ในยุคที่คาเฟ่ผุดขึ้นเป็นว่าเล่น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเจอคาเฟ่ที่บรรยากาศดีแล้วมีเครื่องดื่มรสชาติเยี่ยม

 

        ที่หมีพูดมาแบบนี้มันคือเรื่องจริงล้วนๆ เลยนะ มองไปทางไหนเราก็เจอแต่คาเฟ่ ทุกที่ล้วนแข่งกันตกแต่งร้านแบบไม่มีใครยอมใคร เอาให้ลูกค้าที่เข้ามาอยากถ่ายรูปไว้อัพลงโซเชียลมีเดียเก๋ๆ แต่ว่ากันตามตรง...หลายร้านมีดีแค่การตกแต่ง รสชาติเครื่องดื่มนั้นก็อีกเรื่อง

 

        หมีเลยแอบคิดอยู่ในใจหลายต่อหลายหนว่า เอ...สนใจแต่เรื่องการตกแต่งร้านให้คนอยากยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป แต่รสชาติเครื่องดื่มในร้านมันไม่ได้ชวนให้คนอยากกลับมาซ้ำที่ร้านนั้นอีก แล้วร้านมันจะไปรอดได้นานแค่ไหนกัน

 

        อาจจะฟังดูเข้าข้างไปหน่อย แต่หมีอยากพูดกันตามตรงว่าเมื่อวันก่อนเพิ่งเจอร้านที่ตกแต่งดีและเครื่องดื่มก็ชวนให้อยากไปซ้ำอยู่ร้านหนึ่ง

 

 

 

 

        ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางตึกแถวมากมายริมถนนย่านคลองสาน แม้จะมีดีที่ติดถนน ไม่ได้ซ่อนตัวอย่างลึกลับอะไรในตรอกซอกซอย แต่การที่ร้านกลมกลืนไปกับร้านรวงมากมายในตึกแถวย่านนั้นมันก็ทำให้คนที่ถ้าไม่สังเกตุดีๆ ก็คงเดินเลยผ่านไปได้ง่าย (แถมไม่มีที่จอดรถด้วยต่างหาก)

 

        โชคดี๊โชคดี ที่วันนั้นหมีไปแถวคลองสานแล้วเจอร้านนี้เข้า ในช่วงเวลาเกือบเที่ยงวัน อากาศค่อนข้างอบอ้าว เดินเท้าจากไอคอนสยามมาตามถนนสมเด็จเจ้าพระยา หน้าปากซอยวัดทองธรรมชาติ (ซอยล้ง 1919) เยื้องปากทางเข้าโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ความต้องการคาเฟอีนเริ่มทำงาน

 

        อาจเป็นเพราะช่วงเช้าไม่ได้โด๊ปมา มันเลยเหมือนคนไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ตอนที่ต้องการเครื่องดื่มต่อเติมชีวิต หมีก็ดันไปเจอกับคาเฟ่สีเขียวมะกอกที่กลมกลืนไปกับตึกแถวคลาสสิกย่านเมืองเก่าอย่างคลองสาน เป็นโฮมคาเฟ่เล็กๆ ในคูหาน้อยๆ ที่มีชื่อคุ้นตาคนในวงการอสังหาฯ อย่าง "Walden Home Cafe"

 

        ไม่คุ้นตาได้ไง ยอมรับว่าตอนเห็นป้ายชื่อร้านแล้วแอบคิดถึงโครงการชื่อดังโครงการหนึ่งของแบรนด์ H ไม่รู้เพราะชะตาต้องกันหรือยังไง หลังจากแอบขำในใจเสร็จแล้ว หมีก็เลย เอาวะ ข้าเลือกเจ้า!

 

 

        เมื่อเปิดประตูเข้าไปเราจะพบว่าด้านในคาเฟ่มันค่อนข้างเล็กอยู่บ้าง แต่บรรยากาศในร้านออกจะอบอุ่นเป็นกันเองไม่น้อย เราได้ยินคำทักทายจากเจ้าของร้านตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาว่า "สวัสดีครับ" จากนั้นก็ได้ยินคำแนะนำอย่างอบอุ่นว่า "เมนูอยู่ทางด้านนี้นะครับ เลือกก่อนได้เลย"

 

        และอาจจะเพราะบรรยากาศเป็นกันเองเหมือนแวะมานั่งเล่นบ้านเพื่อน บวกกับแสงไฟสีส้มๆ ละมุนๆ ในร้านด้วยล่ะมั้ง มันเลยทำให้เราหายเหนื่อยไปได้หน่อย

 

        สมุดเมนูน่ารักเชียว แทนที่จะเป็นภาพถ่ายแต่เลือกที่จะทำเป็นภาพวาด มีความวินเทจสมกับตัวร้านดี เจ้าของร้านแนะนำด้วยว่าเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านจะอยู่หน้าแรก ทีมหมีเลยเลือกเมนูซิกเนเจอร์มาสองเมนู คือ Cascara Latte และ Yuzugano

 

 

 

 

 

        ดูเวลาแล้วก็ใกล้ถึงมื้อกลางวันเลยตัดสินใจรวบแบบ brunch ไปเลย เลยสั่งของหวานมาทานด้วยกันอย่าง Walden Waffles หมีเลือกสั่งเป็น Banana Crumble

 

        ในเรื่องของการตกแต่งมีความวินเทจสุดจะคลาสสิกกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภายในร้านก็เปิดเพลงคลอเบาๆ

 

        ที่ร้านมีชั้นสองด้วย ผนังที่ติดบันไดขึ้นไปชั้นสองมีกระดาษที่ดึงออกมาจากหนังสือเก่าแปะไว้เต็มผนัง ดูแปลกตาไปอีกแบบ

 

 

 

 

        ส่วนตัวรู้สึกว่าพื้นที่ชั้นสองน่านั่งกว่าชั้นล่าง เพราะชั้นล่างดูแคบๆ ไปนิด อาจเพราะมีเคาน์เตอร์กาแฟตั้งอยู่เลยกินพื้นที่ไปครึ่งหนึ่ง แต่ชั้นสองนี่จะโปร่งและมีหน้าต่างช่วยให้แสงแดดส่องเข้ามาได้อย่างเต็มที่

 

        ตรงผนังมีตู้หนังสือให้เราเลือกหยิบมาอ่านได้ด้วย เห็นหนังสือคุ้นตาหลายเล่มเลย ส่วนตรงหน้าต่างก็เพิ่มความเขียวขจีเข้ามาให้สบายตาด้วยการนำกระถางต้นไม้เข้ามาวางด้วย

 

 

 

 

        เรารอเครื่องดื่มอยู่ไม่นาน เจ้าของร้านก็นำขึ้นมาเสิร์ฟ

 

        เห็นหน้าตาแล้วสวยงามถูกใจดี คะแนนบวกในส่วนนี้ไปแล้วหนึ่ง 5555 ส่วนรสชาติก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดีแฮะ

 

 

 

        ขอเริ่มกันที่ Cascara Latte กาแฟสูตรพิเศษของทางร้านก่อนเลย

 

        แก้วนี้ถือเป็นการนำเอากาแฟนมมาผสมกับน้ำเชื่อมคาสคาราโฮมเมดที่ให้รสหวานอ่อนๆ ดื่มไม่ยาก มีฟองนมนุ่มหนาแล้วท็อปด้วยเปลือกเมล็ดกาแฟอบแห้ง ทำให้เป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมพิเศษและออกจะแปลกใหม่ชวนลองดีเหมือนกัน

 

 

 

        ส่วนเมนูต่อมาอย่าง Yuzugano นั้นรู้สึกว่าแหม...หน้าตาดีจริงๆ

 

        เมนูนี้จะเป็นการมิกซ์กันระหว่างอเมริกาโนกับโซดาส้ม เหมาะจะดื่มในช่วงซัมเมอร์หรือวันที่อากาศอบอ้าว (อย่างวันนี้) เพราะทำให้เฟรชตื่นเต็มตาได้ดี เมนูนี้ช่วงแรกจะขมเพราะเป็นอเมริกาโน แต่ไฮไลท์อยู่ที่เมื่อดูดไปได้ครึ่งแก้วแล้วจะเริ่มรับรู้ถึงรสเปรี้ยวแบบพอดี คิดว่าถ้าใครอยากได้รสที่กลืนกันไปเลยก็อาจจะคนก่อนค่อยดื่มก็ได้ครับ

 

 

 

        ส่วนวาฟเฟิลของเรานั้นรอนานมากกกก นานจนนึกว่าลืมไปแล้วหรือเปล่า ตรงนี้อาจเป็นจุดด้อยสักนิด (ไม่รู้ว่าวันอื่นเร็วหรือช้า) เพราะดื่มเครื่องดื่มไปจะครึ่งแก้วแล้วขนมยังไม่มา กระซิกๆ

 

        แต่หลังจากนั้นเจ้าของร้านก็นำวาฟเฟิลมาให้เราพร้อมขออภัยที่มาช้า เราก็โอเค เห็นหน้าตาวาฟเฟิลแล้วก็อารมณ์ดี 5555

 

        หน้าตาดูดีมาก มีวาฟเฟิลแบบฟูลมาให้พร้อมไอศกรีมสองสกู๊ป รสชาติโอเคเลย (หรือเพราะหิวก็ไม่รู้แฮะ) แต่ปกติไม่ค่อยได้กินวาฟเฟิล เลยไม่รู้ว่าวาฟเฟิลปกติมันต้องแข็งหรือนุ่ม เพราะจานนี้ออกจะแข็งๆ หน่อย ตรงนี้หมีไม่แน่ใจ

  

        จัดการไปได้ไม่นานก็เสร็จสิ้นภารกิจ ขนมนั้นไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่เครื่องดื่มต้องยอมรับว่าดีอยู่

 

 

 

 

        วันที่หมีไปเป็นวันธรรมดา ถึงโต๊ะจะไม่เต็มทุกตัวแต่ก็เกือบ เลยคิดว่าถ้ามาในช่วงวันหยุดคนน่าจะเยอะแน่ๆ

 

        หมีว่าร้านนี้เหมาะกับการมานั่งพักอกพักใจ ใครที่โหยหาความสงบนี่ควรมาเลย เจ้าของร้านและลูกมือเป็นกันเองดี มีถามว่ากาแฟโอเคมั้ยด้วย (ถามคนอื่นนะ หมีแค่หูผึ่งฟัง 5555)

 

        นั่นแหละครับ ใครแวะไปแถวคลองสานอยากหาคาเฟ่สงบๆ ที่มีเครื่องดื่มดีๆ มีหนังสือให้อ่านเคล้าเสียงเพลง ก็ลองแวะไปที่นี่ได้ อาจไม่ถึงขั้นสายรุ้งพุ่งออกปาก แต่ก็เป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์และเต็มไปด้วยความผ่อนคลายสมกับเป็นโฮมคาเฟ่ครับผม