ช่วง Work From Home ที่ผ่านมาเพื่อน ๆ ทำงานที่บ้านแล้วรู้สึกอากาศร้อนอยากได้แอร์ใหม่กันเหมือนผมบ้างมั้ย 555
ส่วนตัวผมแล้วยอมรับว่าทนร้อนบางเวลา เพราะกลัวว่าถ้าเร่งแอร์ให้เย็นฉ่ำใจแล้วจะสู้ค่าไฟไม่ไหว อีกทั้งถ้าแอร์พังขึ้นมาแล้วต้องซื้อใหม่ในช่วงกรอบ ๆ แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
และก็อีกเช่นเคย... โลกอินเตอร์เน็ตนี่รู้ใจเรายิ่งกว่าตัวเราเองซะอีก นั่งไถโซเชียลเล่นอยู่ดี ๆ มีการตลาดแอร์แบบใหม่มาทำให้สะกุดตาจนต้องคลิกเข้าไปดู
กับโปรโมชั่นแคมเปญ Haier “เย็นดีแค่ 4 บาท” ที่ผมขอบอกเลยว่าฉีกโปรการตลาดออกมาไม่เหมือนใคร ไม่ต้องเสียเงินก้อนซื้อแอร์ เสียค่าติดตั้งให้หนักใจ
เพราะจุดขายของเค้าคือ
การให้แอร์มาติดตั้งที่บ้าน ฟรี ฟรี ฟรี กันไปเเลย!!!
อ่าว... แล้วแบบนี้จะคิดค่าใช้จ่ายกันยังไง? คำตอบก็คือทาง Haier จะคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายชั่วโมงแทน ซึ่งเท่าที่เค้าบอกมาก็คือชั่วโมงละ 4 บาทเท่านั้นเอง
โดยการที่เค้าออกแคมเปญคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายชั่วโมงนี้ก็เท่ากับว่า เราไม่ต้องเสียเงินซื้อแอร์เอง เปิดเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ใช้มากจ่ายมาก ใช้น้อยจ่ายน้อย
แต่ไม่ต้องกลัวว่าใช่มาก ใช้เยอะ แล้วจะเกินมูลค่าของเครื่องแอร์กันไปนะ เพราะทาง Haier เค้าก็วางแผนความคุ้มค่าไว้ให้พวกเราด้วย
ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ ใช้งานแอร์ตัวนี้ครบ 5,200 ชั่วโมง ภายใน 3 ปีนับจากวันติดตั้ง เพื่อน ๆ ก็จะได้รับแอร์เครื่องนั้นฟรีไปเลย
ที่สำคัญค่าบริการชั่วโมงละ 4 บาทที่เค้าคิดมานี้ เค้ารวมบริการหลังการขาย ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่แล้วเรียบร้อย ถ้าเครื่องมีปัญหาใน 3 ปีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม แต่ไม่รวมบริการล้างแอร์นะ
ทีนี้เราลองมาคิดกันดูเล่น ๆ ดูว่าถ้าเราใช้ครบโควต้า อยากได้แอร์ฟรี ๆ ตามแคมเปญที่เค้าบอกเราต้องเสียค่าใช้บริการเท่าไหร่กันนะ
จากบริมาณการใช้ 5,200 ชั่วโมงที่เค้ากำหนด คูณด้วยค่าใช้บริการชั่วโมงละ 4 บาท เท่ากับว่าเราจะต้องเสียค่าใช้บริการทั้งหมด 5,200 x 4 = 20,800 บาท
แต่ แต่ แต่... ถ้าครบกำหนดแคมเปญใช้งานครบ 3 ปีเรียบร้อย แต่เพื่อน ๆ ใช้งานไม่ถึง 5,200 ชั่วโมง เพื่อน ๆ ก็จะถูกปรับเป็นเงินตามชั่วโมงที่เหลือแทนด้วยนะ
ผมขอยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นถ้าพอครบ 3 ปีแล้วเพื่อน ๆ ใช้งานแอร์ตัวนี้ไปเพียง 4,000 ชั่วโมง ทาง Haier ก็จะคิดค่าปรับเราตามจำนวณชั่วโมงที่ขาดไป
เท่ากับเพื่อน ๆ ต้องจ่ายค่าปรับ 5,200 – 4,000 = 1,200 ชั่วโมง คูณด้วยอัตราค่าใช้บริการชั่วโมงละ 4 บาท เท่ากับ 1,200 x 4 = 4,800 บาท
เท่ากับว่าจริง ๆ แล้วการตลาดของเค้าก็คือการบังคับให้เราใช้งาน 3 ปี และก็ต้องจ่ายเงินให้ครบ 20,800 บาท เพื่อรับแอร์เครื่องนั้นไปนั่นแหละ 5555
พอมาคิดดูเรื่องความคุ้มค่าสูงสุดแล้วก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่เหมือนกัน เพราะมูลค่าของแอร์ Haier รุ่น HSU-12VNS03T(S) ที่จัดแคมเปญนี้ หากซื้อแยกเดี่ยวๆ จะอยู่ที่ 10,000 – 15,000 บาทเอง
แต่มันก็มีข้อดีของมันอยู่เหมือนกันนะ เพราะช่วงเศรษฐกิจแบบนี้หลาย ๆ คนก็อยากได้แอร์โดยไม่อยากเสียเงินก้อนกันใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆๆๆ
โดยการขอใช้บริการแคมเปญนี้ก็ง่าย ๆ แค่เพื่อน ๆ สแกนคิวอาร์โค้ดที่รูปด้านล่างนี้ เพื่อลงทะเบียนกรอกข้อมูลรับแอร์ แล้วก็รอทาง Haier มาติดตั้งให้ฟรีถึงที่บ้าน ง่าย ๆ ไม่ต้องไปเลือกซื้อเองให้วุ่นวาย
ซึ่งแอร์ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้จะมีเพียงรุ่นเดียว คือ HSU-12VNS03T(S) ที่มาในขนาด 11,568 BTU ถ้าใครที่ต้องการรุ่นให้ใหญ่กว่านี้ก็ต้องอดใจรอกันไปก่อนเด้อ 555
ส่วนการใช้งานของระบบการคิดเป็นชั่วโมงนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนโกง โดนแกงกันนะ เพราะทาง Haier เค้ามีการร่วมมือกับ AIS ออกแบบระบบมาเป็นอย่างดี
Haier จะทำคำนวนค่าบริการ และติดตามการใช้งานผ่านทางระบบ NB-IoT จาก AIS โดยที่แอร์เราไม่ต้องต่อ Wi-Fi หรือใส่ซิมอะไรเลย
เพราะเครื่องจะเชื่อมต่อกับสัญญาณ NB-IoT ของ AIS ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศแบบอัตโนมัติ แล้วคอยส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบแม้บ้านของเราจะไม่ได้ติดตั้งอินเตอร์เน็ตไว้ก็ตาม
และที่ผมชอบที่สุดก็คือในยุคโลกาภิวัตน์ที่ Internet of Things (IoT) เป็นสิ่งจำเป็นแบบนี้ เจ้าแอร์ตัวนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน
โดยเพื่อน ๆ สามารถควบคุมแอร์ตัวนี้ได้ง่าย ๆ ผ่านสมาร์ทโฟนบนแอป Smart Sharing AC ของ Haier ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะอยู่ที่ไหนก็ตาม
ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสั่งเปิด-ปิด ปรับทิศทางลม ปรับอุณหภูมิ หรือแม้แต่เวลาแอร์ของเรามีปัญหา ต้องการเรียกใช้บริการเซอร์วิส ให้ช่างมาเช็คแอร์ให้ก็ทำได้!!!
ซึ่งบริการควบคุมแอร์ผ่านแอป Smart Sharing AC ของ Haier นี้ก็สามารถใช้ไปได้เรื่อย ๆ ถึงแม้จะครบกำหนด 3 ปีแล้ว ได้รับแอร์เป็นของเราแล้วก็ยังใช้ต่อได้
และไฮไลท์ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือเค้ามีระบบช่วยคุมค่าใช้จ่ายให้เราได้ เพราะก่อนที่เราจะใช้งานแอร์แต่ละครั้งเราต้องเติมเงินเข้าแอป Smart Sharing AC ก่อน
คิดง่าย ๆ ก็เหมือนการเติมเงินมือถือนั่นแหละ อยากควบคุมใช้แอร์ วันละเท่าไหร่ อาทิตย์ละเท่าไหร่ เดือนละเท่าไหร่ ก็เติมเงินไว้ให้พอดีกับยอดที่ตั้งเป้าไว้
ผมขอยกตัวอย่างจากหน่วยเล็กสุดให้คิดกันง่าย ๆ เช่นอยากกำหนดให้ใช้แค่วันละ 8 ชั่วโมง เช้ามาเพื่อน ๆ ก็เติมเงินเข้าแอปไปให้พอดี
โดยเอาจำนวณชั่วโมงที่ต้องการใช้คูณกับค่าบริการชั่วโมงละ 4 บาท ในกรณีตัวอย่างนี้ก็จะเท่ากับ 8 x 4 = 32 บาท แล้วเพื่อน ๆ ก็เริ่มใช้งานได้เลย
(ตอนใช้งานจริงระบบจะคิดการใช้งานเป็นนาทีนะ ไม่มีการปัดเศษนาทีเป็นชั่วโมง)
ทีนี้น้องแอร์ก็จะเริ่มคิดการใช้งานและหักเงินจากระบบในแอปของเราไปเรื่อย ๆ พอเงินในระบบหมดปุ๊บแอร์ก็จะดับทันที ไม่ต้องกลัวจะเผลอเปิดทิ้งไว้จนค่าใช้จ่ายบานปลาย
ซึ่งการเติมเงินเข้าสู่แอปนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกเช่นกัน ทาง Haier เค้ามีการไปจับมือกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อทำ Payment Gateway เป็นที่เรียบร้อย
เท่ากับว่าเพื่อน ๆ
สามารถชำระค่าบริการผ่านแอป SCB Easy ได้เลยทันที จะเติมทุกวัน ทุกชั่วโมงก็ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม 555
แต่บอกก่อนนะว่าค่าบริการใช้แอร์ชั่วโมงละ 4 บาทนั้น ยังไม่รวมค่าไฟฟ้า ที่เพื่อน ๆ ต้องจ่ายกับการไฟฟ้าเองนะ เพราะงั้นก็ไม่ควรใช่เพลินอยู่ดี เดี๋ยวค่าไฟจะพุ่งเอา!!!
โดยรวมแล้วผมว่าแคมเปญนี้ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือต้องการผ่อนจ่ายยาว ๆ ให้ไม่กระทบค่าใช้จ่ายรายเดือน
แต่ข้อเสียสำหรับผมก็คือผ่อนแบบนี้ดอกเบี้ยก็โหดเอาเรื่อง คิด ๆ แล้วก็แพงกว่าราคาปกติไปถึง 30-40% เลยทีเดียว
ถ้าเพื่อน ๆ มีบัตรอยู่แล้วหรือสะดวกจ่ายทีเดียวจบยังไงก็คุ้มกว่า เอาเป็นว่าใครสนใจก็ลองติดต่อขอใช้บริการกันดู ดีไม่ดียังไงก็หลังไมค์มาบอกกันบ้างน้าาา
ลืมบอกไป... บทความนี้ผมไม่ได้ค่าสปอนเซอร์นะ เขียนมาเป็นทางเลือกให้เพื่อน ๆ ชาวติดดอยไปศึกษากันดู แต่ถ้ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าค่ายไหนอยากให้รีวิวอะไร ติดดอยของเราก็ยินดีนะคร้าบบบ 55555ภาพและข้อมูลจาก : HaierThailand และ Haier (1,2)