วันนี้ฤกษ์งามยามดี ผมตัดสินใจเคลื่อนทัพเข้าไปชมโครงการใหม่หมาดๆ ของพี่ "อัศวิน" อย่าง "KnightsBridge Prime Ratchayothin" ทันที
ไม่เกริ่นนำใดๆ ทั้งสิ้นเลยเรอะ!!!
เฮ้ยยย ไม่ต้องเกริ่นกันแล้ววว เพราะผมคิดว่าหลายๆ คนน่าจะอดใจรอไม่ไหวอ่ะ ความจริงไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงอะไรมากเลยนะเนี่ย
โครงการนี้มันเด่นมากๆ เรื่องการเดินทางเลยแหละ เป็นโชคดีด้วยที่ตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทยอยเปิดให้บริการกันแล้ว ซึ่งเท่าที่ผมเห็นมาด้วยตาตัวเอง ตามแนวรถไฟฟ้าเส้นนี้ไปจะเจอแต่พี่อัศวินขึ้นเพียบเลย ไม่ว่าจะโครงการใหม่หรือโครงการเก่า เรียกได้ว่าตั้งป้อมรักษาการณ์กันตลอดเส้นเลยทีเดียว
ด้านการเดินทาง...ส่วนที่สะดวกที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้น "รถไฟฟ้า" ครับ
เพราะจุดเด่นของโครงการนี้มันคือการที่เค้าเป็นคอนโดย่านรัชโยธิน ติดรถไฟฟ้านี่แหละ
ตัวโครงการห่างจากรถไฟฟ้าสถานีพหลโยธินเพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่ผมชอบมากคือบันไดขึ้นสถานีตรงฝั่งตัวโครงการมันเป็นบันไดเลื่อนครับ ไม่ต้องก้าวขึ้นบันไดสถานีชันๆ ให้เหนื่อย
แล้วก็ในอนาคตอันใกล้นี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วย ได้ยินมาว่าจะมี Sky Walk เชื่อมต่อกันด้วยนะ
โครงการนี้ติดถนนใหญ่ เพราะงั้นใครที่มีรถยนต์ก็สะดวกไปเลย ส่วนใครที่จะเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ใกล้ๆ กันมีเต้นท์เขียวสำหรับรอรถเมล์ครับ หรือจะซิ่งพี่วินแมงกะไซก็มีให้บริการกัน
พูดถึงในส่วนของตัวทำเลนี่ต้องยอมรับนะว่าก่อนหน้านี้มันเงียบๆ เหงาๆ ไม่ต่างจาก "แดนเนรมิต" ที่ปิดตัวลงเลย แต่พอมีรถไฟฟ้ามาเท่านั้นแหละ ย่านนี้ก็กลับมาฮอทอีกหน
สำหรับเรื่องปากท้องของกินนั้น...อย่างที่บอกไปว่าก่อนหน้านี้ว่าย่านนี้มันค่อนข้างเงียบเหงา สถานที่สำคัญๆ ทั้งหลายชอบโดดข้ามโซนนี้ไปแบบงงๆ ทำให้ร้านรวงไม่ได้มากอะไร แต่ไม่มากมายก็ใช่ว่าไม่มีนะ เพราะมันก็มีร้านเล็กๆ น้อยๆ ผุดอยู่ประปราย ทั้งร้านนั่งแอร์หรือร้านข้างทาง
แต่ลูกบ้านโครงการนี้โล่งใจได้อย่างหนึ่งคือฝั่งตรงข้ามตัวโครงการห่างกันเพียงถนนกั้นนั้นมี 7-Eleven แบบสาขาใหญ่ตั้งไว้ให้บริการกันอยู่ครับ เดินขึ้นบันไดเลื่อนบีทีเอสไปลงอีกฝั่งหนึ่งเพื่อซื้อของก็ได้แล้ว
แม้โซนนี้จะดูสงบสุขไปหน่อย (เอ๊ะ?) แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลย ความจริงแม้สถานที่สำคัญๆ อย่างห้างสรรพสินค้าหรือสถานศึกษามันข้ามโซนนี้ไปแต่ก็ไม่ได้ห่างไปไกลอะไรมาก นั่งบีทีเอสสถานีสองสถานีก็ถึงแล้ว เซนทรัลลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์, เมเจอร์รัชโยธิน, Avenue รัชโยธิน, โลตัส ล้วนอยู่ใกล้ๆ ทั้งนั้นครับ บางที่เดินไปได้เลยด้วยซ้ำ
แต่ว่าจุดเด่นที่สุดของย่านนี้มันคือการอยู่ใกล้กับแยกรัชโยธินนี่แหละ จากตัวโครงการมาก็ห่างจากแยกรัชโยธินเพียง 200 เท่านั้น ทำให้การเดินทางมันคล่องตัวมากกว่าย่านอื่นๆ
จะลัดเลาะไปถนนรัชดา ถนนวิภาวดีรังสิต หรือถนนลาดพร้าวก็ได้ ใกล้ทางด่วนโทลล์เวย์อีกต่างหาก ขับรถไปไม่ลำบากอะไร ถึงได้บอกไงว่ามันเด่นที่เรื่องของการเดินทาง!
ลองมาดูตัว Product ของพี่อัศวินเค้ากันบ้างครับ
"KnightsBridge Prime Ratchayothin" เป็นคอนโดฯ High Rise สูง 35 ชั้น ส่วนห้องพักอาศัยนั้นจะมีทั้งหมด 333 ยูนิต เรื่องของยูนิตต่อชั้นนั้นมีสูงสุดแค่ 19 ยูนิตเอง นับว่าไม่ได้มากได้มายอะไรเลย
ส่วนรูปแบบของห้องพักอาศัยจะมีห้องให้เลือกแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอนพลัส และ 2 ห้องนอน ขนาดห้องนั้นเริ่มต้นที่ 22.5 – 54.4 ตร.ม. ครับผม สำหรับตอนนี้คือสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วล่ะ เริ่มมีคนย้ายเข้ามาเรียบร้อยแล้ว
อ้อ! ลืมบอกไปว่าโครงการนี้ติดกันกับพี่อัศวินอีกตัวเลยนะ เป็นโครงการ "Knightsbridge Space Ratchayothin" สร้างแบบติดกันเลย อยู่ทางฝั่งซ้ายมือครับ
กลับมาพูดถึง "KnightsBridge Prime Ratchayothin" ต่อ โครงการนี้เค้าออกแบบด้วยคอนเซปต์ Vertical Architecture ครับ มันคือการเน้นเส้นแนวตั้งตรง Facade อาคาร ถ้าลองเงยหน้ามองไปจะเห็นว่าตัวอาคารสูงเด่นผอมๆ เพรียวๆ เลยแหละ
ส่วนตัวผมวนเวียนอยู่ตรงจุด Automatic Parking ของเค้านานหน่อย เพราะรู้มาว่าโครงการนี้ใช้ Automatic Parking มาตรฐานเดียวกับมหานคร, ไอคอนสยามเลยนะ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีข้อดีตรงที่เราไม่ต้องจำว่าจอดรถตรงไหน ที่นี่จะมีห้องให้เรานั่งรอรถกับหน้าจอทีวีแสดงผลสถานะของรถเราว่าอีกกี่นาทีรถถึงจะลงมาชั้นล่างด้วย
ผมดูๆ แล้วมันสะดวกมากเลย แบบมาถึงปุ๊บแตะบัตรออก จบ อาจจะใช้เวลานิดหน่อยในการรอรถ แต่เมื่อเทียบกับการที่เราต้องวนรถหรือหาว่ารถเราอยู่ตรงไหนนี่ถือว่าช่วยประหยัดเวลาได้กว่าเยอะทีเดียว
เข้ามาใน Lobby กันครับ ที่นี่จะมี Lobby อยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ที่ ออกแบบโดยสร้างให้ฝ้าดูสูงโปร่ง แต่งโทนเรียบหรู เน้นสีเทาเหมือนเดิมตามสไตล์พี่อัศวินเพื่อโชว์ความแข็งแกร่ง แล้วก็มีความทองๆ ขลิบเพิ่มเข้ามาเพื่อความหรูหรา
ที่นี่มีบันไดวนด้วยครับ ซึ่งบันไดวนของเค้าออกแบบมาพิเศษด้วย เพราะปกติมันจะต้องมีเสาตรงกลางใช่มั้ยล่ะ แต่ตัวนี้ไม่มีเสาแฮะ นึกภาพไม่ออกก็เหมือนกับเราเอาดินน้ำมันมาปั้นให้ยาวๆ ตันๆ แล้วจากนั้นก็บิดตรงกลางไง เนี่ย เหมือนเป๊ะ! (นี่ก็เข้าใจเปรียบเทียบ 5555)
ที่ชั้น 29 จะเป็นส่วนกลางทั้งชั้นเลยครับ มีทั้ง Sky Iconic Lounge, Private Dining Room, Private Massage and Spa, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, ห้องน้ำชาย-หญิง ซึ่งห้องน้ำของเค้าสามารถชมวิวได้ด้วยนะ และผมมองว่าส่วนกลางของโครงการนี้เค้าเน้นทำเป็นห้องครับ น่าจะเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านแหละ
ถ้าขึ้นไปชั้นดาดฟ้าจะเป็น Sky Deck, Sky Cliff กับ Sky Panoramic ที่ตรงส่วนนี้เค้าจะมีโต๊ะนั่งกับพวกต้นมงต้นไม้จัดวางไว้ครับ
Sky Cliff ของเค้าจะเป็นจุดชมวิวพื้นกระจก ซึ่งถ้ามองลงมาเราจะเห็นสระว่ายน้ำของชั้น 29 พอดี ตอนกลางวันแบบนี้อาจจะเฉยๆ แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนคือเค้าจะเปิดไฟครับ มองลงมามันก็จะมีความระยิบระยับจับใจ อิอิ
ในส่วนของห้องพักอาศัย มาเริ่มกันที่ห้องสตูดิโอขนาด 22.5 ตร.ม. กันก่อนเลย
โครงการนี้จะขายแบบ Fully Fitted ที่ผมมองว่าขนาดพื้นที่ใช้สอยเค้าจัดมาได้ลงตัวพอสมควรเลยล่ะ
ลักษณะห้องก็จะเป็นห้องสไตล์หน้าแคบลึกครับ พื้นที่ครัวกับห้องน้ำจะจัดไว้ด้านหน้าห้องเลย ส่วนพื้นที่ของเตียงนอนกับพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ถัดไป แต่ตรงนี้มีการใส่ใจเรื่องแสงธรรมชาติอยู่นะ มันเลยพอจะทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นมาหน่อย
ในเรื่องของการจัดวางนี่...ยังไงดีล่ะ ถ้าให้พูดคือคนที่ชอบก็ชอบไปเลย แต่บางคนก็อาจจะไม่ชอบแหละ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของเราด้วยส่วนหนึ่ง
อ้อ! ประตูห้องนอนจะเป็นแบบฉากกั้นบานเลื่อน 3 ตอนครับ เพราะงั้นบานเลื่อนแบบนี้มันเลยช่วยคอนโทรลเสียงได้ดี ส่วนระเบียงก็เป็นตัวกรอง 2 ชั้นกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาในห้องได้
ภายในห้องนอนก็มีพื้นที่มาให้พอสมควรนะ ไม่น้อยไปแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ในห้องตัวอย่างจะมีโซฟาแต่ของจริงไม่ได้เน้อ เป็นพื้นที่โล่งๆ ให้เราจัดการเอาเอง แต่เค้าจะให้ฐานเตียง 5 ฟุตมา
เม้าท์นิดว่าโครงการนี้ขายครั้งแรกก็ฟาดไป 90% เลยนะ โอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วประมาณ 70% อย่างว่าแหละ ตัวโครงการมันดูเป็นคอนโดระดับบน แต่ห้องที่มีให้คือมีตั้งแต่ 22.5 ตร.ม. เลย จุดนี้น่าจะตกลูกค้าที่เป็นคนทำงานทั้งหลายได้เยอะ
มาต่อกันแบบเร็วรี่กับ 1 Bedroom Plus ขนาด 31 ตร.ม. ที่จะมีเฉพาะชั้น 31-35 ครับ เป็นห้องมุมทั้งหมด รูปแบบของห้องคร่าวๆ ก็คือมี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กับอีก 1 ห้องเอนกประสงค์
เรื่องของพื้นที่ใช้สอยแน่นอนว่ามากขึ้นกว่าห้องแรก แต่ก็ได้อย่างเสียอย่างเหมือนกันคือห้องนี้จะไม่ได้ครัวปิด คนที่ชอบพับแขนเสื้อเข้าครัวเองก็คงต้องเพลาๆ ลงหน่อย เดี๋ยวกลิ่นหรือน้ำมันมันกระเด็นกระดอนไปทั่วห้อง
เข้าไปเลยเราจะเจอห้องนั่งเล่นซึ่งจะกว้างกว่าห้องแบบสตูดิโอ มองเลยไปด้านในจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับกั้นพื้นที่ส่วนของห้องนอน แล้วก็ได้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Fitted เหมือนกัน
ซ้ายมือของห้องนอนเป็นห้องเอนกประสงค์ครับ เราจะจัดเปลี่ยนเป็นอะไรก็ได้ตามสไตล์เราเลย แต่เราจะได้แค่ห้องเปล่าๆ นะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้ ขนาดห้องอยู่ที่ประมาณ 1.75 x 2.15 ม. ครับ ส่วนของระเบียงก็อยู่ตรงห้องนี้แหละ
ห้องนอนผมไม่ได้ว้าวอะไร ในใจแอบอยากให้พื้นที่ปลายเตียงมันเพิ่มกว่านี้หน่อยเพราะมันเหลือพื้นที่ปลายเตียงน้อยจัง แค่พอเดินผ่านได้เฉยๆ เอง หน้าต่างก็ถ้าเลือกเป็นแบบบ้านใหญ่ไปเลยน่าจะสวยกว่าด้วย
ถึงผมจะติงๆ ไปหน่อย แต่ห้องไทป์นี้ขายดีสุดในบรรดาพรรคพวกทั้งหลายเลยนะ น่าจะเพราะสเปซที่ได้เพิ่มขึ้นมา
สุดท้ายจบที่ 2 Bedroom ขนาด 54.40 ตร.ม. ครับ
ตัวนี้ฟังก์ชั่นส่วนหน้าก็จะเหมือนๆ กับห้องรูปแบบอื่น คือเดินเข้ามาแล้วจะเจอครัวก่อน ซึ่งครัวห้องนี้จะได้เป็นครัวปิด แล้วก็จะเป็นห้องน้ำครับ
อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้องนอนเล็กที่มีพื้นที่ให้พอประมาณ ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นซึ่งตรงนี้จะมีส่วนพื้นที่สำหรับทานอาหารด้วย
ตรงจุดนี้เมื่อเทียบกับห้องรูปแบบอื่นคือจะมีพื้นที่เยอะมาก เรียกได้ว่ากว้างขวางเลยแหละ และด้วยความที่เค้าจัดกระจกมาให้แบบเข้ามุมกว้างๆ เลยทำให้เราสามารถเทควิวได้เต็มที่ครับ
ก็ถือว่าโอเคดีในแง่ของความกว้างขวางนะ แต่ไม่รู้ทำไมผมค่อนข้างขัดใจกับหน้าต่างของโครงการสักนิด คือเค้าเลือกใช้แบบบาน Fix ผสมบานกระทุ้งไง แน่นอนว่ามันระบายอากาศได้ดี รับลมได้เยอะ แต่ผมคิดว่าถ้าใช้แบบบานใหญ่พิเศษมันน่าจะเหมาะกว่า ดูสวยกว่าด้วย แหะๆ
Master Bedroom ก็มีพื้นที่เยอะดีครับ วางเตียง King Size ได้ มีห้องน้ำในตัว โดยรวมนับว่าโอเคเลย
ย่านนี้มันยังถือว่าสงบอยู่นะ ไม่ได้อึกทึกอะไร อย่างรอบๆ โครงการนี่จะเป็นบ้านพักอาศัย หอพัก คอนโดมิเนียม เป็นส่วนมาก มีอาคารสำนักงานประปราย ห้างสรรพสินค้าห่างออกไปนิด ถือว่าอุดมสมบูรณ์พอควร ข้ามห้าแยกลาดพร้าวไปก็เป็นจตุจักรละ
แต่เพราะว่าตอนนี้รถไฟฟ้ามันมาเส้นนี้ และในอนาคตก็จะมีเพิ่มเข้ามาอีก เพราะงั้นผมว่าเดี๋ยวมันต้องมีอะไรคึกคักครึกครื้นตามมาแน่นอนครับ
ส่วนตัวผมมองว่าโครงการนี้พี่อัศวินเค้าทำออกมาตอบโจทย์หลายกลุ่มอยู่นะ เพราะในเรื่องของการออกแบบ การจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ หรือส่วนกลางที่จัดเต็มมันดูเป็นไลฟ์สไตล์ของลูกค้าระดับบนอยู่บ้าง แต่ว่าราคาห้องกับขนาดพื้นที่เริ่มต้นของห้องนี่ต้องบอกว่าจับต้องได้จริงๆ ถือว่าแตกต่างกันกับโครงการระดับเดียวกันในย่านนี้ที่จะเน้นเรื่องห้องกว้างและราคาต่อห้องที่สูงกว่านิดนะ