หลังจากโควิดตัวร้ายสำแดงฤทธิ์เดชในเมืองไทย ส่งผลให้เราต้องนอนตีพุง ทำกิจกรรมต่าง ๆ กันอยู่แต่ในบ้าน จนหลายคนเริ่มงอแง บ่นเบื่อกันมาหลายวัน กิจกรรมที่เคยทำก็เริ่มไม่สนุกเอาซะแล้ว แต่ยังไง๊ ยังไง ก็ต้องอยู่ในบ้านต่อไป
จริง ๆ แล้วหลาย ๆ คนคงจะรู้จักพวก E-book กันเป็นอย่างดีแหละ เพราะสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่อะไรเลยนะ แต่บางคนถึงจะรู้จักดีแต่ไม่ยักกะเคยได้ไปลองใช้ หมีว่าตอนนี้ถือเป็นโอกาสอันดีเหมือนกันนะที่จะได้ลองอะไรที่ยังไม่เคยลอง อย่างแต่ก่อนบางคนอาจจะไม่ค่อยมีเวลาในการอ่านหนังสือมากนัก ก็ถือโอกาสทำมันซะตอนนี้ไปเลย!!
อย่างเมื่อช่วงสิ้นเดือนมีนาคม จากเดิมที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะต้องจัดขึ้นที่เมืองทอง ก็เป็นอันต้องโยกย้ายไปตั้งแผงในออนไลน์เพราะเจ้าโควิด หลายคนกดซื้อกันมันส์มือเลยใช่มั้ยล่ะ ตัดบัตรเครดิตกันฉับ ๆ รอหนังสือมาส่งที่บ้าน
ที่กดออนไลน์กันมา ไม่แน่ใจว่าอ่านกันหมดหรือยัง5555 แต่วันนี้หมีขอมาเอาใจนักอ่านกันหน่อยดีกว่า (หรือว่าใครที่เบื่อกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง ลองมาอ่านนิยายหรืองานเขียนต่าง ๆ เพื่อคลายความเหงา หรือลดความเบื่อกันหน่อยมั้ย?)
เข้าเรื่องกันเลย นักอ่านหน้าใหม่ ที่อยากหางานเขียนหรือนิยายอ่านแก้เบื่อ วันนี้หมีเลยขอรวบรวมแอปพลิเคชั่น งานเขียนออนไลน์ ที่นักอ่านต้องมีติดเครื่องเอาไว้ในแบบฉบับที่ Android โหลดได้ IOS ก็โหลดดี!!
MEB E-book
เป็นแอปพลิเคชั่นที่้หมีเชื่อว่านักอ่านตัวยงคงรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ถ้านักอ่านมือใหม่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกันนัก นึกภาพตามง่าย ๆ เลยคือ Meb เนี้ย จะทำหน้าที่คล้าย ๆ ร้านหนังสือครับ แค่เปลี่ยนจากหนังสือที่เป็นเล่ม ๆ มาเป็น E-Book แทนครับ ซึ่งตัว MEB E-book ก็จะทำการแยกไว้เป็นหมวดหมู่ประเภทหนังสือเหมือนเวลาเราไปซื้อหนังสือที่ร้านเลย มีทั้ง นิยาย การ์ตูน นิตยสาร หนังสือเสียง ฯลฯ ซึ่งจะมีทั้งแบบให้อ่านฟรีและเสียเงินครับ จุดเด่นอีกอย่างของเค้าคือ พอเราดาวน์โหลด E-book ที่ต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถอ่านแบบออฟไลน์แบบไม่มีอินเตอร์เน็ตได้อีกด้วย และที่สำคัญยังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เราเลือกใช้ได้ตามความถนัด เช่นฟอนต์ ปรับสี App ปรับโหมดการอ่านในรูปแบบกลางคืนเพื่อถนอมสายตา เป็นต้น เป็นอีกแอพที่หมีแนะนำว่านักอ่านต้องโหลดไว้ติดมือถือไว้จริง ๆ
TK park Online Library
หลาย ๆ คนคงคุ้นชื่อ อุทยานการเรียนรู้ TK park กันอยู่ไม่น้อย ซึ่งนอกจากเค้าจะเป็นห้องสมุดสำหรับการเรียนรู้แล้ว ยังมีแอปพลิเคชั่นที่เป็นเหมือนห้องสมุดเคลื่อนที่ในมือของเราอีกด้วยนะ แอปนี้จะมีขอบเขตที่กว้างขึ้นมาแล้วครับ คือเค้าจะทำการรวบรวมหนังสือทั้งในและต่างประเทศมาให้เราได้อ่านกันง่าย ๆ แค่โหลดแอปพลิเคชั่นนี้ ก็สามารถเลือกอ่านได้แล้วครับ จุดเด่นหลัก ๆ ของเค้าก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหนังสือที่มีให้เลือกเยอะนี่แหละ ใครเบื่อ ๆ ก็มาสามารถเข้าไปโหลดแล้วหาหนังสือมาอ่านแก้เบื่อกันได้หรือใครมีลูกเด็กเล็กแดง หมีว่าแอปพลิเคชั่นนี้ก็ตอบโจทย์อยู่เหมือนกันนะ
Fictionlog
คอนิยายไม่มีแอพนี้ไม่ได้แล้ว หลัก ๆ ของแอพนี้ส่วนมาจะเป็นนิยายครับ จุดเด่นคือเราสามารถผันตัวไปเป็นนักเขียนได้ โดยสามารถเลือกว่าจะให้ผู้อ่าน อ่านฟรีหรือต้องเสีย Coin ในการอ่านงานเขียนครับ กลับกันถ้าเราเป็นผู้อ่าน ก็สามารถเลือกอ่านได้ทั้งงานเขียนที่ฟรีและติด Coin ครับ นอกจากจะสามารถเลือกอ่านนิยายจากนักเขียนหน้าใหม่ หรือมือสมัครเล่นที่มีพรสวรรค์แล้วเนี้ย เรายังสามารถเลือกอ่านนิยายในรูปแบบ E-book ที่มีอยู่ก่อนแล้วก็ได้ (ใครอยากลองเป็นนักเขียนดูบ้าง ลงงานเขียนในแอปนี้ก็ไม่เสียหายนะ)
Storylog
คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอย่างแน่นอน เพราะจริง ๆ แล้วในแอปนี้จะเป็นการเขียนบันทึก หรือ Story เรื่องราวต่าง ๆ ซะมากกว่านิยายครับ เหมาะสำหรับใคร? แอปนี้หมีคิดว่าเหมาะสำหรับใครที่อยากเขียนบันทึกหรือแชร์เรื่องราวที่ได้พบเจอมากครับ ถือเป็นจุดเด่นสุดเพราะไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนก็สามารถเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ได้ อีกหนึ่งสโลแกนดี ๆ ของแอปพลิเคชั่นตัวนี้ที่หมีชอบมากเป็นการส่วนตัวก็คือคำว่า "เรื่องราวดี ๆ ไม่มีวันหมดอายุ" ในสถานการณ์ที่เบื่อเศร้าเหงาเซ็งอย่างนี้ ลองเข้าไปเสพย์งานเขียน หรือจะลองเป็นนักเขียนกับเค้าบ้าง ก็สามารถโหลดแอปนี้กันติดเครื่องไว้ได้ครับผม!!
Ookbee
อีบุ๊คถ้าเราเอามาผวนกันก็จะได้เป็นคำว่า "อุ๊คบี" นั่นล่ะฮะ ที่มาของชื่อแอปหน้าตาสีเหลือง ๆ นี้นี่เอง คอนเซ็ปต์หลัก ๆ ก็ตามชื่อเลย นั่นก็คือแอปนี้จะเป็นแอปที่รวบรวม E-book ให้เราได้เลือกอ่านครับ หลัก ๆ ก็จะมีเหล่าหนังสือที่มีขายตามแผงหรือหน้าร้านทั่วไป แค่ปรับให้มาอยู่ในรูปแบบของ E-book ซึ่งการซื้อ E-book จะเป็นการซื้อแบบรายเล่มครับ แต่หากเราถูกใจหลายเล่มเค้าก็มีอีกหนึ่งแอปให้ไปโหลดเพื่อความคุ้มอย่าง Ookbee Buffet หลัก ๆ ก็เหมือน Ookbee ทั่วไปนี่แหละครับ เพียงแค่รูปแบบการจ่ายเงินจะต่างไปหน่อย คือจากเดิมที่เราจะจ่ายค่าหนังสือเป็นรายเล่ม แต่ Ookbee Buffet จะปรับมาเป็นการจ่ายเงินแบบรายเดือน / รายปี เพื่ออ่าน E-book ในแอปนั่นเองครับ
Dek-D
ใครไม่รู้จักแอปนี้ขออนุญาตคิดว่าคุณไม่ใช่วัยรุ่นก็แล้วกัน5555 เพราะแอปพลิเคชั่นเด็กดีถือเป็นแอปหลัก ๆ ที่วัยรุ่นส่วนใหญ่เค้าใช้อ่านนิยายกัน(ไม่ใช่วัยรุ่นก็อ่านได้ครับ) ต้องบอกก่อนว่าแต่ก่อนเนี้ยเค้ายังไม่มีแอปนะ จะอ่านนิยายแต่ละทีต้องเข้าเว็บไซต์เท่านั้น ซึ่งตอนนี้เด็กดีก็พัฒนาให้มีแอปที่ใช้อ่านนิยายเป็นของตัวเองแล้ว หลัก ๆ เลยคือเราสามารถอ่านนิยายได้จากหลาย ๆ นักเขียนครับ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนมืออาชีพ หรือ นักเขียนหน้าใหม่ มีฟีเจอร์ด้วยการติด Coin (อ่านแบบเสียเงิน) เพื่อเป็นการสนับสนุนเหล่านักเขียนอีกด้วย ใครอยากลองเขียนนิยาย ลองเลือกแอพนี้กันดูได้นะ ขอบอกว่าเด็กดีนี่แหละ เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่วงการนักเขียนทำให้มีหนังสือเป็นของตัวเองกันมาหลายคนแล้วด้วยนะ
Joylada
เป็นแอปพลิเคชั่นที่โด่งดังมาตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีก่อนเลยแล้วครับ มีรูปแบบการอ่านนิยายที่แหวกแนวมาก ๆ เพราะเป็นการเปิดตัวมาด้วยรูปแบบของ "นิยายแชท" อารมณ์เหมือนเราอ่านไลน์ หรือ อ่าน Message Facebook แอปนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของดารา ศิลปิน ที่จะมีการมาแต่งนิยายเพิ่มความฟินในการติ่งให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งตอนนี้เค้ามีการปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ให้สามารถลงนิยายหรืองานเขียนแบบบรรยายได้แล้วด้วย แถมมีการสนับสนุนนักเขียน ด้วยการติด Coin เหมือนแอพอื่น ๆ เช่นเดียวกัน ใครเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ไม่รู้จะอ่านอะไร ก็ลองเข้าไปใช้แอปนี้กันได้ อาจจะได้อรรถรสกันไปอีกแบบครับ
ReadAWrite
แอปพลิเคชั่นนี้มีรูปแบบค่อนข้างคล้ายคลึงกับตัว Joylada ที่หมีพูดไว้ก่อนหน้าครับ คือจะเน้นเรื่องของนิยายล้วน ๆ หลัก ๆ จะมีนิยายในรูปแบบของนิยายแชท และ นิยายที่เป็นในรูปแบบของข้อความบรรยายครับ ซึ่งถือว่าสองตัวนี้เป็นคู่แข่งที่สูสีกันมากทีเดียวเพราะกลุ่ม Target หลัก ๆ ของเค้าคือกลุ่มเดียวกันครับอย่าง กลุ่มแฟนคลับของดารา ศิลปิน นั่นเอง แต่ ReadAWrite จะค่อนข้างให้การสนับสนุนนักเขียนในเรื่องของการรายได้ที่มีเปอร์เซ็นเยอะกว่าครับ ลองโหลดมาลองใช้เล่น ๆ ดู ใครชอบตัวไหนก็ใช้ตัวนั้นกันครับ
Webtoon
กระโดดเข้ามาสายนี้กันบ้าง คิดว่าหลาย ๆ คนคงมีติดมือถือกันเยอะแล้วแหละ กับแอปอ่านการ์ตูนหนึ่งในลูกข่ายของ Line นั่นเอง Webtoon ไม่ได้มีจุดเด่นแค่การเข้าไปเสพย์งานอย่างเดียวนะ ใครสายวาด อยากวาดการ์ตูนเป็นของตัวเอง ก็สามารถลงงานได้อีกด้วย ที่สำคัญยังมีการ์ตูนดัง ๆ ดี ๆ จากต่างประเทศหลายเรื่องที่ทาง Webtoon เค้าเอามาแปลให้เราได้อ่านกันในเวอร์ชั่นภาษาไทยอีกด้วย แถมผลงานบางเรื่องในนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นซีรี่ย์กันเพียบไม่ว่าจะเป็น Hell Is Other People (นรกคือคนอื่น) , My ID Is Gangnam Beauty (ID ของฉันคือดอกไม้พลาสติก) , Cheese in the Trap (กับดักรัก กับดักหัวใจ) เป็นต้น เห็นอย่างนี้ใครยังไม่มีคงต้องดาวน์โหลดติดเครื่องไว้ซะแล้ว
Wecomics
แอปนี้จะคล้าย ๆ กับ Webtoon เลย คือจะเป็นแอปที่ใช้อ่านการ์ตูนที่จะนำการ์ตูนจากต่างชาติมาแปลให้อ่านเป็นเวอร์ชั้นภาษาไทยด้วยทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น มีครบ แอปนี้อาจจะยังไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ในหมู่คอการ์ตูน แต่เท่าที่หมีลองโหลดมาลองใช้ดู นับว่าไม่ขี้เหร่เลยนะ เป็นแอปที่คอการ์ตูนควรดาวน์โหลดไว้ติดเครื่องกันอีกแอป เพราะนอกจากจะมีการ์ตูนเยอะแล้ว แอปนี้เค้ามีการ์ตูนฟรีให้อ่านอีกด้วย!!
Comico
เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชั่นสำหรับอ่านการ์ตูน แอปนี้จะรวบรวมทั้งมังงะ คอมมิค แต่จะเหนือกว่าเว็บตูนหน่อยตรงที่สามารถอ่านนิยายได้ด้วย(แม้ว่าหลัก ๆ จะเป็นการ์ตูนมากกว่าอ่ะนะ) มีทั้งแบบที่สามารถอ่านฟรีได้ และ ต้องใช้เหรียญในการเปิดอ่าน ซึ่งตรงนี้หมีก็ไม่ติดนะ ถือซะว่าสนับสนุนผลงานให้กับนักวาดและนักเขียน เป็นอีกแอปที่ผมว่าค่อนข้างครบครัน โหลดแอปเดียวได้ทั้งการ์ตูน ได้ทั้งนิยายอ่านกันไปเลย ฟิน ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับแต่ละแอปที่หมีนำมาฝากกัน ช่วงนี้ไม่รู้จะทำอะไร การอ่านหนังสือก็อาจจะช่วยให้เราคลายความเหงาและความเบื่อไปได้นะ แถมดีไม่ดีเผลอ ๆ อาจจะกระโดดไปเป็นนักเขียนกันแบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ หาเงินกินขนมเล่น ๆ ช่วงกักตัวอยู่บ้าน เป็นรายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ กันไปอีกช่องทาง