6 วิธีง่ายๆ เปลี่ยนคอนโดเราให้ Work From Home ได้แบบมีประสิทธิภาพ

6 วิธีง่ายๆ เปลี่ยนคอนโดเราให้ Work From Home ได้แบบมีประสิทธิภาพ

Home   /   ติดดอยล้อมวงเล่า

โซน : 06 Apr 2020   07:47
 
        ช่วงนี้บทความหมีก็จะอินๆ โควิดหน่อย อันที่จริงไม่อินก็ไม่ได้นะ เพราะมันใกล้ตัวเรามาก เหมือนเป็นอากาศรายล้อมรอบตัวเราจนสยองไปหมด
 
        ยิ่งตอนนี้เราต้องใส่ใจในเรื่องของ "Social Distancing" หลายบริษัทหลายหน่วยงานที่สามารถยกเว้นการเข้าออฟฟิศของพนักงานได้ ก็ประกาศให้พนักงาน "Work From Home" กันเพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสร้ายนี่
 
        แต่เอาเข้าจริงการนั่งทำงานอยู่บ้านมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
 
        หมีเองเป็นหมีจำศีล ชอบอยู่บ้านแต่ไม่ชอบไวรัสไง! ขลุกตัวอยู่บ้านแบบนี้ทั้งวันก็เริ่มเข้าใจน้องหมาเวลามันส่ายหางดีใจที่จะได้ออกไปเที่ยวนอกบ้านบ้างแล้ว 55555
 
        พูดถึงเรื่องการทำงานอยู่ที่บ้านนี่มันก็ยากจริงๆ นะที่จะปลุกตัวเองให้มีเอเนอร์จี้มาทำงานได้ ส่วนหนึ่งเพราะบ้านในความคิดของทุกคนเป็นสถานที่พักผ่อนไม่ใช่สถานที่ทำงาน ดังนั้นพอคิดว่าต้องกระตุ้นตัวเองให้แอคทีฟเตรียมพร้อมตลอดเวลามันเลยค่อนข้างจะยากอยู่ใช่มั้ยล่ะ
 
        แต่ไม่ต้องห่วง...หมีมีวิธี
 
        แค่เปลี่ยนคอนโดของเราเพียงเล็กน้อย รู้จักจัดแต่งบางอย่างให้เหมาะสม แค่นี้ก็เหมือนเป็นพลังเสริมกระตุ้นให้เรา Work From Home ได้แบบมีประสิทธิภาพแล้ว!
 
        ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปอ่านกันได้เลยคร้าบบบ
 
        1. เฟอร์นิเจอร์คือหัวใจหลัก
 
 
        ไม่มีใครอยากบ่นปวดหลังทุกวันหรอกจริงมั้ย แต่สมัยนี้บางคนอายุน้อยๆ ก็เริ่มมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัวไม่สมอายุแล้วเพราะต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทั้งวัน
 
        สำหรับหมีนั้นคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพคือเฟอร์นิเนอร์นี่แหละ!
 
        การจัดวางเฟอร์นิเจอร์จำพวกโต๊ะหรือเก้าอี้ทำงานนั้นควรใส่ใจเป็นอันดับแรกเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจำพวก Office Syndrome เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าหนีจากออฟฟิศมาแล้วยังต้องกลายเป็น Home Syndrome ไปอีก
 
 
        เพราะงั้นเราควรใส่ใจเลือกเฟอร์นิเจอร์ในคอนโดหน่อย อย่างเก้าอี้ทำงานนี่ต้องเลือกแบบที่สามารถรองรับสรีระตอนนั่งทำงานให้ดีที่สุด ปรับพนักเก้าอี้ให้ตรง เลือกแบบที่นั่งแล้วสบายรับกับกระดูกสันหลัง (แต่สบายเกินก็ชวนให้อยากหลับก็มีนะ 5555)
 
        การปรับเก้าอี้ก็สำคัญ เพราะถ้าเราปรับช่วงที่วางแขนให้อยู่ในระนาบเดียวกันกับขอบโต๊ะทำงานหรือใกล้เคียงกันแล้วก็จะทำให้เราไม่รู้สึกเมื่อยช่วงไหล่ เพราะเราวางข้อมือลงไปได้ตรงๆ ไงล่ะ
 
        ส่วนใหญ่คงใช้คอมพิวเตอร์กันเนอะ ตรงส่วนนี้ควรจัดขอบบนของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาของเราพอดี ถ้าวางต่ำไปมีเมื่อยคอแน่ๆ พาลจะคิดไปว่ามีผีขี่คอแบบในหนังชัตเตอร์ไปอีก (ไปโน่นนนน แหะๆๆ)
 
        2. จัดตำแหน่งภายในและมุมที่ทำงานอย่างเหมาะสม
 
 
        มุมใครคิดว่าไม่สำคัญ ผิดนะคร้าบบบบ อันนี้สำคัญเป็นอันดับต้นๆ เหมือนกัน
 
        แต่แน่นอนว่าถ้าคอนโดเราใหญ่มันก็ไม่มีอะไรยุ่งยากหรอก จะปรับเปลี่ยนยังไงก็ไม่มีอะไรให้คิดมาก แต่คนที่มีพื้นที่คอนโดจำกัดนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง
 
        เอาเป็นว่าใครที่มีพื้นที่จำกัด (หรือไม่จำกัด) ตำแหน่งแรกที่ควรยกให้เป็น MVP ของห้องคือพื้นที่ใกล้หน้าต่างหรือใกล้ระเบียงห้อง เพราะเป็นจุดที่แสงแดดส่องถึง แต่ก็ต้องระวังไม่ให้ส่องจนร้อนนะ เอาเป็นว่าเลือกแบบที่มีช่องแสงส่องได้แบบพอดี เพราะมันทำให้เราไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังสามารถมองออกไปด้านนอกเพื่อพักสายตาได้ด้วย
 
 
        แต่สิ่งที่สำคัญแบบถ้าเลี่ยงได้เลี่ยงคือพยายามอย่าจัดโต๊ะทำงานใกล้ประตูห้อง
 
        ลองคิดภาพเปิดประตูเข้ามาแล้วเจอสิ่งกีดขวางอยู่ใกล้ๆ สิ หรือไม่ก็นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานใกล้ประตูทางเข้า มันทำให้เรารู้สึกพะวงตลอดเวลาใช่มั้ยล่ะ
 
        ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเราไม่ได้อยู่ห้องคนเดียว สมมติมีเพื่อนร่วมห้องด้วยแล้วตั้งโต๊ะทำงานติดประตูนี่ไปใหญ่เลย พาลให้ไม่มีสมาธิการทำงานไปอีก
 
        3. โทนสีก็มีส่วนช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
 
        สีส่งผลต่ออารมณ์ของเรา เรื่องนี้ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว
 
        ถ้าอยากให้คอนโดเราช่วยกระตุ้นให้เรามีความรู้สึกอิสระทางความคิดหน่อย มุมทำงานโทนสีฟ้าก็ใช้ได้อยู่นะ เล่นโทนสีฟ้า-ขาวจะช่วยทำให้มุมทำงานในคอนโดเราดูมีมิติมากขึ้น
 
        แต่ถ้าอยากได้แบบปลอดโปร่ง สบายตา แน่นอนว่าหนีไม่พ้นสีขาว ยิ่งถ้าตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นด้วยแล้วยิ่งแจ่ม ใช้โทนขาวเป็นหลัก มาพร้อมพร็อพเก๋ๆ ก็ทำให้บรรยากาศดูน่าทำงานมากขึ้นแล้ว
 
 
        แต่โทนสี Monochrome เองก็ช่วยให้เราสามารถทำงานอยู่ในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกันนะรู้เปล่า
 
        อย่างเช่นสีขาวกับสีดำแห่งความคลาสสิกนี่แหละ จะทำให้มุมทำงานในคอนโดเราดูโปรขึ้นเยอะเลย แถมยังเหมือนเป็นการบังคับตัวเองไปในตัวเพราะโทนสีเหมือนออฟฟิศส่วนใหญ่ 55555
 
        จะตกแต่งห้องเป็นโทนสีเย็นๆ หรือเลือกสีหม่นๆ ก็ไม่ผิดนะ กลับทำให้รู้สึกสบายตา ช่วยทำให้เรามีสมาธิในการทำงานได้กว่าเดิมด้วยซ้ำ
 
        4. จัดระเบียบมุมทำงานตามสไตล์เรา
 
 
        ยุคนี้สมัยนี้คนเราเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพจิตในการทำงานกันแล้ว ดังนั้นโต๊ะทำงานที่เพลนๆ มีแค่คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง สมุดหนึ่งเล่ม ปากกาสองด้ามอะไรทำนองนี้นี่ดูน่าเบื่อสุดๆ
 
        เราสามารถจัดระเบียบมุมทำงานของเราได้ด้วยการใส่ความเป็นตัวเองลงไปนี่แหละ นอกจากจะได้งานแล้วยังได้ผ่อนคลายเพราะโต๊ะทำงานมันดูเป็นเราสุดๆ สมศักดิ์ศรีมุมทำงานในบ้านจริงๆ
 
 
        ใครอยากได้มุมทำงานบรรยากาศอบอุ่น ใสๆ ซอฟต์ๆ คลีนๆ ลองตกแต่งมุมทำงานของเราโดยการเน้นวัสดุไม้เป็นหลักดู ไม่ว่าจะเรื่องเฟอร์นิเจอร์หรือว่าของตกแต่งจุกจิก พวกงานหวายเล็กๆ น้อยๆ หรือคลิปบอร์ดสีเบจก็เข้าท่านะ
 
        แต่ใครชอบความสดใสก็อาจจะเลือกตกแต่งผนังให้เด่นสะดุดตาก็ได้ สำหรับการแต่งผนังนี่ก็ทำได้หลายแบบ จะติดวอลเปเปอร์หรือเพ้นท์อะไรก็ว่าไป
 
        สำคัญคือลองใกล้ชิดธรรมชาติด้วยการสรรหาพื้นที่สีเขียวเล็กๆ จิ๋วๆ มาไว้ดู เลือกเป็นไม้ประดับที่ดูแลง่าย เอาไว้พักสายตาเวลาทำงานจนตาล้าก็เหมาะ ใครไม่รู้จะเลือกต้นไม้แบบไหนแนะนำให้เลือกเป็นต้นไม้ที่สามารถช่วยในเรื่องการฟอกอากาศก็ดีเหมือนกัน ถือว่าได้สองต่อ
 
        5. Gadget พร้อมมั้ย วางไว้ให้ใกล้มือ
 
 
        จัดมุมทำงานเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองแล้วอย่าลืมเรื่องความเป็นระเบียบและช่วยให้การทำงานเรารวดเร็วขึ้นเด็ดขาด!
 
        ลองนึกภาพทำงานไปหาปากกาไม่เจอ ต้องเสียเวลาไปนั่งค้นในตู้ หรือแบตโน้ตบุ๊คหมดแต่โต๊ะทำงานดันไม่อยู่ใกล้ปลั๊กไฟ โอ้โหหหห โต๊ะสวยอย่างเดียวไม่ได้ แต่อุปกรณ์ต้องพร้อมนะคร้าบบบบ
 
 
        เพราะงั้นนอกจากจะใส่ใจกับความมีสไตล์แล้ว ควรจัดการเรื่องฟังก์ชั่นการจัดระเบียบโต๊ะทำงานด้วย อาจจะหากระดานไว้สำหรับแปะโพสต์อิท กล่อง หรือชั้นวางของเล็กๆ สำหรับใส่ดินสอปากกาหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบงานของเราไว้ด้วย
 
         เรื่องมุมเสียบปลั๊กอุปกรณ์ต่างๆ นี่ก็อย่าลืมเชียว ไม่งั้นเดี๋ยวพ่วงสายยาวไปครึ่งห้องได้สะดุดสายไฟตายกันพอดี
 
        6. เน้นแสงธรรมชาติดีกว่าจ่ายค่าไฟบานเบอะ
 
 
        ข้อเสียอีกหนึ่งอย่างสำหรับการทำงานอยู่บ้านคือค่าไฟนี่แหละ
 
        ยิ่งตอนนี้เดือนเมษาแล้วด้วย อากาศร้อนเอาๆ ร้อนเหมือนเราจะ work from hell ค่าไฟค่าแอร์เลยพุ่งเป็นว่าเล่น
 
        หากใครอยากหลีกเลี่ยงก็ลองจัดวางโต๊ะทำงานให้สอดคล้องกับแสงสว่างในคอนโดก็ได้ เลือกหันโต๊ะไปทิศเหนือหรือไม่ก็ทิศตะวันออกเอา เพราะเป็นทิศที่แสงสว่างจะอ่อนกว่าทิศอื่นอยู่หน่อย
 
 
        เช้าๆ นี่ไม่ถือว่าร้อนเกินไป เพราะงั้นลองเปิดหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามาก็ดีเหมือนกัน ใช้แสงธรรมชาติใช้แอร์ธรรมชาติก็ถือว่าช่วยลดค่าไฟไปได้ส่วนหนึ่งเนอะ
 
        หรือจะลองปรับมาเป็นเรื่องของการติดตั้งดวงไฟก็ได้เหมือนกันนะ เลือกติดตั้งดวงไฟตรงฝ้าเพดานแสงจะได้กระจายไปทั่วห้อง แถมไม่เข้มไปจนปวดตาด้วย
 
        แต่สำหรับบางคนก็อาจจะต้องการแค่ไฟเฉพาะจุด ก็เลือกโคมไฟตั้งโต๊ะมาเป็นตัวช่วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา แต่ส่วนตัวหมีก็ว่าแสงธรรมมชาติดีที่สุดแล้ว
 
        ความจริงแล้วก็ไม่ยากเลยเนอะ สำคัญที่สุดคือเลือกมุมทำงานในคอนโดให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เราที่สุดนี่แหละ แต่อย่าลืมว่าต้องมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการทำงานเอาไว้ใกล้มือด้วยจะได้หยิบใช้ได้ง่ายๆ จัดวางมุมทำงานของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตแล้วล่ะครับ ที่สำคัญทำให้เรา Work From Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
 
 
 
 
 

Tag :



ติดดอยแนะนำ

ติดดอยรีวิว

"SUPALAI SENSE KHAO RANG PHUKET" คอนโดใจกลางเมืองภูเก็ตที่ให้คุณได้ใกล้ชิดธรรมชาติที่สุด และเป็นคอนโด Pet Firendly แห่งแรกในภูเก็ต

นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา

8 ข้อน่ารู้ ก่อนไปสู่ขอ "Supalai Tyme เจริญนคร"

ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)

ข้างหน้า วิวสวนเบญฯ ข้างหลัง วิวโค้งน้ำบางกระเจ้า "The Crown Residences" ยอดมงกุฏแห่ง ถนนพระรามสี่

นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ


ติดดอยโร้ดทู

"The President สาทร-เพชรเกษม" สมฐานะเจ้าพ่อทำเล ไม่ล้ม ไม่หาย ไม่ตายละติน

เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"

"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) คอนโดใกล้ BTS พหลโยธิน 59 เพียง 30 ม.* ในราคาเริ่มต้นเพียงราคาเริ่ม 1.99 ล้านบาท*

"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!

"So Origin Sukhumvit 105" (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) คอนโดใหม่จากออริจิ้น 200 เมตร ถึงรถไฟฟ้า

'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)


ติดดอยสไตล์

#ติดดอยรวมมาให้ "ดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน" พฤศจิกายน 2567

ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย

#ติดดอยรวมมาให้ "ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านพฤศจิกายน" 2567

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...

"NUE EPIC ASOK – RAMA 9" โครงการใหม่แกะกล่องจาก Noble

ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย

NARINSIRI แบรนด์บ้านหรูใหม่ของ "แสนสิริ" ได้ฤกษ์เปิดตัว 16-17 พ.ย. นี้

‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“

SMOKED By Chef Pam เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง~

เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555

ระเบิดความอร่อยไปกับ 2 เมนูเครื่องดื่มใหม่จากคริสปี้ ครีม NUTELLA THE SECRET INGREDIENT TO YOUR PERFECT DRINK TOGETHER

นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555


© 2018 CONDOTIDDOI

ME ESTATE CO.,LTD
92/21 HOLLYWOOD STREET CENTER
PHAYATHAI RD. RACHATEVEE
BANGKOK 10400 THAILAND

02-656-6776
condotiddoi@gmail.com

CONTACT US

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

CONDOTIDDOI

085-546-4694

info.condotiddoi@gmail.com

Copyright www.condotiddoi.com © 2018
web design & programming by www.smilephp.com