ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 2020 นั้นอย่างที่ทุกคนได้รู้กันดีว่าย่ำแย่มากชนิดขาดทุนกันหลายเจ้า
ยิ่งมาเจอกันพอดิบพอดีกับวิกฤต Covid-19 ที่ระบาดหนักด้วยแล้ว อะไรที่มันแย่อยู่แล้วก็พาลยิ่งแย่ลงไปอีก
หนึ่งในตลาดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงเลยก็คือ "ตลาดคอนโดมิเนียม" นี่แหละ
ตอนนี้ผู้ประกอบการต้องเร่งจัดโปรโมชั่นกันเพื่อระบายสต๊อกแทบจะตลอดเวลา เดี๋ยวเจ้านี้จัดโปร เดี๋ยวเจ้านั้นจัดโปร สักพักเจ้าเดิมจัดอีกแล้ว
ความจริงมันก็เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการเค้าต้องเร่งทำกันนั่นแหละ ส่วนผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในมือหน่อยอาจจะพลิกโควิดให้เป็นโอกาส ช้อนซื้ออสังหาฯ มาในราคางามๆ กันถ้วนหน้า ก็นับว่าได้กำไรไป
แต่ตอนนี้ปี 2020 ก็ผ่านมาอีกนิดจะครึ่งปีแล้ว แม้โควิดดูท่าจะอยู่กับเราอีกนาน แต่ตลาดก็ต้องเดินหน้าต่อไป
เดี๋ยวเรามาจับตาดูกันอย่างคร่าวๆ ว่าตลาดอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังนั้นจะเป็นยังไง
งานนี้ใครจะอยู่ ใครจะไป หมัดใครจะหนักกว่า ต้องจับตาดูกันครับ
กระทบตลาดแนวสูง แต่แนวราบเป็นที่นิยม
ตัวนี้ยังคงนอนมา เห็นกันมาตั้งแต่ต้นปี และมีเค้าลางกันมาตั้งแต่ช่วงปีก่อนแล้ว ว่าแนวสูงจะไม่ค่อยได้รับความนิยมนัก แต่ว่าแนวราบกลับได้รับความนิยมในหมู่ลูกค้า Real Demand มากกว่า
นับตั้งแต่มี LTV เข้ามา ยอดขายโครงการแนวสูงก็ลดลงจริงๆ นั่นแหละ แต่เมื่อเทียบกับแนวราบแล้วถือว่าห่างกันคนละโยชน์
และที่เห็นชัดคือตอนนี้ยอดเปิดตัวคอนโดฯ ลดลงมาก แต่ว่าโครงการแนวราบทั้งหลายกลับมีแพลนเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งตอนนี้คอนโดฯ มีภาวะ Over Supply แถมมียูนิตค้างสต๊อกอีกมาก ภาวะนี้ก็จะเป็นต่อไปยาวๆ เลยล่ะครับ
นอกจากนั้นตอนนี้กระแส Work From Home กำลังมา ใครๆ ก็ทำงานกันที่บ้าน พอดีกับการคงความเป็น New Normal คนทั้งหลายในตอนนี้ก็อาจจะนึกไม่สบายใจกับการต้องใช้ลิฟต์ร่วมกัน ต้องแชร์ริ่งกันในคอนโดฯ หลายคนเลยตัดสินใจหันมาซื้อแนวราบ มุ่งเน้นไปทางทาวน์โฮมเสียเป็นส่วนมากด้วย
การปิดตัวลงของพื้นที่ค้าปลีก สำนักงานให้เช่ามีขนาดเล็กลง
อันนี้ถือได้ว่าสืบเนื่องจากข้อด้านบนเหมือนกัน
พฤติกรรมกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนมันเปลี่ยนไปแล้ว นอกจากจะใช้งานทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์กันเยอะ กระแส New Normal ก็มาได้พอดิบพอดี
ตอนนี้เลยจะเห็นได้ว่าเราสามารถซื้อทุกอย่างได้บนโลกออนไลน์ ของกิน ของใช้ ของจุกจิก แบรนด์สินค้าทั้งใหญ่เล็กก็มีแพลตฟอร์มการขายบนโลกออนไลน์กันมาก
คนเองก็สนใจการซื้อของออนไลน์มากกว่าเดิม ดังนั้นหลังจากนี้ถ้าพื้นที่ค้าปลีกจะเริ่มปิดตัวลงก็ไม่ต้องแปลกใจ
จะว่าไปทางต่างประเทศเองก็เริ่มมีพื้นที่ค้าปลีกที่ปิดตัวลงเหมือนกันนะ เหตุผลก็เพราะว่าทุกอย่างมันย้ายไปอยู่ในรูปแบบออนไลน์แทนนี่แหละ
ในเวลาเดียวกันอาคารสำนักงานให้เช่าทั้งหลายในอนาคตก็จะมีขนาดที่เล็กลงเหมือนกัน
เรื่องนี้ก็คล้ายกันกับข้อด้านบน คือบริษัททั้งหลายมีนโนบาย Work From Home กันแล้ว หลายบริษัทเลยล่ะที่ออกมาประกาศว่าต่อไปนี้ถึงแม้โควิดจะหมดไปแต่ก็ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้เหมือนเดิม เพราะการมาออฟฟิศมันไม่ได้จำเป็นอีกแล้วในยุคนี้สมัยนี้
และเพราะพนักงานส่วนใหญ่สามารถนั่งทำงานที่บ้านได้ พื้นที่ในสำนักงานให้เช่าก็จะมีความสำคัญลดลง
อาจจะเป็นแค่ที่ที่เอาไว้ให้พนักงานนัดคุยงานกันเป็นครั้งคราว หรือเป็นที่ที่เอาไว้เก็บเอกสาร ไม่ก็ทำกิจกรรมร่วมกันเท่านั้น
คอนโดมิเนียมมีขนาดเล็กลง
จุดนี้เองก็จะคล้ายกันกับในส่วนของสำนักงานให้เช่า
อย่างที่บอกไปว่าคนอาจจะไม่สบายใจกับการแชร์ริ่งในคอนโดฯ แถมกำลังซื้อก็หดหาย ดังนั้นถ้าคิดจะทำคอนโดฯ ก็ต้องปรับให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน
การปรับให้ตัวคอนโดมิเนียมมีขนาดเล็กลงก็เป็นการทำเพื่อให้รับกับกำลังซื้อเหมือนกัน
การใช้พื้นที่ส่วนกลางก็อาจไม่ได้มีมากมายเท่าก่อนหน้านี้ คนจะหันไปให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ห้องพักอาศัยของตัวเองมากกว่าเดิม
ยิ่งไปกว่านี้คอนโดฯ ราคาสูงๆ เองก็อาจลดน้อยลงไปด้วยเหมือนกัน
ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ต้องบอกเลยว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวใหม่มียอดขายต่ำกว่าที่คาดกันไว้เยอะเลยนะ
อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 31% เท่านั้น ซึ่งเค้ามองว่ามันคืออัตราการขายที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว
ดังนั้นการจะดันให้ตลาดคอนโดฯ เติบโตไปได้ ผู้ประกอบการทั้งหลายเลยต้องกางแผนพัฒนาโครงการในราคาที่ต่ำลงมานิดเพื่อดึงดูดลูกค้ากลุ่ม Real Demand และบรรดานักลงทุนที่ซื้อคอนโดฯ ไว้สำหรับปล่อยเช่าด้วย
ตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัด
ถ้าพูดถึงในเรื่องของการขยายตัวนั้น ช่วงครึ่งปีหลังจากนี้การขยายตัวของตลาดอสังหาฯ จะไม่แตกต่างจากในตอนนี้นัก
แต่แน่นอนว่าตลาดอสังหาฯ แนวราบจะเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งของกลุ่มนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งเป็นพวกบ้านจัดสรรที่อยู่ใกล้กันรถไฟฟ้าที่เริ่มทำการขยายตัวออกไปในกลุ่มจังหวัดปริมณฑลด้วยยิ่งเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ส่วนตลาดพื้นที่ในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ นั้นอาจจะได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม แต่น่าจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าเติบโตขึ้นพรวดพราด
แต่ที่สำคัญคือเมืองท่องเที่ยวชายทะเลทั้งหลายจะยังได้รับความนิยมสูงในแวดวงตลาดอสังหาฯ ต่างจังหวัดแน่นอน
ทั้งพัทยา ระยอง ภูเก็ต ฯลฯ นั้นนับว่าเป็นพื้นที่ฮอตฮิตแต่ไหนแต่ไรมาอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้อาจเริ่มกระจายไปในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมด้วย
แต่ว่าแน่นอนครับ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บริโภคของกลุ่มนี้จะไม่ใช่ชาวไทยมากนักแต่เป็นชาวต่างชาติมากกว่า
ยังไงก็ตามอุปทานในตัวโครงการคอนโดฯ ชายทะเลนั้นมีเยอะอยู่แล้ว จะซื้อไปขายต่อหรือปล่อยเช่าก็เหมาะทั้งสองทาง ดังนั้นตลาดตัวนี้ก็จะยังไปต่อได้เรื่อยๆ แน่นอน
อย่างที่เห็นกัน ตลาดอสังหาฯ บ้านเรามีความเปลี่ยนแปลงอยู่บ้าง แต่ก็เพราะต้องรับกันกับกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ปัจจัยต่างๆ เองก็เข้ามามีส่วนด้วยไม่น้อย
งานนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการเจ้าไหนมีกลยุทธ์รับมือดีกว่ากัน แต่ปลายปีนี้น่าจะสนุกแน่นอน สนุกตอนที่ได้รู้ว่าเจ้าไหนจะฟันรายได้ในช่วงตลาดอสังหาฯ ตกต่ำได้มากกว่ากันนี่แหละ