หน้าร้อนมาเยือนอย่างเป็นทางการได้ซักพักแล้ว ซัมเมอร์ปีนี้ดูจะเหงาหงอยเศร้าสร้อยไม่คึกคักเหมือนปีก่อน ๆ เนอะ
อย่างว่าแหละโควิดเล่นงานกันซะป่วน นี่ถือเป็นปีแรกเลยนะที่ประเทศไทยไม่มีสงกรานต์55555
เอาจริง ๆ หมีเองก็แอบนอยด์ ๆ นะ เพราะปกติหน้าร้อนจะเป็นฤดูที่ใครหลายคนค่อนข้างจะคึกคักกัน
ถ้าตัดเรื่องเล่นน้ำสงกรานต์ไปก็คงจะเป็นเรื่องของวันหยุดนี่แหละ แถมยังช่วงที่เด็ก ๆ ได้ปิดเทอม ที่สำคัญมันยังเป็นช่วงที่มีวันหยุดเยอะด้วย อิอิ
ปกติทุก ๆ ปีช่วงฤดูร้อนแบบนี้คงได้ไปเที่ยวกับครอบครัว หรือได้กลับบ้านไปเยี่ยมผู้หลักผู้ใหญ่ที่ต่างจังหวัดกัน
แต่ปีนี้เฟล ๆ กันไปหน่อย ไม่ได้หยุด แถมไม่ได้เที่ยวแบบนี้ หมีเลยอยากมาแนะนำคาเฟ่น่ารัก รับซัมเมอร์ให้ หาอะไรหม่ำอร่อย ๆ ให้เลิกหงอยเลิกเศร้ากับเครื่องดื่มเย็น ๆ ดับร้อนกับร้าน Dalrim a moon's Tale คาเฟ่เล็ก ๆ ย่าน "สะพานวันชาติ"
สะพานวันชาติ ย่านนี้หากใครไม่คุ้นหูไม่คุ้นตา ให้ลองนึกถึง บางลำพู หลาย ๆ คนคงจะร้องอ๋อ กันไม่น้อย จริง ๆ สะพานวันชาติอยู่ไม่ไกลจากย่านบางลำพูมากนัก เดินเลียบมาทางฝั่งถนนพระสุเมรุ ก็จะเจอกับย่านสงบ ๆ แห่งนี้แหละครับ
หมีเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะคุ้นเคยกันดีกับย่านบางลำพู เพราะเป็นย่านที่ติดกับ "ถนนข้าวสาร" แหล่งท่องราตรียอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ถ้าเดินมาอีกไม่กี่ก้าว เราจะพบกับอีกย่านที่สงบมาก ๆ เหมือนอยู่คนละที่ละทางกับย่านท่องราตรีที่หมีกล่าวมาข้างต้นเลย
ใครเป็นสายคาเฟ่ที่ชอบความสงบ หลบความวุ่นวายคงจะชอบร้านนี้กันอย่างแน่นอน เพราะสะพานวันชาติ เป็นอีกย่านที่สงบ แม้จะอยู่ไม่ห่างจาก "ถนนข้าวสาร" มากเท่าไหร่
ช่วงโควิดแบบนี้บรรยากาศแถว ๆ ก็จะเหงา ๆ หน่อย
อย่าเพิ่งคิดว่าเพราะหมีมาช่วงที่มีโรคระบาดมันถึงสงบนะ เพราะจริง ๆ แล้วคาเฟ่นี้หมีเคยมาเยือนแล้วหนึ่งครั้งก่อนจะมีโรคระบาดอีก คอนเฟิร์มครับว่าที่นี่เงียบสงบ และน่านั่งมาก ๆ
แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ร้านรวงต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตาม พรก. ฉุกเฉิน ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศภายในร้านได้ แต่เรายังสามารถดื่มด่ำกับเมนูต่าง ๆ ของทางร้านได้เช่นเดิม!!
เพราะตอนนี้ทางร้านมีบริการแบบ Delivery ทั้งใน Line man บริการนัดรับ(บริเวณรถไฟฟ้า) และ ไปรษณีย์แบบ EMS ครับ
เรากลับมาที่ร้านดีกว่า วันนี้ผมมีโอกาสมาทำธุระแถวนี้ นอกจากจะเก็บภาพบรรยากาศมาฝากกันนิดหน่อยแล้ว วันนี้ผมยังจะเป็นพี่หมีสายกิน พาทุกคนมาไปทำความรู้จัก 4 เมนูเครื่องดื่มที่เป็น Signature ของร้านกันนนน
Signature Menu
Summer Coffee
เมนูนี้จัดเป็นพระเอกของร้านที่ผมเองก็อยากจะเสนอ เมนูนี้เป็เมนูเย็น เหมาะสำหรับอากาศร้อน ๆ เพราะนอกจากกาแฟที่ทำให้เรากระปรี้กระเปร่าสดชื่นแล้ว ความพิเศษของเมนูนี้ยังอยู่ที่การผสมน้ำส้มแมนดารินเข้าไปให้เรารู้สึกเฟรชด้วย(เมนูนี้เป็นเมนูแรกที่ผมมีโอกาสได้ลิ้มลองเลยนะ)
จุดเด่นอีกอย่างของเมนูแก้วนี้คือเค้าใช้ Cold Drip Coffee หรือกาแฟสกัดเย็นนั่นเอง นี่หมีแอบเก็บข้อมูลมาจากพนักงานภายในร้านเลยนะ5555
แก้วนี้สนนราคาอยู่ที่แก้วละ 100 บาท ราคาถือว่าไม่สูงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพของกาแฟ (จริง ๆ ผมค่อนข้างชอบกาแฟแนวนี้อยู่ด้วย ไอพวกที่ใส่น้ำผลไม้เปรี้ยว ๆ เลยเทใจให้เยอะหน่อย อิอิ)
Dirty Mocha
เมนูนี้ผมยังไม่เคยลอง แต่จะบอกว่าสาว ๆ หนุ่ม ๆ สายคาเฟ่น่าจะชอบ (เพราะถ่ายรูปออกมาสวยมากกก) ตามชื่อแน่นอนว่าเค้าก็เป็นกาแฟผสมช็อกโกแลตน่ะแหละ ตระกูลม็อคค่าอ่ะเนอะ ซึ่งเมนูนี้มีทั้งแบบเย็นและร้อนครับ
นอกจากหน้าตาที่ดูสวยงาม น่าประดับลงไอจีแล้ว ทางร้านยังใช้กาแฟที่เป็น Cold Drip Coffee เช่นเดียวกันครับ ส่วนช็อกโกแลตเค้าเป็นช็อกโกแลตที่ผสมเองด้วยนะ ซึ่งความเข้มข้นของกาแฟและช็อกโกแลตจะถูกตัดด้วยความละมุนของครีมสดด้านบนครับ (ถ้าหากไม่มีโควิดมากินที่ร้านเราจะเห็นครีมด้านบนจนล้นแก้วเลยนะ) เป็นอีกเมนูที่ผมยังไม่เคยลิ้มรส แต่คิดว่าคงจะได้กลับมาลองแน่นอน (แต่ไม่รู้จะอดใจรอหมดโควิดได้หรือเปล่า อยากมาลองแบบที่ครีมล้นแก้วมากกว่า Delivery อิอิ)
Coconut Americano
แก้วนี้หมีชิมแล้ว อิอิ ด้วยความที่ตัวเองเป็นสาวกสายกาแฟดำ หลงไหลในเมนูอเมริกาโน่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับน้ำมะพร้าวที่หมีปลื้ม (แกจะปลื้มทุกอย่างไม่ได้นะหมี) ผมชอบเมนูนี้เพราะน้ำมะพร้าวนี้แหละ แหะ แหะ
ราคาแก้วละ 90 บาท ผมไม่แน่ใจว่ามันสูงเกินไป หรือพอดีสำหรับกาแฟหนึ่งแก้ว แต่ส่วนตัวผมว่าราคาไม่ถือว่าสูงเลย เพราะเค้าใช้น้ำมะพร้าวจากลูกแถมยังเป็นมะพร้าวน้ำหอมด้วยนะ ซึ่งใครที่เป็นคอกาแฟดำ(อเมริกาโน่) แบบผมคงจะซีเรียสเรื่องกลิ่นและรสชาติกาแฟกันอยู่ซักหน่อย แต่กาแฟของทางร้านค่อนข้างโอเคครับ ตัวกาแฟจะเป็น Espresso shot (เค้าบอกผมมางี้นะ5555)
Vianna Coffee
ขึ้นแท่นเมนู Signature อีกเมนูที่ยังไม่เคยลอง (แป่ววว) แต่ไหน ๆ จะพูดถึงเมนู Signature ก็ขอยกมาให้หมดเลยแล้วกัน เมนูนี้หมีขอยกให้ไปอยู่ในโหมด เมนูหน้าสวยประดับไอจี (เห็นแค่รูปก็รู้แล้วว่าเมนูนี้ต้องละมุนเป็นแน่แท้)
จะไม่ให้ละมุนได้ไง ก็เมนูนี้เค้าเล่นจัดครีมสดนุ่ม ๆ ไว้ชั้นบน ตัวนี้จะมาตัดกับการแฟ Espresso shot (ซึ่งผมแอบถามทางพนักงานมาว่าแล้วมันพิเศษกว่ายังไง) เค้าบอกว่าทางร้านจะโรยเมล็ดกาแฟด้านบนอีกที โหหห แค่ Espresso shot ก็ตื่นเต็มตาแล้วนะผมว่า นี่ยังมีเมล็ดกาแฟโรยบนครีม ถือว่าตัวนี้หน้าสวยแต่ใจสั่นแรงแน่ ๆ ใครสายแข้มน่าจะปลื้มครับ อ้อ เมนูนี้มีทั้งร้อนและเย็นให้เลือกตามความถนัดลิ้น แต่ขอบอกว่าใครที่ไม่ใช่สายเข้มอาจจะขอลด shot เค้าได้นะ (แอบเป็นห่วง อิอิ)
นอกจาก 4 เมนูเครื่องดื่มที่เป็น Signature ของร้านแล้ว ร้าน Dalrim a Moon's Tale ยังมีอีกหลากหลายเมนูให้เลือกหม่ำทั้งคาวทั้งหวาน ทั้งบิงซูเส้นไหม อีกหนึ่งตัวเด็ดของร้าน ไดฟูกุ เค้ก ต็อกบกกีฯลฯ
บางเมนูเราอาจจะต้องรอให้หมดช่วงโควิดถึงจะมาหม่ำกันได้เนอะ แต่อย่างที่ผมบอกว่าใครยังอยากดื่มด่ำบรรยากาศคาเฟ่ชิค ๆ ทางร้านมีบริการจัดส่งเครื่องดื่มและเมนูต่าง ๆ ตามที่ผมบอกเลย (แอบชอบที่หันมาทำเครื่องดื่มใส่ขวดส่งพร้อมเสิร์ฟ) ส่วนใครที่อยู่ต่างจังหวัดเค้าส่งไปรษณีย์แบบ EMS อย่าเพิ่งคิดว่า เอ้าแล้วมันไม่บูดหรอ คำตอบคือเค้าจัดทำแบบผงพร้อมวิธีการชงบรรจุขวดไปเสิร์ฟถึงหน้าบ้าน ถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ไปอีกแบบ
ช่วงนี้ใครโหยหาคาเฟ่ คงต้องอดใจรอกันอีกนิด แต่ถ้าทนไม่ไหว หมีแนะนำร้านนี้แหมาะสำหรับคอกาแฟจริง ๆ ไว้ร้านเปิดเป็นปกติเมื่อไหร่ จะมาลองเมนูที่ยังไม่เคยลองแล้วจะเอารีวิวมาฝากกัน ตามประสาเพจของกินกันครับผม อิอิ