เรียกได้ว่าคึกคักคนเยอะถล่มทลายขั้นสุดกันเลยทีเดียว สำหรับการกลับมาเปิดให้บริการของ
"IKEA" ห้างขวัญใจสายแต่งบ้านอย่างพวกเราชาวติดดอย
พอเห็นข่าวแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะกระแสการกักตัวอยู่บ้าน “Stay Home Stay Safe” ทำให้หลายคนเริ่มรักบ้าน อยากแต่งบ้านกันมากขึ้น
หรือเพราะเบื่อหน่ายกับค่าไฟที่แพงขึ้นผิดหูผิดตา จนอยากประหยัดไฟแล้วไปเดินตากแอร์ รับลมเย็นฟรี ๆ ที่ห้างกันแน่ ฮ่า ๆๆๆ
เอาเป็นว่าเห็น IKEA ฮอตขนาดนี้... ติดดอยของเราก็ขอเกาะกระแสกับเค้าไปด้วยละกัน หลายคนไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร วันนี้แหละเราจะมาชี้เป้ากัน 555
เพราะถึงแม้วิกฤติโควิดในตอนนี้จะคืบหน้าไปมากแค่ไหน แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนพวกเราไปตลอดกาลก็คือรูปแบบการใช้ชีวิตของพวกเราใช่มั้ยล่ะ
ในเรื่องเกี่ยวกับการอยู่อาศัย ตอนนี้เพื่อน ๆ หลายคนก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างเช่น ล้างมือกันบ่อยขึ้น ทำความสะอาดบ้านมากขึ้น แต่รู้มั้ยว่าสิ่งของต่าง ๆ ในบ้านก็มีส่วนช่วยไม่แพ้กันนะ
“NEW NORMAL” จะมาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของพวกเรายังไง แล้วจะมีอะไรจาก IKEA ที่ตอบโจทย์กับความปกติใหม่นี้บ้าง... ตามผมไปดูกันเลยยยย!
1. พื้นที่ทำงานตอนกลางวัน ห้องทานอาหารตอนกลางคืน
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าสิ่งแรกที่หลายคนต้องปรับตัวหลังจากโควิดมาก็คือการทำงานที่บ้านหรือ Work from Home นั่นเอง (ผมเองก็ด้วย 555)
ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับผมก็คือที่คอนโดไม่มีโซนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเลย เอาจริง ๆ มันมีนะ แต่ด้วยความที่ปกติไม่ได้ใช้ เลยเปลี่ยนการใช้งานไปแล้ว ฮ่า ๆๆๆ
ทีนี้พอต้องกลับมาทำงานที่ห้องจริง ๆ ก็ต้องมานั่งเคลียร์พื้นที่ใหม่ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้นอีก
การจัดสรรพื้นที่สำหรับทำงานนั้นเราก็ต้องคิดกันให้รอบคอบนะ ลองลิสต์ดูกันก่อนว่าเราต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมืออะไรบ้าง ต้องมีการประชุมออนไลน์หรือเปล่า
นอกจากจะช่วยให้เราได้พื้นที่ใช้สอยที่เพียงพอแล้ว เราจะได้เผื่อพื้นที่ใช้สอยไว้ประยุกต์ใช้งานอย่างอื่นได้ด้วย เพราะบางคนอยู่คอนโดพื้นที่ก็น้อยจะไม่พอใช้สอยอยู่แล้ว 555
ที่ผมอยากจะเสนอก็คือลองประยุกต์ใช้พื้นที่ทำงานและพื้นที่รับประทานอาหารเป็นส่วนเดียวกันไปซะเลย เพราะยังไงทั้งสองกิจกรรมก็ต้องใช้โต๊ะเป็นหลัก
การอยู่อย่างราบรื่นไม่จำเป็นต้องซับซ้อน รถเข็นและตู้ลิ้นชักมีล้อเลื่อนเป็นส่วนที่จะย้ายสิ่งต่าง ๆ ไปรอบ ๆ โต๊ะ และสามารถช่วยเปลี่ยนโฮมออฟฟิศเล็ก ๆ ให้เป็นโต๊ะรับประทานอาหารได้อย่างง่าย ๆ
ซึ่งเซตเฟอร์นิเจอร์ที่ผมยกตัวอย่างมาให้ดูนี้ทาง
IKEA เค้าก็จัดเป็นชุดไว้ให้พวกเราเรียบร้อย ถ้าชอบตามนี้ก็จิ้มเลือกออนไลน์จากที่บ้านเลยก็ได้ ไม่ต้องออกไปเสี่ยงกับคนเยอะ ๆ ด้วย
2. พื้นที่สำหรับมุมทำงานอดิเรก เพื่อสุขภาพใจและกาย
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับวิถีชีวิต “NEW NORMAL” ก็คือ การออกแบบตกแต่งภายในไม่ใช่แค่เรื่องฟังก์ชั่นและความสวยงามอย่างเดียวอีกต่อไป!!!
แต่พวกเรายังต้องคำนึงถึงเรื่อง "ความสุขทั้งทางกายและใจ" ด้วย เพราะบ้านต้องเป็นสถานที่ที่สามารถทำกิจกรรมต่างได้หลากหลายมากขึ้นกว่าเก่า
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกาย พื้นที่สำหรับงานอดิเรก และอื่น ๆ อีกมากมายที่เราไม่สามารถไปทำนอกบ้านได้เหมือนเคย
ดังนั้นแล้วสำหรับใครที่อยู่บ้าน หรือไม่ได้อยู่อาศัยเพียงคนเดียว การออกแบบภายในบ้านจึงต้องใส่ใจเรื่องการรักษาระยะห่างทางกายภาพมากขึ้น รวมไปถึงการสัมผัสกับวัสดุที่ใช้ร่วมกันก็ควรจะมีให้น้อยที่สุด
ลองจัดมุมที่คนในครอบครัวของเพื่อน ๆ สนใจอย่างงานไม้ เย็บปักถักร้อย หรือปลูกต้นไม้ โดยที่ทุกคนสามารถผลัดกันใช้งานได้แม้จะมีพื้นที่จำกัด
และที่สำคัญคือ เมื่อไม่ได้ใช้งานแล้ว เราก็ปรับเปลี่ยนเป็นที่ทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ โดยไม่เสียพื้นที่นั้นไปเปล่าประโยชน์
ถึงแม้จะคับที่แค่ไหน แต่พวกเราก็อยู่ได้ โดยที่ไม่ต้องแยกกันออกไปทำกิจกรรมข้างนอกให้เสี่ยงกับเชื้อโรคร้าย แถมเสียเงินฟรี ๆ ทั้งที่ทำที่บ้านก็ได้ 5555
ผมว่าส่วนนี้ถ้าเพื่อน ๆ ลองช่วยกันระดมความคิดเห็นในครอบครัว นอกจากจะเป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์ในครอบครัวแล้วยังช่วยให้ทุกคนติดบ้านกันมากขึ้นด้วยนะเออ
3. พักผ่อนได้ทุกเวลา ด้วยธรรมชาติ และสวนครัวในบ้าน
ผมลองนั่งนึก ๆ ดูแล้ว... นานแค่ไหนแล้วนะเนี่ยที่เราไม่ได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน ในใจก็เริ่มเรียกร้องต้องการทะเล ต้องการภูเขามาขึ้นทุกที ก็คนชอบเที่ยวนี่เนอะ 5555
ถึงแม้ตอนนี้หลาย ๆ จังหวัดจะเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ตัวผมเองก็ยังไม่กล้าไปไหนไกล ๆ เพราะยังติดเคอร์ฟิวอยู่ดี
รวมไปถึงในอนาคตที่เราต้องอยู่บ้าน อยู่คอนโดอีกหลายสิบปีต่อจากนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เราต้องกักตัวอยู่บ้านกันอีกหรือเปล่า
ดังนั้นความปกติใหม่ที่ผมว่าทุกที่อยู่อาศัยควรมีก็คือ พื้นที่สีเขียวที่เป็นของเราเอง!!!
ยิ่งตอนนี้หลายคนผันตัวมาเป็นเชฟทำอาหารกินกันเองในครอบครัวแล้วด้วย พื้นที่สีเขียวไม่เพียงเป็นที่ผ่อนคลายเท่านั้น แต่เป็นอาหารของเราก็ได้นะเออ
ซึ่งการปลูกพืชผักสวนครัวกินเองนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายได้แล้ว การมีใช้วัตถุดิบที่เราปลูกเองกับมือยังสร้างความมั่นใจว่าจะไม่ปนเปื้อนเชื้อโรคอีกด้วยนะ
อย่างเซตเฟอร์นิเจอร์ภายนอกที่ทาง IKEA เค้าจัดมาให้ชุดนี้ผมว่าเหมาะดีสำหรับใครที่อยู่คอนโดแล้วมีพื้นที่ภายนอกแค่บริเวณระเบียง
เพราะพื้นที่ระเบียงคอนโดก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าไม่ได้ใหญ่พอจะปลูกต้นไม้ลงดินหรือมีกระถางใหญ่ ๆ ใช่มั้ยล่ะ เพราะงั้นถ้ามีชั้นวางกระถางภายนอกที่สามารถระบายน้ำได้ในตัวนี้เจ๋งไปเลย
ไม่ว่าระเบียงจะเล็กแค่ไหน! ด้วยที่เก็บของ ที่บังแดดและวิธีการสร้างความเป็นส่วนตัวที่เหมาะสม เพื่อน ๆ ก็จะสามารถพักผ่อน และเติมพลังได้แม้จะ WFH เหน็ดเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม ฮ่า ๆๆๆๆ
4. พื้นที่ส่วนกลางรักษาระยะห่าง
ออกจากห้องกันมานิดกับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ... ผมว่าจริง ๆ แล้วเราควรสนับสนุนให้เค้าใส่ใจไม่แพ้ที่พวกเราใส่ใจพื้นที่ส่วนตัวของเราในห้องเลยนะ
เพราะความปกติใหม่หรือ “NEW NORMAL” นั้นไม่เพียงแต่ปรับเราให้รับมือกับไวรัสได้ดีขึ้น แต่ปรับให้เราใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนรวมได้ปลอดภัยขึ้นเช่นกัน
จะเห็นได้จากพื้นที่ส่วนกลางในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ทเมนท์ที่กำลังจะสร้างใหม่ เราก็เริ่มเห็นการออกแบบพื้นที่ที่สามารถรักษาระยะห่างระหว่างกันได้
ที่ผมเจอมาแล้วก็ ฉากกั้นระหว่างกันเพื่อให้เกิดเป็น comfort zone, การจำกัดคนเข้าลิฟท์, การหลีกเลี่ยงการสัมผัสวัสดุที่ต้องใช้ร่วมกัน
รวมไปถึงสิ่งที่เราเองใช้กันอยู่ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นประตูที่เปิดปิดอัตโนมัติ และห้องยิมสำหรับออกกำลังกายที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก อาจดูเป็นสิ่งคุ้นตาแต่จริง ๆ หลักการออกแบบเค้าก็ช่วยป้องกันเราจากเชื้อโรคโดยที่เราไม่รู้ตัว 5555
ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลอยู่ละก็ ทาง IKEA เค้าก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมายเลยล่ะ
แต่ที่ผมชื่นชอบดีไซน์และคิดว่ามันช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวเวลาเราไปใช้พื้นที่สาธารณะได้ก็คือ “โซฟาอัคทิวิเทียต” (AKTIVITET)
จุดเด่นที่ทำให้ผมเลือกชิ้นนี้มาชี้เป้าก็เพราะเบาะนั่งเค้ามีขนาดใหญ่กว้างขวางนั่งสบาย แถมมีพนักพิงหลังนุ่ม ๆ จากขนเป็ดและเส้นใยโพลีเอสเตอร์ให้ความรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น
ผมว่าชิ้นนี้เหมาะเลยนะ สำหรับการนั่งประชุมหรือคุยงานในบรรยากาศสบาย ๆ หรือนั่งทำงานในออฟฟิศแบบเปิดโล่ง เพราะมีพนักสูงช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว (ถึงแม้ราคาจะสูงหน่อยก็ตาม 555)
เป็นยังไงกันบ้างทุกคนกับไอเดียไปเสียตังให้ IKEA ที่ผมมาเสนอในวันนี้ เอาจริง ๆ บางอย่างเราไม่ต้องไปเสียเงินซื้อของใหม่ก็ได้นะ แค่ปรับนิด เปลี่ยนหน่อย พื้นที่ใช้สอยของเราก็พร้อมรับมือกับความปกติใหม่แล้ว
ซึ่งจริง ๆ ผมว่าเจ้ากระแส “NEW NORMAL สำหรับการอยู่อาศัย” มันคือ การอยู่บ้านได้นาน ๆ โดยมีความสุขมากกว่า