ช่วงนี้เซ็งๆ ไม่รู้จะหาอะไรอ่านดี กองดองที่มีก็ทลายไปหมด ย้ายไปสิง Netflix ก็แล้ว แต่เรื่องที่ตามก็ยังลงไม่ครบ นั่งๆ นอนๆ รอไปอย่างค้างคา
กลายเป็นว่าวันหยุดได้แต่กลิ้งไปกลิ้งมาเพราะไม่รู้จะทำอะไร แต่บังเอิ๊ญญญบังเอิญ ประจวบเหมาะกับที่มีประเด็นร้อนระเบิดตู้มในวันสองวันนี้พอดี ประเด็นที่พูดถึงประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างเสือเหลืองมาเลเซีย ซึ่งหมีที่ไถมือถือตามอย่างเมามันก็ไปเอ๊ะกับหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกยกขึ้นมาพูดถึงเข้า
ชื่อเก๋เชียว "Billion Dollar Whale"
พอได้ยินชื่ออะไรแบบนี้ไม่รู้ทำไม ชอบนึกไปถึง "เฒ่าผจญทะเล The Old Man and the Sea" อะไรทำนองนี้ทุกที 5555
แต่เอาเข้าจริงก็มารู้ว่า แหม เรานี่มันไร้เดียงสาเกินไปนี่หว่า เห็นมีวาฬในชื่อเรื่องดันนึกไปถึงหนังสือโลกสวยซะงั้น
เพราะลองไปค้นดูแล้ว "Billion Dollar Whale" นี่มัน "ดาร์ก" กว่านั้น
ที่สำคัญ...เป็นหนังสือตีแผ่การคอรัปชั่นระดับโลกด้วย!
ถ้าใครตามประเด็นร้อนทางการเมืองช่วงหลายวันมานี้จะได้ยินคำว่า 1MDB หรือ 1Malaysia Development Berhad กันแน่นอน พูดแล้วก็หนาวๆ ร้อนๆ เพราะประเด็นนี้กำลังโยงมาเข้าพี่ไทยเสียอย่างนั้น
เท้าความก่อนว่า 1MDB เนี่ยไม่ใช่เรื่องใหม่ มันคือกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐบาลมาเลเซียที่ก่อตั้งในช่วงปี 2008 โดยรองนายก Najib Razak ซึ่งตอนนั้นพี่แกก็ชูธงบอกเลยนะว่ากองทุนนี้จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจต่างๆ วาดภาพให้คนฟังแล้วรู้สึกว่า เออ...ช่างสวยงามอะไรขนาดนี้หนอ แต่สุดท้ายฝันสลาย เพราะมันขาดทุนหนักหน่วง คนก็เลยเริ่มสงสัยกันว่ามีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า
จนกระทั่งนักข่าว BBC ออกมาตีแผ่พร้อมหลักฐานผ่าน E-Mail กว่า 230,000 ฉบับ ขนาดไฟล์รวมกันกว่า 90GB (ส่งไปได้ยังไงกันนะ 5555) เรื่องนี้มันเลยซุกใต้พรมไม่อยู่ แล้วก็ตู้มมมม เกิดเป็นโกโก้ครันช์ในเวลาต่อมา
ซึ่งหลังจากการสาวสายป่านไปเรื่อยๆ เขาก็พบว่านี่นับเป็นการคอรัปชั่นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมสืบไปเจออีก 1 ตัวละครอย่าง Jho Low ที่คอยสนับสนุนแผนการต่างๆ ให้กับแคมเปญนี้ แถมเป็นเซเล็บคนดังที่เคยออกทุนสร้างหนังเรื่องดังอย่าง "The Wolf of Wall Street" ด้วย!
และ ใช่...คนที่มีคดีโกงออกทุนทำหนังที่เกี่ยวกับการโกง โลกเรานี่ก็สุดๆ ไปเลยครับพี่
หลังจากนั้นมันเลยมีหนังสือที่ชื่อว่า "Billion Dollar Whale" ออกมา หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเปิดโปงขบวนการยักยอกเงินของกองทุนที่ว่า แถมเรตติ้งดีนะ บอกทุกเม็ดทุกหน่วยแล้วเขียนออกมาในรูปแบบที่สาดความเป็นทริลเลอร์เข้าไป ทำให้รีวิวหลายเสียงบอกกันว่า "สนุกมาก!"
แต่ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้
คนไทยเราไม่สามารถหาซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านได้ เพราะไม่มีสำนักพิมพ์ไหนหยิบมาแปลเลย!
ไม่หยิบมาแปลก็ยังพอเข้าใจ แต่พอเข้าไปดูในเว็บไซต์ของร้านหนังสือภาษาต่างประเทศชื่อดังบ้านเรา ทั้ง Asiabooks หรือ Kinokuniya ก็ยังไม่มี!
สนุกสนานกันเลยทีนี้ หมีไปเช็คดูแล้ว มีแค่เว็บของ Asiabooks ที่ตอนนี้มีพรีออเดอร์ฉบับ Summary ของหนังสือเล่มนี้เท่านั้น
ถ้าอยากอ่านต้องทำยังไง นั่นเลยครับ ผายมือไปทาง
Amazon จะไปซื้อกาแฟเหรอ? ไม่ช่ายยย หมีหมายถึงเว็บ Amazon ต่างหาก (มุกห้าบาทสิบบาทก็ขอเล่นหน่อยเหอะ)
หนังสือเล่มนี้เขาขึ้น No.1 Best Seller ด้วย คำนิยมสั้นๆ แต่บอกได้กระชับที่สุดเห็นจะเป็นประโยคนี้
"Gripping.... The heist of the century." ― Axios
หมีลองไปเปิดดู Preview มา แค่ชื่อ Chapter ก็น่าสนใจละ มีความแอบเปรี้ยวเบาๆ แต่หนังสือจะแบ่งเป็นพาร์ททั้งหมด 5 พาร์ท ซึ่งแต่ละบทย่อยในแต่ละพาร์ทไม่ได้กินเนื้อหาหน้ากระดาษมาก แทบจะหน้าละบทเลยด้วยซ้ำ
ว๊าวต่อมาคืออะไรรู้มั้ย คือคำโควทที่เขายกมาก่อนโยงเข้า Prologue เป็นท่องหนึ่งในเพลง Sweetheart Like You ของ Bob Dylan ที่ว่า...
Steal a little and they throw you in jail
Steal a lot and they make you king
แหะๆ ขำแห้งเลย
หลังจากนั้นก็จะเป็น Note สั้นๆ ของผู้เขียน ซึ่งผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีด้วยกันสองคนคือ Tom Wright และ Bradley Hope ต่อจากนั้นจะมี Cast of Characters ให้เรานั่งทำความเข้าใจกันก่อนว่าตัวละครในเรื่องนี้มีใครบ้างซึ่งก็เยอะเอาการ การมี Cast of Characters ลิสต์เอาไว้ให้แบบนี้ถือว่าสะดวกดีเหมือนกัน
ต่อจากนั้นจะเป็น Prologue ที่อธิบายถึง Jho Low อย่างละเมียดละไมว่าเขาทำอะไรบ้าง ลงทุนในส่วนไหน หรือกิจกรรมต่างๆ ภายใต้เงื้อมือของ Jho Low ก่อนจบพาร์ทนั้นสั้นๆ ว่า "This was the world built by Jho Low" และทิ้งท้ายก่อนพาเราเข้าสู่ Chapter 1 ด้วยประโยคที่ว่า "The story begins on the palm-fringed island of Penang."
หนังสือเล่มนี้เน้นไปที่การบรรยาย ตัวหนังสือมันเลยยิบๆ ไปหน่อย แถมศัพท์ก็ยากเอาการอยู่เพราะส่วนมากเป็นศัพท์เฉพาะ ตัวหมีเองก็ท้อที่จะอ่าน แต่เห็นว่าหนังสือเขียนแนวทริลเลอร์ มันเลยทำให้คนอ่านไม่ได้รู้สึกเบื่อ ตรงข้ามกลับจะทำให้คนรู้สึกว่ามันยากจะวางลงได้มากกว่า
คร่าวๆ คือหนังสือเล่มนี้จะบรรยายสภาพของประเทศมาเลเซียในช่วงของ Najib Razak รวมถึงการเปิดโปงเรื่องกองทุน 1MDB ที่สำคัญคือการ “แฉ” ตัวต้นคิดอย่าง Jho Low ที่เอาเงินกองทุนส่วนนี้ไปสนองนี้ดตัวเองนั่นแหละ
ซึ่งพอมีประเด็น 1MDB ขึ้นมาในบ้านเมืองเรา หนังสือเล่มนี้เลยถูกพูดถึงขึ้นมามาก
พีคไปกว่านั้นคือ Tom Wright ผู้เขียนหนังสือออกมาโพสต์ลงทวิตเตอร์ถึงประเด็นร้อนในไทยตอนนี้เลยว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยที่หน่วยงานรัฐของไทยไม่จับ Jho Low ตอนปี 2016 เมื่อครั้งที่สิงคโปร์ออกหมายแดงของตำรวจสากล มาถึงอย่างน้อยก็ปี 2018 เขาอยู่ที่ St Regis อย่างเปิดเผย ไม่ก็บนเรือยอชต์ที่ภูเก็ต แถมเขายังเป็นคนเตรียมการให้ตำรวจไทยจับตัว Xavier Justo คนที่ออกแฉเรื่องนี้ด้วย"
นอกจากนี้ยังเล่นอีกหลายประเด็นแถมออกมาพูดเลยว่า “หนังสือเล่มนี้ไม่มีขายในไทย เพราะสายส่งไม่ต้องการจัดจำหน่าย แต่คนไทยที่อยากอ่านสามารถซื้อได้จากช่องทางออนไลน์” ซึ่งต่อมาเขาได้โควททวิตชี้แหล่งซื้อออนไลน์ทั้งจากใน Amazon และ Book Depository ด้วย
ยังไม่จบ พี่แกยังออกมาทวิตเป็นภาษาไทย (คาดว่าคงใช้อากู๋แปลภาษาเอา) อีกว่า "ใครสามารถแปล "Billion Dollar Whale" เป็นภาษาไทยได้?" เนี่ยยยย ไปสุดมาก! 55555
ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีสำนักพิมพ์ไหนกล้าดีลมาแปลมั้ง ถ้าได้ลิขสิทธิ์เมื่อไหร่หมีว่าน่าจะขายดีเทน้ำเทท่าในไทยแน่นอน แต่ก็ไม่รู้สิ เพราะ Jho Low นางเคยมีวีรกรรมยื่นฟ้องร้านหนังสือบางร้านที่ขายหนังสือเล่มนี้ด้วยนะ ฉาวๆ ไป 5555