจะมีการแก้ให้นะ อย่าลืมตรวจสอบกันดี ๆ ล่ะ
ถึงแม้ทุกบ้านจะมีบริเวณพื้นที่จอดรถแต่ระยะการให้ร่มเงาบังแดดให้ตัวรถแค่ครึ่งคัน ซึ่งคนรักรถอันนี้ไม่ปลื้มแน่นอนครับ เพราะต้องเสียเงินเพื่อนต่อเติมในอนาคตแน่ ๆ
ใครที่สนใจ ก็ลองเข้าไปสอบถามข้อมูล ณ โครงการของเค้าได้เลยนะ แว่ว ๆ ข่าวมาเหมือนกันว่ากำลังจะมีการสร้างเฟสสองแล้วด้วย ผมขอจบการรีวิวไปด้วยภาพถ่ายจากตัวโครงการจริงของเค้าหน่อยแล้วกัน