เรื่องมันเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันหนึ่งครับทุกท่าน...
เป็นบ่ายที่แดดแรงมาก ลงจากรถมาแล้วตาหยี นอกจากอากาศจะทำให้ไม่มีเอเนอจี้แล้วยังง่วงอีกต่างหาก เรื่องนี้ผมเบลมมื้อกลางวันที่กินไปแล้วกัน 5555
แต่เคยแบบง่วงอยู่ดีๆ แล้วตื่นมั้ย?
ผมไม่ได้อยากจะอวยอะไรเค้านะ แต่เพราะแนวราบที่พามาดูกันวันนี้เห็นแล้วมันตื่นเลย สมควรถูก “อวย” ได้แบบไม่อายปากจริงๆ
โครงการ "ศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิต คลอง 4" ของ “ป้า” นี่เอาเรื่องจนผมไม่อยากเรียกป้าแล้ว เรียก “เฮีย” ดีกว่า
เพราะโครงการนี้มันตอบโจทย์เรียลดีมานด์ผู้อยากมีบ้านใหญ่ๆ กว้างๆ สเปซเยอะๆ แบบอ้าแขนออกกว้างเพราะข้าใหญ่โตมากอะไรทำนองนี้
ผมไม่ได้จะพูดว่าตัวโครงการมันหรูหราแมวเห่าอะไรนะ แต่ใหญ่โตในที่นี้มันคือความใหญ่โตแบบ “อบอุ่น” แบบ “ครอบครัว” แบบที่เป็น “บ้าน” มากๆ ครับ
ก่อนจะเข้าเรื่องขอบอกก่อนว่าการมาที่โครงการ "ศุภาลัย พาร์ควิลล์ รังสิต คลอง 4" นี้ไม่ยากเลย เดินทางสะดวกมาก ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนรังสิต-นครนายก มองมาจากฝั่งถนนใหญ่ก็เห็นตัวโครงการเลยครับ แค่ข้ามสะพานบ้านสินทรัพย์รังสิตมาแล้วเลี้ยวขวาก็ถึงทันที ไม่หลงทางแน่รับรองได้
เรื่องอาหารการกินก็นับว่าโอเค เป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างครบครัน ผมไม่ทันสังเกตว่ามีตลาดอะไรแถวนั้นหรือเปล่า แต่ว่าร้านค้าร้านข้าวอะไรทำนองนี้ก็มีอยู่ เหตุเพราะมันอยู่ติดถนนใหญ่และเป็นพื้นที่ชุมชนด้วยแหละ
อ้อ! ในอนาคตจะมีโฮมโปรกับ Mega รังสิตด้วยนะ เตรียมปูเสื่อรอได้เลย
ต้องบอกก่อนว่าแถวนี้ไม่ค่อยมีบ้านขนาดใหญ่ ผมเองก็แปลกใจเหมือนกัน แต่ถ้ามองว่านี่คือโอกาสของป้าเค้าก็นับว่าไม่ได้พูดเกินเลยไปนัก
แถวนี้ก็มีโครงการนี้แหละครับที่เรียกได้ว่าค่อนข้างใหม่สำหรับบ้านขนาดใหญ่ ที่สำคัญไซส์บ้านนั้นเหมาะเหม็งกันกับครอบครัวที่มีลูกมีหลานมากๆ
เหมาะไม่เหมาะยังไง วัน Open House ที่ผมถือโอกาสไปเยี่ยมเยียนเนี่ย มีคนมาดูโครงการกันเพียบเลยนะ
เริ่มแรกเลยผมเจอครอบครัวใหญ่มากันหกเจ็ดคน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทุกคนดูชื่นชอบโครงการกันมาก (มานึกได้ตอนนี้ว่า เออ ขนาดเข้ามาพร้อมกันหกเจ็ดคนช่วงโถงของบ้านยังดูไม่อึดอัดเลยนะ)
ตอนผมจะกลับก็เจอเพิ่มอีกสองครอบครัว ทั้งครอบครัวเล็กและครอบครัวใหญ่ ซึ่งพอผมได้ดูบ้านแล้วก็ไม่แปลกใจเลยที่โครงการนี้จะตกเรียลดีมานด์กลุ่มนี้ได้
พูดถึงตัวโครงการ หลังจากผ่านประตูใหญ่เข้ามาแล้วเราจะเจอส่วนกลางส่วนแรกก่อนเลยครับ มีสนามเด็กเล่น มีศาลานั่งพักเล็กๆ ตั้งเอาไว้ เห็นเค้าบอกว่าที่นี่จะมีส่วนกลาง 2 จุดนะ ส่วนสโมสรขนาดใหญ่จะตั้งอยู่ตรงกลางครับ แต่ยังสร้างไม่เสร็จ อดส่องเลย
ที่นี่เก็บส่วนกลาง 22 บาท/ตร.วา/เดือน จ่ายได้ล่วงหน้า 4 ปี ผมยังบอกไม่ได้ว่าคุ้มไม่คุ้ม เพราะยังไม่เห็นตัวสโมสร แต่การสร้างส่วนกลางไว้สองจุดก็เข้าท่าดีนะ เพราะลักษณะที่ดินของโครงการนี้จะเป็นแนวยาวลึกเข้าไปข้างหลังประมาณกิโลเศษ ถ้าส่วนกลางมันไปกองอยู่ที่เดียวกันหมดมันก็จะมีฝั่งหนึ่งลำบากใช่มั้ยล่ะ พบกันครึ่งทางแบบนี้ก็เข้าท่าดี
แบบบ้านของโครงการนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 แบบครับ เยอะเว่อร์วัง แต่โครงการเป็นบ้านเดี่ยวล้วนเลยนะ ไม่มีบ้านแฝด ทาวน์โฮม มาปะปน
พูดถึงดีไซน์หน่อยแล้วกัน ผมไม่ได้ว้าวอะไรกับภายนอกนัก (แต่ชอบหน้าตาส่วนชั้นสอง แหะๆ) มันเป็นดีไซน์เดิมแบบศุภาลัยสไตล์ที่เอามาปรับใหม่นิดหน่อย เรื่องสงเรื่องสีอะไรทำนองนั้น มันเลยคุ้นตาแต่ก็น่าสนใจเพราะเป็นทรงแบบศุภาลัยที่ดูทันสมัยมากขึ้น
อย่างที่บอกไปว่านี่เป็นโครงการบ้านใหญ่ เพราะงั้นบ้านขนาดเล็กสุดก็ 175 ตร.ม. แล้วอ่ะ ส่วนใหญ่สุดคือ 318 ตร.ม. นะ ด้านราคานั้นจะอยู่ที่ 5.45-10 ล้านบาทครับ
แบบบ้านทั้ง 6 แบบจะมีชื่อต่างกันไป แต่ผมจำไม่ค่อยได้หรอก ฟังดูแล้วมันชวนให้คนสับสนได้ง่ายๆ คือ ศุภราช, ศุภกานต์, ศุภจิตรา (ใหม่), ศุภกฤต, ศุภฤทัย และ ศุภฤทธิ์ ผมให้เวลาจำสามนาที ยอมใจเซลส์โครงการนี้ที่จำได้แบบไม่สับสน 5555
สามแบบแรกจะมีขนาดใหญ่หน่อยครับ สามแบบหลังจะน้อยลงมา ที่สำคัญคือวัสดุที่ใช้ของบ้านแต่ละแบบจะมีเกรดที่แตกต่างกันนะ แต่ว่ากระจกนี่จะเหมือนกันทุกแบบครับ ขึ้นอยู่กับเราแหละว่าพอใจกับแบบไหน
สองแบบบ้านที่ผมได้ดูคือพี่ใหญ่ศุภราชกับพี่รองศุภกานต์
คุณพี่ศุภราชจะเป็นพี่ใหญ่ที่มีขนาดใหญ่สุด เข้ามาแล้วผมชอบมาก ปลื้มมาก มันกว้างแล้วก็โปร่ง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็มีส่วนช่วยด้วยแหละ เดินเพลินสุด สำรวจได้ทุกซอกทุกมุม
การตกแต่งของเค้าจะเน้นไปที่การใช้กระจกเข้ามาเสริม จากที่ตัวบ้านมันกว้างอยู่แล้วเลยยิ่งทำให้ดูกว้างขึ้นกว่าเดิมไปอีก เนี่ย ฉลาดอ่ะ
ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดครับ แต่ผมเฉยๆ กับตัวครัวของบ้านคุณพี่ศุภราช แต่มันมีข้อดีตรงที่มีพื้นที่เหลือในครัวเยอะนั่นแหละ อ้อ! เครื่องซักผ้าจะตั้งอยู่ในครัวนะครับ มีพื้นที่เล็กๆ ให้วาง อยู่ติดกับประตูที่เปิดออกไปเป็นพื้นที่หลังบ้านได้เลย แต่ผมว่าเปิดประตูมาต้องระวังกันหน่อยล่ะ ถ้าไม่ระวังมีเปิดชนกันได้อยู่
ชั้นล่างยังมีห้องนอนอีกห้องด้วยครับ แล้วก็มีห้องสำหรับแม่บ้านด้วย มีห้องน้ำเล็กๆ ของแม่บ้านแยกไว้ให้ต่างหากอีกที
ห้องนอนแม่บ้านจะอยู่ใกล้ตรงส่วนที่จอดรถ ตรงนี้จะสามารถจอดได้สองคัน แล้วก็มีพื้นที่ให้เก็บของอย่างพวกไม้กวาด สายยาง ฯลฯ ตรงส่วนของที่จอดรถเลย เป็นการใช้พื้นที่ได้เหมาะสมดี
กลับมาพูดถึงในตัวบ้านต่อ พื้นที่ด้านบนอันนี้อยากถ่ายมุมกว้างมากแต่วันที่ไปเค้าจัดงานแล้วตั้งเก้าอี้แบบ Social Distancing ไง มันเลยเต็มไปหมด ผมเลือกถ่ายบางส่วนมาให้แทน แต่คือด้านบนจะมีพื้นที่โล่งเยอะมากชนิดจัดปาร์ตี้ย่อมๆ ได้เลย
ห้องนอนก็กว้างดีครับ ผมพอใจกับ Master Bedroom มากเพราะทำ Walk-in Closet เชื่อมกับห้องน้ำแบบสามต่อเลย ห้องน้ำก็แยกโซนเปียกโซนแห้งและมีอ่าง Jacuzzi ให้แช่พร้อมเสร็จสรรพ
ระเบียงก็ถือว่ากว้างและยาวตามมาตรฐาน ช่วงเย็นๆ มันน่าเอาเตาหมูกระทะมาย่างรับลมจริงๆ 5555
ต่อมาผมขอพูดถึงคุณพี่ศุภกานต์สักนิดครับ อดไม่ได้จริงๆ
ผมเทใจให้พี่ใหญ่ศุภราชนะ แต่บางอย่างผมก็รู้สึกว่าพี่ศุภกานต์เค้าโอเคกว่าอ่ะ
รูปแบบบ้านจะไม่ต่างกันครับ ผมบอกตรงนี้ก่อนว่าบ้านทุกหลังจะเป็นบ้านแบบ 4 ห้องนอน และมีห้องนอนด้านล่างทุกหลังเลย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะปรับเป็นห้องอะไรให้ตอบโจทย์ครอบครัวเรามากที่สุด เรียกได้ว่ามีพื้นที่สำหรับการทำงานมากขึ้น และพื้นที่ครัวของบ้านทุกแบบก็ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ เหมาะกับคนสมัยนี้ที่อยู่บ้านทำอาหารเองกันมากขึ้น
แต่นี่แหละคือสิ่งหนึ่งที่ผมชอบพี่รองศุภกานต์มากกว่าพี่ใหญ่ศุภราช ผมรู้สึกว่าครัวของพี่รองนี่เข้าท่ากว่า มันไม่นับว่าโล่งเกินไป การจัดวางองค์ประกอบก็ดีด้วย ที่สำคัญประตูจะเป็นแบบบานสไลด์ครับ แต่ในบ้านตัวอย่างยังไม่ได้ใส่มาให้นะ
แล้วก็สเปซว่างๆ ด้านบนผมก็รู้สึกชอบมากกว่า บอกไม่ถูก แต่รู้สึกว่ามันเข้าท่ากว่าเมื่อลองชั่งน้ำหนักวัดกันแล้ว
แต่ไงก็ตามสิ่งที่ผมไม่ชอบนักในตัวพี่รองศุภกานต์คือบันไดครับ
ผมรู้สึกว่าบันไดของบ้านรูปแบบนี้มันทึบไปนิด เมื่อเทียบกับพี่ใหญ่ศุภกานต์แล้วฝ่ายหลังจะตั้งบันไดไว้โดดๆ เลย มันเลยดูไม่เหมือนกับการบีบเราเท่าไร เหมือนมีพื้นที่บันไดให้เดินเคียงกันได้ไม่อึดอัดครับ
บอกไปตอนต้นแล้วว่าโครงการของ “ป้า” ครั้งนี้มันน่า...จริงๆ ครับ รูปแบบมันไม่ได้หรูหราอะไรเลย แต่มันดูเป็นบ้านอ่ะ เป็นบ้านที่โล่งๆ โปร่งๆ แต่อบอุ่นไงไม่รู้ ผมมองว่าใครที่มีครอบครัวใหญ่น่าจะชอบแบบบ้านของเค้านะ
ที่สำคัญการจัดสเปซและการวางองค์ประกอบพื้นที่ใช้สอยนั้นก็ทำได้ดีทีเดียว หยิบจับเอาที่ว่างเล็กๆ น้อยๆ มาแทรกส่วนประกอบบางอย่างเข้าไปให้เราสามารถใช้พื้นที่พวกนั้นได้อย่างเต็มที่แบบไม่ต้องปล่อยให้มันไร้ประโยชน์
นับจากวันที่พรีเซลส์ไปช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั้น จาก 375 หลัง ป้าขายไปได้ประมาณ 40% ในส่วนของเฟสแรกผมว่าภายในปีนี้ก็น่าจะขายหมดแล้วล่ะ บ้านส่วนแรกๆ ที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าโครงการขึ้นป้าย Sold กันไปหลายหลังแล้ว เพราะงั้นใครอยากได้บ้านทำเลดีๆ อาจต้องรีบไปจองแล้วล่ะ วันๆ หนึ่งมีคนเข้ามาดูเยอะจริง
แล้วก็นะ ผมถามเค้าไปแล้วว่าถ้าอยากได้บ้านตัวอย่างนี่จะขายมั้ย คำตอบคือ “ตอนนี้ยังไม่ขายครับ” แน่ะ แอบเสียดาย แต่ผมจ้องตรงคำว่า “ตอนนี้” นะ หมายความว่าในอนาคตอาจจะขายหรือเปล่าหนอ รอดูกัน แหะๆ