เรียกได้ว่ามาแนวใหม่แปลกแหวกแนวเลยทีเดียวสำหรับ
"Robinhood" แอปส่งอาหารน้องใหม่จากธนาคารไทยพาณิชย์
ต้องยอมรับกันจริง ๆ แหละว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่บ้านเรามีการเติมโตจริง ๆ เหตุผลหลักก็คือกระแส New Normal ที่มีการสั่งอาหารออนไลน์มากขึ้น
แม้แต่บรรดาร้านค้าต่าง ๆ ที่เคยมีหน้าร้านแล้วขายดิบขายดี พอโควิดมาก็ต้องหันมาพึ่งตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น จนบางร้านนั้นยอดขายผ่านการส่งมากกว่ายอดขายหน้าร้านซะอีก
จะเห็นได้จากสงครามการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของม้าไวสายกินหลากสี ทั้งเขียวเข้ม เขียวอ่อน และหมีน้อยสีชมพู ที่ขยันออกโปร โค้ดส่วนลด มาดึงดูดให้คนหันไปใช้บริการของตัวเอง
ซึ่งนี่แหละเลยเป็นจุดที่ทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์เค้าขอบุกเข้ามาร่วมสังเวียนนี้ด้วย ซึ่งถือเป็น "ฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย" ที่ก่อตั้งจากคนไทยเพื่อคนไทยจริง ๆ
ที่ผมบอกว่าเค้าออกมาเพื่อคนไทยจริง ๆ นั่นก็เพราะเวลาเราสั่งอาหารเราก็แค่เลือกร้านที่ใช่ อาหารที่ชอบ ราคาถูกใจ แล้วก็สั่งใช่มั้ยล่ะ
แต่สิ่งที่พวกเราผู้บริโภคไม่รู้กันก็คือ
ภาระที่ร้านค้าจะต้องจ่ายให้กับม้าไวทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวกับเรา แต่ร้านค้าเค้าก็บ่นกันระนาว
ผมเคยถามเพื่อนที่เปิดร้านอาหารแบบไม่มีสาขา ไม่มีแฟรนไชส์ ว่าที่ร้านเลือกใช้บริการเจ้าไหน คิดค่าใช้บริการยังไง คำตอบที่ได้ก็เรียกว่าช็อคอยู่เหมือนกัน
เพราะคำตอบคือบรรดาฟู้ดเดลิเวอรี่ที่มีอยู่ในตลาดมีการเก็บ GP หรือส่วนแบ่งจากยอดขายกันอย่างโหดเหี้ยมตั้งแต่ 25-35% นี่ยังไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7% อีกด้วยนะ
ซึ่งข้อแม้ที่น่าสงสารที่สุดของร้านค้ารายเล็กแบบเพื่อนผมนี้ก็คือการถูกกดขี่ให้เลือกสังกัดม้าไวแค่ค่ายเดียวเท่านั้น เพราะไม่งั้นก็จะเสียค่าส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นไปอีก!!!
ด้วยสตอรี่ที่ผมเล่ามานี้เลยเป็นที่มาที่ผมว่า Robinhood ตอบโจทย์กับพ่อค้าแม่ขายร้านอาหารขนาดเล็กและ SME มากจริง ๆ
เพราะจุดขายที่เค้าเคลมหนักตั้งแต่ยังไม่เริ่มให้บริการก็คือ การไม่เก็บค่าธรรมเนียมจากร้านค้า!!!
อ่านไม่ผิด... เค้าไม่เก็บค่าธรรมเนียมจากร้านค้าจริง ๆ เว่ย ที่สำคัญไม่เก็บค่าแรกเข้าจากร้านอาหารด้วย
แต่ค่าธรรมเนียมบริการส่งสำหรับคนสั่งยังต้องจ่ายเหมือนเดิมนะ 555
ความน่าสนใจอีกอย่างของ Robinhood ก็คือ.. พวกเรามักจะคุ้นตากันอยู่แล้วว่า "แม่มณี" เป็นบริการจ่ายเงินที่ได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ และเปิดให้บริการมานานแล้ว
ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการนี้กับทาง SCB ก็ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ซึ่งนั่นก็รวมถึงธุรกิจแบบ "ร้านอาหาร" ด้วย
นี่เลยเป็นจุดแข็งที่ทำให้ Robinhood มีฐานข้อมูลของร้านอาหารที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกได้โดยง่าย แต่ถ้าใครเป็นน้องใหม่และยังไม่เคยใช้แม่มณีมาก่อนก็สมัครได้แบบฟรี ๆ เช่นกัน
ซึ่งนั่นเป็นข้อดีที่ร้านค้าส่วนใหญ่น่าจะชอบ เพราะเค้าก็การันตรีว่าจะมีการจ่ายเงินเข้าร้านค้าได้ภายใน 1 ชั่วโมง ไม่ต้องรอเงินจากระบบเหมือน Food Delivery เจ้าอื่น ๆ
นอกจากนี้การร้านค้าไหนร่วมกับ Robinhood แล้วมีผลประกอบการที่ดี ก็เท่ากับว่าเป็นการสร้าง Statement ที่ดีให้กับตัวเองเช่นกัน
และอย่างที่บอกว่า SCB จะสามารถรับรู้ผลประกอบการของเราผ่านทาง Robinhood ได้ ถ้าร้านเรามีแนวโน้มที่ดี ทาง SCB ก็น่าจะพร้อมสนับสนุนสินเชื่อให้เราขยายกิจการต่อไปได้ในอนาคต
ซึ่งจุดนี้แหละที่ผมมองว่าน่าจะเป็นแรงดึงดูดที่ทำให้ร้านอาหารหลายๆ เจ้า อยากจะมาร่วมวงกับแอปฯ Robinhood ซึ่งมีธนาคารยักษ์ใหญ่หนุนหลังอยู่
ถ้าถามผมว่าม้าไวคนใหม่นี้จะสู้กับคู่แข่งม้าไวค่ายอื่น ๆ ได้แค่ไหน!?
ส่วนตัวผมว่าน่าจะไปได้สวยเลยล่ะ เพราะถ้าทาง Robinhood มีสามารถให้บริการในรูปแบบที่ได้กล่าวอ้างไว้จริง ร้านค้าที่ไหนจะไม่ชอบ
สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ร้านค้ารายย่อยเหล่านั้นจะกล้าพอไหมที่จะก้าวออกจากม้าไวค่ายเดิมมาเสี่ยงกับเจ้าใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงการันตรีมากพอ
ซึ่งอันนี้ก็คงไม่มีใครตอบได้อยู่ดีเพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต 555
แต่จากข้อมูลเชิงธุรกิจเราจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าทาง SCB มีความร่วมมือกับ GET ในการเป็นพาร์ทเนอร์ด้านธุรกิจและการเงินอยู่แล้ว
บวกกับข่าวที่ว่าจะได้ม้าไวอย่าง Skootar มาร่วมวงด้วยอีก นั่นก็เท่ากับว่าการให้บริการของ Robinhood ก็น่าจะทำได้ดีไม่แพ้เจ้าอื่น ๆ ในตลาดเลย
ซึ่งในอนาคตถ้าไปได้สวยการรับ Driver มาวิ่งเป็นม้าไวของ Robinhood โดยเฉพาะก็คงจะมีเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ เช่นกัน
สำหรับเเพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ภายใต้ชื่อ “Robinhood” จะดำเนินการภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Purple Ventures) บริษัทน้องใหม่ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ที่ตั้งขึ้น
โดยมีงบการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งหากประสบความสำเร็จและเติบโตได้เป็นอย่างดี ในอนาคตอาจจะแยกบริษัทออกไป
เริ่มต้นจะมีพนักงานดูเเลราว 40-50 คน (ไม่รวมคอลเซ็นเตอร์) ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เรามั่นใจว่าเค้าไม่ได้มาเล่น ๆ และเป็นการลงทุนที่จริงจังเเละหวังผลระยะยาวได้จริง ๆ
ส่วนผู้ใช้อย่างเราก็อดใจรอกันอีกหน่อย เพราะทาง SCB ประเมินว่า Robinhood จะใช้งานจริงได้ภายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับม้าไวสายกินใหม่อย่าง Robinhood ส่วนตัวแล้วผมว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับร้านค้ารายย่อยที่ต้องเลือกใช้บริการแค่ค่ายเดียวอย่างมากเลยล่ะ
เพราะนอกจากจะช่วยให้เราได้รายได้จากการส่งเดริเวอรี่มากขึ้นกว่าการขายหน้าร้านแล้ว ค่ายนี้ยังไม่กินส่วนแบ่งจากยอดขายของเราอีกด้วย
อีกอย่างคือการร่วมมือกับธนาคารยักษ์ใหญ่อย่างไทยพาณิชย์ ถ้าเรามีผลประกอบการที่ดีก็เท่ากับว่าเป็นการสร้าง Statement ไปในตัว
และท้ายสุดมันคือแพลตฟอร์มของคนไทย 100% เราก็ควรจะช่วยกันสนับสนุนให้เค้าเติบโตอยู่แล้ว ยังไงก็ต้อง #ไทยช่วยไทย นี่เนอะ 555
ไม่แน่ในอนาคต "Robinhood" ฮีโร่สายกินใหม่นี้อยากจะไปวิ่งอยู่ต่างประเทศเหมือนม้าไวสีอื่น ๆ ที่เข้ามาในไทยก็ได้
ถ้าใครที่เปิดร้านอาหาร เป็นเป็นร้านค้ารายย่อยอยู่ในตอนนี้ก็ลองไปสอบถามหรือสมัครกันไว้ที่
คลิกที่นี่ ได้เลยครับผม :)