ช่วงวันสองวันนี้จะได้ยินคำว่า “คืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า” ออกบ่อย
ไอ้เราก็สงสัย มันคืออะไรหว่า มิเตอร์ไฟฟ้าก็มีการคืนเงินประกันด้วยเหรอ
พอไปลองค้นดูก็ถึงบางอ้อ มันคือมาตรการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้านี่เอง
เรื่องนี้จะให้เล่าก็ต้องย้อนไปนิดว่ารัฐมีมาตรการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าประมาณ 3,000 บาทต่อครัวเรือน
เป็นเงินจำนวนที่ไม่มากไม่น้อย แต่ว่ารายละเอียดในเรื่องของการรับคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 3,000 บาทที่ว่าเนี่ยมันต้องทำยังไงล่ะ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมิเตอร์ต่างกันจะได้เงินคืนเท่ากันหรือเปล่า มีเงื่อนไขอะไรบ้างมั้ย ปัญหากวนใจที่อยากรู้ก็จุกจิกไปหมด
เพราะงั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันดีกว่า แล้วจากนั้นเราค่อยไปเอาเงินมาใช้กันครับ!
ประกันมิเตอร์ไฟฟ้าคืออะไร?
ประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ชื่อนี้ฟังดูงงๆ หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่าความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไรกันแน่
ประกันมิเตอร์ไฟฟ้าก็คือค่าธรรมเนียมเงินประกันการใช้ไฟฟ้านั่นแหละ ให้นึกถึงครั้งแรกที่เรายื่นขอใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้าเค้าจะเรียกเก็บไว้ใช่มั้ยล่ะ แล้วทีนี้เราก็จะได้เงินคืนก็ต่อเมื่อเราไปทำเรื่องยกเลิกการใช้ไฟ
ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมต้องเก็บเงินประกันการใช้ไฟฟ้า นั่นก็เพราะเก็บเป็นหลักประกันการใช้ไฟนั่นเอง
ถ้าให้ยกตัวอย่างง่ายๆ ทำความเข้าใจได้ไม่ยากก็คือ ถ้าวันหนึ่งเราไม่ยอมไปจ่ายค่าไฟ การไฟฟ้าเค้าก็จะยึดเอาเงินประกันการใช้ไฟส่วนนี้กลับเข้ารัฐไป อะไรทำนองนี้
อัตราค่าธรรมเนียมเท่าไร บ้านแบบไหนบ้างที่เข้าข่าย
แต่ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่า เงินประกันของผู้ใช้ไฟฟ้าแต่ละครัวเรือนนั้นจะมีจำนวนเงินไม่เท่ากันนะ
สำหรับในส่วนนี้มันจะขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์บ้านเรา จะไล่ไปตั้งแต่ 300 ถึง 6,000 บาท ต้องกลับไปดูก่อนว่ามิเตอร์บ้านเรามันขนาดเท่าไร ไม่ใช่ว่าเงิน 3,000 นี้จะได้เท่ากันหมด
มาดูกันดีกว่าว่ามิเตอร์ขนาดไหน ได้เงินประกันเท่าไรบ้าง
- มิเตอร์ขนาด 5 แอมป์ เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 300 บาท (บ้านพักขนาดเล็ก)
- มิเตอร์ขนาด 15 แอมป์ เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 2,000 บาท (บ้านเรือนส่วนใหญ่)
- มิเตอร์ขนาด 30 แอมป์ เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 4,000 บาท (บ้านพักขนาดใหญ่)
- มิเตอร์ขนาด 15 แอมป์ เฟส 3 เงินประกันการใช้ไฟฟ้า 6,000 บาท (ส่วนน้อย)
ขั้นตอนการรับเงินคืน
ใครที่อยากจะขอคืนเงินกับหน่วยงานก็ต้องไปที่หน่วยงานที่เรายื่นเรื่องขอใช้ไฟฟ้า
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไปทำเรื่องขอใช้ไฟฟ้าจากที่ไหน จะที่ กฟน. หรือ กฟภ. ก็ว่ากันไปครับ
ซึ่งเงินประกันในแต่ละครัวเรือนเนี่ยจะมีจำนวนเงินไม่เท่ากัน ย้ำอีกครั้งว่าไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดของมิเตอร์นะจ๊ะ แต่รายละเอียดเต็มๆ เกี่ยวกับการทำเรื่องนั้นยังไม่มา ไม่รู้จะกั๊กอะไรกัน ต้องรอดูอีกที
ใครจะได้ก่อน หรือได้พร้อมกัน?
ข่าวล่ามาแรงบอกมาแล้วว่างานนี้เค้าจะเน้นคืนที่รายย่อยก่อนนะ
นอกจากนี้ก็จะดูที่ขนาดของมิเตอร์ด้วยอย่างที่บอกไป มิเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีค่าประกัน 6,000 บาทเนี่ยอาจจะไม่เข้าข่ายได้คืน ซึ่งตรงส่วนนี้หมีไม่เข้าใจว่าทำไม ยังไม่มีรายละเอียดออกมา ต้องรอการไฟฟ้าแถลงอีกที
ส่วนที่ว่าจะได้เมื่อไรนั้น เค้าว่าจะทยอยคืนในรอบบิลสิ้นเดือนมีนาคมนี้จ้า
มีมาตรการอะไรมาซัพพอร์ตอีกบ้าง
ยังไม่ต้องเซ็งไป เพราะเห็นว่าเค้ามีมาตรการลดค่าไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทด้วยนะ
แต่ลดให้แค่ช่วง 3 เดือนที่จะถึงนี้ (เม.ย.-มิ.ย.2563) เป็นช่วงหน้าร้อนที่เราใช้ไฟกันเยอะพอดี
จากเดิม 3.64 บาท/หน่วย แต่จะลดให้เหลือ 3.48 บาท/หน่วย ลดมากระจึ๋งนึง เบ็ดเสร็จคือลดประมาณ 20 สตางค์ สมควรดีใจเปล่าหว่า 5555
ส่วนกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าในกิจการเฉพาะอย่าง จำพวกธุรกิจโรงแรม หรือกิจการให้เช่าพักอาศัย ก็มีมาตรการมารองรับเหมือนกัน คือจะขยายเวลาการจ่ายค่าไฟฟ้าในรอบบิลเดือนเมษายน 2563 และเดือนพฤษภาคม 2563 ให้จ่ายช้าได้ถึง 6 เดือน แต่ต้องแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือที่สำนักงานการไฟฟ้าในพื้นที่นะ
ก็ออกจะยุ่งยากเสียเวลาอยู่บ้างเหมือนกัน ถ้าใครอยากได้มาตรการในส่วนนี้มาซัพพอร์ตก็ต้องขยับขากันหน่อย ใครเห็นว่าไม่จำเป็นก็ปล่อยๆ ไปตามสะดวกเหอะ 555
สรุป
สรุปสั้นๆ ใครจะได้เท่าไรอะไรยังไงขึ้นอยู่กับขนาดมิเตอร์ มิเตอร์ต่าง เงินก็ต่าง เงินส่วนนี้คือเงินที่วางประกันไว้ ไม่ใช่ว่าต้องยกเลิกมิเตอร์แล้วถึงจะได้คืน (ซึ่งความจริงหมีว่ามันคือ dead money เก็บไปรัฐก็ไม่ได้อะไร คืนๆ ไปดีกว่าทำนองนี้) เงินจะจ่ายตามชื่อเจ้าของมิเตอร์ เพราะงั้นมิเตอร์ใครถ้าไม่ใช่ชื่อเราก็ไปโอนมาเป็นชื่อเราเสียนะจ๊ะ
ส่วนใหญ่แล้วก็นั่นแหละ น่าจะได้ประมาณ 2,000 บาท บ้านทุกคนก็ไม่ได้ใหญ่เว่อร์วังจนจะมีมิเตอร์บิ๊กเบิ้มเสียหน่อย
แต่ระเบียบหลักๆ ยังไม่ชัดเจนนะ อยู่ในช่วงประชุมหาข้อสรุป สำหรับใครที่ทำห้องเช่านี่ก็ต้องรอดูอีกทีว่ายังไง เพราะดูๆ แล้วมันยุ่งยากแถมไม่เคลียร์จริงๆ
แล้วโฆษกกระทรวงพลังงานอ่ะตอบคำถามตลกๆ "ถ้าเจ้าของมิเตอร์ไฟฟ้าเสียชีวิตแล้ว ลูกหลานจะได้รับเงินคืนหรือไม่?" โฆษกตอบว่า "ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ" เออแฮะ ไอ้เราก็งงมั้ยล่ะ สรุปได้หรือไม่ได้ มีปัญหาหรือไม่มี ไม่กระจ่างอะไรสักอย่าง น่าเหนื่อยจริงๆ หมีว่ากว่าจะได้เงินคืนคงมีคนยอมแพ้ไม่น้อยอ่ะ 5555