ช่วงนี้เริ่มได้ออกไปเที่ยวเตร่บ้างแล้ว ผมคนหนึ่งล่ะที่อุดอู้จนโหยหาสถานที่ท่องเที่ยว

 

        แต่ก็ใช่ว่าตอนนี้จะเปิดรับนักท่องเที่ยวทุกที่เนอะ ที่แน่ ๆ ต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ยังบินไม่ได้เลยนะ ช่วงนี้ใครจะเที่ยว ก็บิน ๆ เอาในประเทศไปก่อนแล้วกัน

 

        แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมมีมานั่งนึก ๆ เหมือนกันนะว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี ครั้นชาวกรุงอย่างเราจะหนีไปพักใจที่ต่างจังหวัดตอนนี้บางคนยังต้องคิดแล้วคิดอีกเลยนะ เอาล่ะ วันนี้เลยปิ๊งไอเดีย ชวนทุกคนเที่ยวในเมืองกรุงนี่แหละ งบน้อยแล้วยังไง ใคร ๆ ก็ไปเที่ยวได้!! เป็น One Day Trip สั้น ๆ วันหยุดเก๋ ๆ ไปอีกแบบ

 

        ขอท้าวความก่อนว่าจริง ๆ แล้วกรุงเทพฯ เราเนี้ย ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่ให้เที่ยวนะ ผมนึก ๆ ดูแล้ว มีเยอะมาก ๆ ด้วย แต่วันนี้ขอยกให้สถานที่ท่องเที่ยวคูล ๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยากันหน่อยแล้วกัน ตามเทรนด์กันหน่อยเพราะเรือด่วนปรับอากาศเพิ่งจะเปิดให้บริการไปแบบหมาด ๆ

 

         ก่อนที่จะไปแนะนำสถานที่เที่ยว ผมขอพูดถึงเรื่อง เพราะเรือด่วนปรับกันหน่อยดีกว่าเนอะ เพราะเห็นว่าเป็นบริการใหม่แกะกล่อง ขอแนะนำตัวเค้าให้ลูกเพจเรารู้จักก่อนไปใช้บริการกันสักนิด

 

 

 

 

        เรือด่วนประอากาศเจ้าพระยา เพิ่งจะเปิดให้บริการไปเมื่อไม่นานนี้เองครับ (1 เมษายน 2563) เป็นเรือที่มีฟังก์ชันพิเศษมาจากเรือด่วนเจ้าพระยาทั่วไปตรงที่ เค้าเป็นเรือขนาดใหญ่ครับ มีด้วยกัน 2 ชั้น สามารถรับน้ำหนักได้ 25 ตัน จุผู้โดยสารได้มาก 200 คนเลยด้วย ที่สำคัญบริเวณชั้นล่างของห้องโดยสารยังติดเครื่องปรับอากาศด้วยนะ ล่องเรือไม่ต้องกลัวร้อนกันแล้ว

 

        อีกอย่างที่คือเรือด่วนปรับอากาศเจ้าพระยาเค้ายังผนึกกับ BTS ด้วยนะ ดังเราจึงสามารถจ่ายค่าตั๋วด้วยบัตรแรบบิท การ์ด ได้ด้วยนั่นเอง ส่วนราคาค่าโดยสารจะอยู่ที่ 50 บาทตลอดระยะทาง ซึ่งเค้าจะผ่านด้วยกันทั้งหมด 8 ท่าเรือตั้งได้แก่ 1. ท่าเรือบางโพ 2. ท่าเรือเกียกกาย 3. ท่าเรือเทเวศร์ 4. ท่าเรือพรานนก 5. ท่าเรือราชินี 6. ท่าเรือราชวงศ์ 7. ท่าเรือไอคอนสยาม และ 8. ท่าเรือสาทร ตั้งแต่ 09.45-16.15 น. (อ่ะ ใครยังไม่เคยไปใช้บริการ หลังอ่านบทความนี้ เชิญชวนเลยครับ อิอิ)

 

        ผมไปลองนั่งมาแล้วด้วยนะ ไปลองที่ท่าเรือสาทร เชื่อมต่อระหว่าง BTS สะพานตากสิน ถือบัตรแรบบิทเดินไปที่จุดจำหน่ายตั๋วบอกสถานีปลายทางเลย

 

 

        เข้าเรื่องดีกว่า ที่เที่ยวกันดีกว่าเนอะ หลังจากป้ายยาเรื่องการเดินทางไปแล้ว ใครงบน้อยไปพอออกต่างจังหวัด หรือยังไม่อยากเดินทางออกนอกกรุง ก็สามารถไปเที่ยวได้ชิล ๆ ตามที่ผมบอกไว้ตอนต้นได้เลย เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว หยิบกล้อง ชาร์จแบตให้เต็มแล้วไปตะลอนทัวร์กันโลด!!

 

 

        ท่ามหาราช เป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดฮิตที่ผมไปกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ ด้วยความที่ท่ามหาราชไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวครับ เพราะบริเวณรอบ ๆ ของที่นี่ยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่ล้อมรอบอยู่ด้วย ทั้ง วัดพระแก้ว ท่าช้าง ท่าเตียน วัดโพธิ์ สนามหลวง ศาลหลักเมือง กระทรวงกลาโหม (ไปที่นี่วันเดียวก็ยังไม่พอ) ท่ามหาราช เป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ ริมน้ำเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเลยนะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ๆ ยิ่งช่วงเย็น ๆ ที่นี่จะค่อนข้างให้บรรยากาศดีมากเป็นพิเศษครับ มองแม่น้ำเจ้าพระยา ทานอาหารอร่อย ๆ ถ่ายรูปวิวสวย ๆ แถมยังเดินทางสะดวกท่ามหาราชสามารถเดินทางได้ทั้งทางเรือ มี เรือด่วนเจ้าพระยา , เรือข้ามฟาก (ฝั่งตรงข้ามเป็นวังหลัง หรือศิริราชนั่นเองครับ) รถโดยสารสาธารณะผ่านเยอะมากด้วย มีป้ายรถเมล์ลงท่ามหาราชโดยตรง รวมถึงรถไฟฟ้า MRT สถานีมหาไชย อีกด้วย

 

 

        มีท่ามหาราชไปแล้ว ผมจะพลาดวัดอรุณฯ หรือวัดแจ้งไปได้ยังไงล่ะ วัดแจ้งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นัดท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุ่งหน้าเข้ามาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายเลยครับ (ยกเว้นช่วงโควิดนะ) ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสดีครับ ใครที่อยากไปมานานแต่ไม่ได้ไปสักที ก็ถือโอกาสนี้ไปเที่ยวชมในตัวได้นะ วัดแจ้งไม่ได้มีความโดดเด่นแค่เรื่องของสถาปัตยกรรมอย่างเดียวนะครับ เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไม่น้อยเลย แต่จุดไฮไลท์ก็คงหนีไม่พ้น พระปรางค์ใหญ่ นี่แหละ 

 

        ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ผมขอยกคาเฟ่ริมแม่น้ำ ตรงข้ามพระปรางค์วัดอรุณมาฝากหน่อยดีกว่า เผื่อใครไปเที่ยวแล้วอยากชมวิวพระปรางค์ริมแม่น้ำแนะนำร้านนี้เลยครับ เพราะเห็นวิวพระปรางค์ตรง ๆ เลย จะได้วิวและบรรยากาศที่สวยมาก ๆ ร้าน VIVI The Coffee Place ร้านนี้จะอยู่ฝั่งท่าเตียน หรือ วัดโพธิ์ (ตรงข้ามวัดแจ้ง) แนะนำสำหรับใครที่อยากนั่งคาเฟ่ริมแม่น้ำพร้อมชมบรรยากาศสวย ๆ วิวพระปรางค์วัดอรุณ พร้อมจิบเครื่องดื่มดี ๆ สักแก้ว ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตก จะยิ่งสวยมาก ๆ ดีต่อใจ ถ่ายรูปสวย ๆ ไปอวดเพื่อนได้ด้วย

 

 

 

        3. ท่าเรือ 4 พระยา

 

 

 

        ผมมีโอกาสได้วนเวียนมาถ่ายงานอยู่แถวนี้อยู่เป็นระยะ หากใครเคยผ่านมาในย่านนี้น่าจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศกลิ่นอาย Old Town หรือบรรยากาศของความเป็นเมืองเก่า ๆ อย่างผมกันบ้างแหละ ที่จั่วหัวว่าท่าเรือ 4 เพราะบริเวณนี้มีสถานที่หลากหลายมากครับ ใครสายเสพงานศิลปะ มุ่งไปที่นี่ได้เลย โรงแรม River City Bangkok เพราะที่นี่มีงานจัดแสดงศิลปะ แทบจะตลอดจริง ๆ ถัดไปไม่ไกลจากโรงแรมมากนักจะเป็นย่านเก่าย่านแก่อย่างตลาดน้อยแล้ว ชุมชนนี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญหลายแห่งเลยทีเดียว ทั้งวัดแม่พระลูกประคำ (กาลหว่าร์) ที่นี่เป็นโบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ อายุนับร้อยปีเลยนะ สร้างมาตั้งแต่ปี 1891 แล้ว

 

 

 

        และที่สำคัญ ใครที่เดินชมโบสถ์หรืองานศิลป์เหนื่อย ๆ อยากหาอะไรอร่อย ๆ หรือนั่งจิบกาแฟชิลล์ ผมมีร้านกาแฟแนะนำด้วยนะ อยู่ใกล้ ๆ เลยล่ะ เดินทะลุไปทางซอยตรอกศาลเจ้าโรงเกือก จะเจอกับร้าน Mother Roaster คาเฟ่สุดคูล กับบาริสต้ารุ่นเก๋าอย่างคุณแม่พิณ ที่จะมาดริปกาแฟให้เราดื่มแบบสด ๆ จากมืออีกด้วย ผมมีเขียนรีวิวไปแล้วด้วยนะ ลองไปอ่านกันได้  คลิกที่นี่ (แอบขายของนิดนึง อิอิ) 

 

 

        สถานที่ฮิป ๆ อีกที่ที่เหล่าตากล้องทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น เป็นอันต้องแห่แหน หิ้วนายแบบนางแบบไปโพสท่าคูล ๆ ที่นี่คือคอมมูนิตี้มอล กลิ่นอายไทยจีน เพราะเป็นเคยเป็นท่าเรือเก่าอย่างท่าเรือ "ฮวย จุ่ง ล้ง" ที่นี่เคยเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ด้านการค้าระหว่างไทยกับจีนด้วยนะ เคยรุ่งสุด ๆ ตั้งแต่ช่วงสมัยรัชการที่ 4 นานมาก ๆ เลยครับ ปัจจุบันที่นี่ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ที่ยังคงกลิ่นอายเดิมไว้อยู่ มีทั้ง ร้านอาหาร มุมชิลล์เอ้าท์ สถานที่จัดแสดงงานศิลปะ (นิทรรศการ) ลานชมวิว ที่สำคัญยังมีศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว ให้ไปแวะศักการะบูชาอีกด้วย ผมเคยมีเขียนถึงไปแล้ว ลองเข้าไปอ่านกันได้นะ จำได้ว่าตอนนั้นลูกเพจหลายคนบ่นอุบว่าเดินทางยาก แต่ข่าวดีก็คือภายในปีนี้รถไฟฟ้าสายสีทองใกล้จะเปิดให้บริการแล้ว ใครจะมาเที่ยวที่ล้งก็สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีคลองสาน เดินต่อมาอีกไม่ไกล ก็ถึงแล้ว

 

        5. ท่าเรือพระอาทิตย์

 

 

        ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ได้หวือหวาอึกทึกเท่าไหร่นัก เหมาะสำหรับมาพักผ่อนหย่อนใจชั่วครู่ แต่ขอพูดถถึงสักหน่อย เพราะที่นี่นับเป็นอีกสถานที่ที่สวยงามที่หนึ่งเลยครับ ใครเบื่อความวุ่นวายของเมืองแวะมาที่นี่ได้ ท่าเรือพระอาทิตย์ มองวิวสะพานพระราม 8 ยิ่งถ้าช่วงปกติ หากข้าวสารเปิดตกค่ำหน่อยไปแฮงเอ้าท์ต่อได้สบาย ๆ ครับ 

 

        แต่ผมน่ะสายแหลก ใครไม่ใช่สายน้ำเมาแต่เป็นคอเป็นย่าง แนะนำร้านปิ้งย่างที่ไม่ไกลจากท่าพระอาทิตย์มากนักอย่างร้าน "ทง แด มุน" ( Facebook Fanpage คลิก) ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ผมเคยไปทานมาตั้งแต่ร้านยังไม่ได้ดังมากนัก บอกเลยว่าอร่อยใช้ได้เลยแฮะ โดยเฉพาะเครื่องเคียงที่มีให้เลือกเยอะมาก ๆ ส่วนใครอยากทานเบา ๆ มีอีกร้านแนะนำด้วย คุณแดงก๋วยจั๊บญวน ร้านเก่าแก่ โด่งดัง ราคาประหยัด แถมอิ่มท้องด้วย น่าเสียดายที่ไม่เคยถ่ายตอนไปนั่งหม่ำเอาไว้เลย เลยแอบใส่ลิ้งก์ Facebook ของทางร้านไว้ให้ด้สนบนแล้วครับ 

 

        ช่วงนี้ต้องเซฟเงินในกระเป๋ากันพอสมควร ใกล้จะหยุดยาวด้วย ใครอยากเที่ยวแต่ก็อยากเซฟเงิน ผมแนะนำสถานที่เหล่านี้เลยครับ ที่สำคัญไปเที่ยวแบบ One Day Trip สำหรับใครที่อาจจะมีเวลาไม่มาก

 

        เห็นมั้ยล่ะ จริง ๆ แล้วกรุงเทพเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ เยอะแยะเลย นอกจากที่ผมยกมาเล่าแล้ว จริง ๆ ที่เที่ยวริมน้ำยังมีอีกเยอะเลยนะ ช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ใครยังไม่มีแพลนไปไหนก็ลองไปสัมผัสบรรยากาศริมน้ำเจ้าพระยากันได้นะ โอกาสหน้าผมจะพาทุกคนสะพายกล่องท่องที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับผม!!