เผลอแป๊บเดียว รถไฟฟ้าสายสุขุมวิทก็เปิดมาถึงสถานีวัดพระศรีมหาธาตุแล้ว
ประกอบกับเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัวสองคอนโดใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ของพี่อัศวินเค้ามา พิกัดทำเลก็อยู่ในช่วงสถานีเปิดใหม่ซะด้วย
สองโครงการของพี่อัศวินที่ผมกำลังพูดถึงอยู่คือ "ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน และ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่" นั่นเองถือว่าเป็นสองโครงการแรกที่พี่อัศวินเค้าเปิดตัวหลังคลาย Lockdown เลยด้วยนะ เลยเป็นโอกาสเหมาะจริง ๆ ที่ผมจะมาพูดถึงทำเลโครงการองเค้ากัน แต่วันนี้ผมขอยกให้เป็น EP ของ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ (ไนท์บริดจ์ ไพร์ม รัชโยธิน มีอีกบทความนะ)
แม้ผมจะเกริ่นว่ารถไฟฟ้าสายสุขุมวิทนั้นเปิดให้ใช้บริการมาถึงสถานี วัดพระศรีมหาธาตุแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงสถานีที่ใกล้ที่สุดของโครงการ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ นะ
เพราะสถานีที่ใกล้ที่สุดของเค้าคือ สถานีสายหยุด ที่เป็นสถานีในอนาคต ถัดมาจากสถานีวัดพระศรีฯ อีก 2 สถานีครับ
ตัวโครงการไม่ได้ติดถนนเส้นหลักที่รถไฟฟ้าวิ่งนะ (ถนนพหลโยธิน) แต่ระยะทางก็ไม่ได้ถึงกับไกลมากนักน่าจะสักราว ๆ 900 เมตร จากสถานีสายหยุด ไปถึงโครงการ แน่นอนครับ ระยะทางแบบนี้ไม่เหมาะกับการเดินเท้าสุด ๆ
ถึงตัวโครงการไม่ได้ติดถนนพหลโยธิน แต่ติดกับถนนเทพารักษ์ จะอยู่ในเขตสายไหมนะครับ ข้อดีคือ เดินทางสะดวกใช้ได้เลยนะ เพราะเท่ากับว่าสามารถเข้าออกได้ถึง ทั้งถนนพหลโยธิน และถนนเทพารักษ์ ถนนวัชรพล ถนนสุขาภิบาล และยังมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ อยู่ใกล้ ๆ ด้วยนะ
มาทางถนนหพลโยธินให้สังเกตสถานี BTS สายหยุด หรือ บิ๊กซีสะพานใหม่ก็ได้ แล้วเลี้ยวเข้าไปทางเส้นเทพารักษ์เพื่อเข้าสู่โครงการ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ ได้เลย
ทำเลแถวนี้ต้องบอกเลยว่าเพื่อนบ้านก็เยอะพอสมควรครับ ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าแอบคิดไปเองว่ามันจะไกลไปหรือเปล่า จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกใกล้ ๆ บ้างมั้ยเนี้ย?
ซึ่งพอเข้ามาถึงตัวโครงการแล้วต้องรีบเปลี่ยนความคิดเลยครับ ร้านอาหารเยอะมากๆ (แทบจะตลอดทางเลยทีเดียว) ที่สำคัญบริเวณปากทางเข้ายังมีห้างใหญ่อย่างบิ๊กซี สะพานใหม่อีกด้วย ซึ่งถ้าขยับไปอีกไม่ไกล นั่งรถไฟฟ้าไปอีกสถานี (สถานีสะพานใหม่) ก็จะมีตลาดยิ่งเจริญ ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่มาก ๆ มีทั้งของกินและของใช้ต่าง ๆ ให้ไปเลือกฝากท้องหรือช้อปกันได้สบาย ๆ เลย
กลับเข้ามาที่ตัวโครงการกันก่อน ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ตามข่าวน่าจะพอทราบกันอยู่บ้างว่าแบรนด์ The Origin Phahol-Saphanmai (ดิ ออริจิ้น พหลฯ-สะพานใหม่) คือแบรนด์ที่พี่อัศวินเค้า Redesign มาจากแบรนด์ Notting Hill Hyde Park-สะพานใหม่
โดยดิ ออริจิ้น เป็นแบรนด์ที่สร้างมาเพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือกลุ่ม First Condo Buyer (กลุ่มคนที่เพิ่งซื้อคอนโดเป็นหลังแรก) ปีที่แล้วผมมีโอกาสได้ไปร่วมงานเปิดตัวอยู่เหมือนกัน ซึ่งดิ ออริจิ้น จะมีด้วยกันทั้งหมด 6 โครงการใน 6 ทำเล ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ นั่นเองครับ
ด้วยความที่เป็นคอนโดเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งซื้อคอนโดเป็นหลังแรก แน่นอนครับว่าจุดเด่นหลัก ๆ หนีไม่พ้นเรื่องราคาที่ค่อนข้างเบาครับ ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ เริ่มต้นแค่ 1.85 ล้านบาทเท่านั้น ตามคอนเซ็ปต์ของกลุ่มลูกเค้าแหละ!!
ตัวโครงการจะมาในรูปแบบของ High Rise ครับ มีส่วนสูง 14 ชั้น 1 อาคาร ยูนิตทั้งหมด 536 ยูนิต มีแบบห้องให้เลือกมากถึง 6 แบบราคาเริ่มต้นตามนี้เลยครับ (ทราบมาว่าตอนนี้ขายไปได้แล้วราว ๆ 65% แล้วนะ)
1 Bedroom 23.5 ตร.ม. เริ่มต้น 1.85 ล้านบาท
1 Bedroom 26.0-34.0 ตร.ม. เริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
1 Bedroom (Smart Closet) 26.0 ตร.ม. เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
1 Bedroom Plus 34.0-34.5 ตร.ม. เริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
1 Bedroom Duo 30.0-49.0 ตร.ม. เริ่มต้น 3.89 ล้านบาท
2 Bedroom 41.5-65.5 ตร.ม. เริ่มต้น 3.49 ล้านบาท
(ข้อมูลราคา ณ เดือนมิถุนายน 2563)
โครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วด้วยครับ ก่อนที่จะไปดูห้องตัวอย่าง ขอบอกไว้ก่อนว่าตัวห้องโครงการเค้าจัดมาให้ในรูปแบบ Fully fitted จะมีฐานเตียง 5 ฟุตพร้อม wireless charger ชั้นวางทีวี ชั้นวางของและรองเท้า เคาท์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้าเครื่องดูดควัน Built In ตู้เสื้อผ้า ประตูบานสไลด์ 3 ตอนก็มีให้ครบเลย
เอาล่ะ ไปชมห้องตัวอย่างของเค้ากัน ห้องแรกเป็นห้องขนาด 1 Bedroom 26 ตร.ม. Smart closet (ซึ่งห้องนี้เป็นห้องที่ขายดีที่สุดของโครงการด้วย) เปิดเข้าไปจะเจอโซนห้องครัวก่อนเลย ซึ่งทางโครงการจะมีชุดเคาท์เตอร์และเครื่องดูดควันให้ตามที่ผมบอกเอาไว้ด้านบนเลยครับ ถัดไปอีกนิดคือ Living zone และห้องนอนตามลำดับครับ ห้องก็บอกอยู่แล้วว่า Smart closet แน่นอนครับ แบบห้องนี้จะมีทางเดินบริเวณโซนห้องน้ำและห้องแต่งตัวให้ด้วย ส่วนเครื่องปรับอากาศจะมีแถมกับตัวห้อง 1 ตัวครับ
อีกอย่างคือ พี่อัศวินเค้ามีความใส่ใจกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างพวกวงกบบานเลื่อนคือทางโครงการออกแบบในขนาบเรียบไปกับพื้น หมดปัญหาเรื่องสะดุดประตูไปเลย
ต่อมาเป็นห้อง 1 Bedroom Plus 34 ตร.ม. ห้องนี้จะได้ชุดเฟอร์นิเจอร์ Built in มาแบบห้องแรกเลยครับ (แต่ไม่มี Smart closet นะ) จะมีความพิเศษมาหน่อยตรงที่จะมีเฟอร์นิเจอร์บางตัวพิเศษกว่าและจะมี Smart Mirror ให้ด้วยนะ (Smart Mirror นี่ทางโครงการเค้าจะให้สำหรับห้องที่มีขนาดตั้งแต่ไซส์34 ตร.ม.ขึ้นไป) ห้องไซส์นี้จะมีเครื่องปรับอากาศให้ 3 ตัว
อย่างในห้องตัวอย่างจะมีโต๊ะทานข้าวที่สามารถพับเก็บได้ เพิ่มเข้ามาให้ด้วยครับ ซึ่งแบบห้องนี้ถ้าเดินเข้าไปเราจะเจอโซนห้องนั่งเล่นและโซนครัวก่อน โดยที่โซนครัวจะอยู่ถัดไปถึงจะเป็นห้องนอนและห้องอเนกประสงค์
ห้องตัวอย่างที่สาม 1 Bedroom 34 ตร.ม. ห้องนี้มีความพิเศษกว่าแบบอื่นมาหน่อยครับ เพราะจะเป็นห้องที่มีแค่บริเวณชั้น 3 เท่านั้น (ชั้น 3 เป็นชั้นของส่วนกลางด้วย) ถึงจะเป็นห้องขนาด 34 ตร.ม. ก็จริงอยู่ แต่ขนาดภายในห้องจะมีพื้นที่ 30 ตร.ม. ส่วน 4 ตร.ม. ที่เหลือจะเป็นพื้นที่ในส่วนของระเบียง ที่เชื่อมสู่สระสระว่ายน้ำได้เลย ข้อดีคือเราได้ระเบียงกว้างและวิวสระว่ายน้ำ เดินเข้าส่วนกลางสบายบรื๋อ (แต่ห้องนี้จะให้เครื่องปรับอากาศแค่ 2 ตัวนะ)
ห้องสุดท้ายแล้วครับสำหรับห้องตัวอย่างในวันนี้ ห้องนี้เป็นห้องขนาด 41-42 ตร.ม. 2 ห้องน้ำ 2ห้องนอน ตัวห้องนี้จะมีครัวที่เป็นครัวปิดให้ด้วยนะ มีการจัด Space แบบชัดเจนมาก ๆ เข้าไปเราจะเจอโซนห้องนั่งเล่นและครัวปิดก่อน มี walk in closet เข้าสู่ตัวห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ซึ่งตัวห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวครับ ส่วนห้องนอนเล็กจะมีห้องน้ำแยกออกมา (ติดกับทางเดินและโซนครัว) จะใช้เป็นห้องน้ำสำหรับแขกที่เข้ามาได้ สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ห้องนี้ทางโครงการจะมีเครื่องปรับอากาศแถมมาให้ถึง 3 ตัวเลย
ดูห้องตัวอย่างแล้ว แว๊บมาดูส่วนกลางกันบ้าง ผมมีหยอด ๆ ไว้ตอนพูดถึงห้องตัวอย่างที่ 3 ส่วนกลางของโครงการจะมีอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ซึ่งส่วนกลางของเค้าถึงจะไม่ได้ดูใหญ่อลังการมากมาย แต่ก็ถือว่าครบครันครับทั้ง สระว่ายน้ำ สวนสีเขียว ฟิตเนส Working Space ส่วนชั้นบนสุดก็มีส่วนกลางเหมือนกัน จะเป็น Private Party และ กับ Co Kitchen ให้ด้วย
อีกอย่างที่ผมชอบก็คือด้วยความที่โครงการเน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งกลุ่มคน Gen นี้เค้ามีอาชีพใหม่ ๆ กันอย่างขายของออนไลน์ Youtuber ฯลฯ ซึ่งโครงการเค้ามีจัดส่วนกลาง มีไฟมีฉากเอาไว้ให้กลุ่มคนที่ทำอาชีพเหล่านี้ด้วยนะ เจ๋งดีแฮะ
ผมขออนุญาตสรุปเลยแล้วกันนะ เพราะโครงการออกแบบมาเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า New Gen และ First Condo Buyer ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้ดูมา ถือว่าตอบโจทย์เลยนะ ข้อเสียอาจจะดูเหมือนไกลไปนิด สำหรับคนที่ชีวิตติดเมืองอาจจะหักคะแนนตรงนี้ไป แต่เพราะมีสถานีรถไฟฟ้า (ที่กำลังจะเปิดเร็ว ๆ นี้) ก็ถือว่าไม่ได้ยุ่งยากมากนักสำหรับการเดินทางเข้าเมือง แต่ถ้าใครใช้รถส่วนตัวก็น่าจะชอบกันนะ อย่างที่บอกว่ามันสะดวกเพราะเดินทางได้หลากหลายเส้นถนน ส่วนเรื่องปากท้องอยู่แถวนี้ไม่มีอดร้านรวง ห้าง ตลาด มีครบครัน
ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจ ตอนนี้สามารถเดินทางเข้าไปยังตัวโครงการได้เลยนะ ไปชมห้องชมโครงการกันได้ สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ ราคาไม่แรงมาก ใครจะสอยอย่าลืมกระซิบบอกว่าอ่านบทความมาจากเพจคอนโดติดดอยกันด้วยล่ะ (หยอก ๆ ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียนะ5555) สำหรับวันนี้ผมคงต้องขอจบ โร้ดทู ดิ ออริจิ้น พหลฯ -สะพานใหม่ ไว้แต่เพียงเท่านี้ คราวนี้ผมจะพาไปชมทำเลโครงการไหนอีก ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับผม!!