ตอนนี้มีข่าวที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องลบมาให้เสพย์กันทุกวัน ทั้งในเรื่องโควิด-19 ที่ดูเหมือนไวรัสจะลุกลามระบาดไปถึงเศรษฐกิจโลกอีกด้วย

 

        อย่างธุรกิจอสังหาเอง นอกจากลูกค้าชาวไทยแล้วกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติก็มีไม่น้อยเลยเหมือนกันนะ แต่ด้วยผลกระทบจากเหจุการณ์โควิดที่ส่งผลไปทั่วโลก อาจจะทำให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติทิ้งดาวน์สูง

 

        สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อธุรกิจ โดยในส่วนของอสังหานั้นที่ผ่านมาได้มีการนำเสนอกระทรวงการคลังให้มีการเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปก่อนอย่างน้อย 1ปี เพราะเชื่อว่าทั้งผู้ประกอบการและประชาชนน่าจะยังไม่สามารถจ่ายภาษีได้ หรือหากรัฐไม่สามารถเลื่อนได้จริงๆ ก็ให้มีการเก็บในอัตราที่ต่ำที่สุดไปก่อนเพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนอยู่ได้โดยไม่ถูกซ้ำเติม นอกจากนี้ควรต้องยืดการลดค่าจดจำนองและค่าธรรมเนียมการโอนในบ้านระดับราคา 1-3 ล้านบาทออกไปก่อนจนถึงสิ้นปีหรือเลื่อนออกไปอีก 1 ปี เพราะเชื่อว่าในช่วงนี้บรรยากาศการซื้อขายหรือการโอนคงจะมีไม่มากนัก

 

        มีการปรับเงื่อนไขของคนต่างชาติที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทย เพราะมองว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่อาจทำให้ชาวต่างชาติที่ซื้อที่อยู่อาศัยแล้วอาจจะไม่มีการโอนหรือการทิ้งดาวน์สูง เพราะในช่วงนี้ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ดังนั้นภาครัฐควรออกมาตรการเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับคนกลุ่มนี้ เพื่อให้ซื้อที่อยู่อาศัยหรือมีการโอนเกิดขึ้น ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2540 ได้มีการดำเนินการดังกล่าวแล้วค่อนข้างประสบผลสำเร็จ นั่นคือ การจัดแพคเกจจูงใจสำหรับผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยราคาประมาณ 10 ล้าบาท ให้สามารถพำนักอาศัยในประเทศ 1 ปี หรืออาจจะให้เป็น 10 ปีหรือจนกว่าจะขายหรือเปลี่ยนมือก็ได้