ใครที่นกไปจากหลายๆ โครงการของปีนี้ วันนี้ผมจะพาไปบินหารังใหม่กัน

 

        รังนกที่ว่านี้ก็ไม่ใกล้ไม่ไกล ที่สำคัญทำเลดี มีของกินปลอบโยนท้องน้อยๆ ของทุกคนได้อย่างเต็มที่อีกด้วยนะ

 

        เอ้า พูดกันมาถึงขนาดนี้ก็น่าจะพอเดาได้แล้วแหละว่า “รัง” ที่ว่า น่าจะหมายถึงโครงการไหน

 

        ย้ำกันว่า “รัง” ขนาดนี้ จะเป็นที่ไหนไปได้นอกจากโครงการ “Elio Del Nest” ล่ะคร้าบบบบ

 

        รังนกของอนันดาตัวนี้ถือว่าฮือฮากันมากพอควรเหมือนกันนะ

 

        อย่างที่รู้เลยว่าภาพจำของโครงการนี้จะเป็นสระว่ายน้ำบิ๊กๆ กับส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมจุดชมวิวไว้ถ่ายรูปชิคๆ กันอย่าง "รังนก" ที่เรามักคุ้นตากันเลย

 

 

 

 

 

        เมื่อพูดถึงการเดินทาง ถ้าเอาสะดวกที่สุดก็ต้องเป็น BTS อุดมสุขครับ ซอยทางเข้าโครงการนี่อยู่ตรงทางขึ้นบันไดเลื่อนของตัวรถไฟฟ้าเลย สะดวกดี

 

        แต่ว่าตัวโครงการไม่ได้ใกล้กับรถไฟฟ้านะ จะอยู่เข้าซอยไปประมาณ 700-800 เมตร

 

        ถามว่าเดินได้มั้ย? อืม...มันก็ได้แหละ แต่ก็จะเหนื่อยๆ หน่อยเท่านั้น เพราะเท่าที่ผมลองเดินดูมันก็นับว่าโอเคอยู่ ทางแคบไปบ้าง และในช่วงเวลาเร่งด่วนคนก็จะเยอะมาก อาจต้องเบียดๆ กันนิดเวลาเดิน แต่คิดในแง่ดีก็เป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งครับ เพราะมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะเดินไม่ไหวเลยเสียทีเดียว

 

 

 

 

 

 

        ถ้าใครไม่อยากเดินก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะในซอยนี้มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเยอะมาก (มากจริงๆ) รถแดงก็เยอะเหมือนกัน ผมเห็นว่ามีป้ายรถเมล์ด้วย แต่เอาจริงในซอยนี้ไม่มีรถเมล์ผ่านหรอกนะ ใช้บริการอื่นเถอะ 5555

 

        ส่วนใครที่มีรถก็อาจจะสบายหน่อย แต่รถมันก็จะติดๆ นิดหนึ่ง ได้อย่างเสียอย่างครับ

 

        แต่ขึ้นชื่อว่า “อุดมสุข” มันก็ต้อง “อุดมสมบูรณ์” สิ

 

        อนันดาเค้าก็เข้าใจเลือกทำเลแฮะ ต่อให้ไม่ใกล้รถไฟฟ้ามากมายอะไร แต่ก็ทดแทนมาให้ด้วยของกินสารพัดอย่างล้อมรอบโครงการ

 

        อย่างหนึ่งที่ผมเลือกให้ใช้บริการเท้าตัวเองเพราะระหว่างทางที่เดินมาจากตัวรถไฟฟ้าจนถึงโครงการนี่มีของกินล่อตาล่อใจเยอะมากครับ มากจนตะลึง ยิ่งช่วงเย็นๆ ยิ่งคึกคัก

 

 

 

 

 

  

        ถนนอุดมสุขนี่เป็นถนนที่อุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว คอมมูนิตี้มอลอย่าง One Udomsuk ก็อยู่ในซอยนี้ หรือถ้าจะไป 101 The Third Place ก็นั่งรถไฟฟ้าไปอีกสถานีเดียวเท่านั้น

 

        นอกจากนี้ก่อนถึงตัวโครงการก็จะผ่านตลาดสดอุดมสุขด้วย จะได้แวะซื้อของกินก่อนกลับห้องหลังเลิกงานกัน

 

        ก่อนถึงตัวโครงการพวกร้านรวงจะเริ่มซาๆ ลงบ้างแต่ก็นับว่าเยอะอยู่ ที่สำคัญคือฝั่งตรงข้ามกันกับโครงการก็เป็น Makro กับ 7-Eleven ด้วยครับ ที่ตรงนี้ก็มีพี่วินคอยบริการเยอะอีกเหมือนกัน

 

        พูดถึงตัวโครงการกันบ้าง ความจริงรังนกรังนี้เปิดให้ลูกบ้านเข้าอยู่ได้ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้วแล้วล่ะ แต่ถามๆ ดูแล้วพี่เซลส์แกบอกว่าจำนวนลูกบ้านที่ย้ายกระเป๋าเข้าพักก็ยังไม่นับว่าเยอะเท่าไร

 

 

 

 

 

        ภาพรวมตัวโครงการเค้าก็ยังคงคอนเซ็ปต์ Easy Living ครับ อยู่ในเซ็กเม้นต์ที่มีราคาจับต้องได้คือ 2-3 ล้าน นับว่าเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้เราได้ในช่วงยุคนี้สมัยนี้จริงๆ เพราะราคาปัง ส่วนกลางเริ่ด แถมเฟอร์ฯ ครบ จองปุ๊บก็ย้ายกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที

 

        ส่วนกลางเค้าก็ต้องยกนิ้วให้จริงๆ เพราะสระว่ายน้ำนี่อลังการมาก ลองไปยืนโต๋เต๋ตรงนี้แล้วมันก็เย็นๆ ดีครับ

 

        นี่ยังไม่นับ "รังนก" ของเค้าที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของตัวโครงการนะ เจ้ารังนกนี่มีความสูงประมาณ 3 ชั้นครับ เห็นพวกสาวๆ เค้าขึ้นไปแชะภาพถ่ายรูปกันเพียบเลย

 

        พื้นที่ส่วนกลางก็จะมีที่ชั้น 1 และชั้น 10 นะ ทั้งสวนทั้งสระว่ายน้ำก็มีมาพร้อม ต่อให้อยู่ชั้นล่างๆ ก็ยังได้วิวส่วนกลางอยู่ เพราะโครงการนี้เป็นแนวสูง 7 อาคาร มีอาคารจอดรถสูง 10 ชั้น 1 อาคาร และอาคารร้านค้าอีก 1 อาคาร รวมทั้งหมดเป็น 9 อาคาร ซึ่งเค้าออกแบบให้ทุกอาคารล้อมเข้าหาพื้นที่ส่วนกลางครับ

 

        นั่นก็คือ... ห้องที่หันมาหาด้านในโครงการนั้นจะได้วิวเขียวๆ กรีนๆ ของโครงการ ส่วนห้องที่หันออกไปนอกอาคารก็ได้วิวเมืองไป เพราะไม่มีตึกสูงบัง

 

 

 

 

 

 

 

       การอยู่อาศัยก็นับว่าไพรเวททีเดียว ถึงดูเหมือนยูนิตจะเยอะก็ตามทีเพราะมีหลายอาคาร แต่เค้าก็จำกัดให้มีแค่ 5-11 ห้องต่อชั้นเท่านั้น!

 

        พูดถึงห้องกันคร่าวๆ ดีกว่า

 

        ขอเริ่มกันที่ห้องขนาดเบาๆ แบบ Studio 26.00 ตร.ม. เป็นห้องขนาดกระปุ๊กกระปิ๊กแต่ก็นับได้ว่าจัดแบ่งสัดส่วนได้ลงตัวทีเดียว เหมาะกับคนที่ชอบการแบ่งพื้นที่ห้องชัดเจนครับ

 

 

 

 

        ครัวที่นี่จะเป็นครัวปิดนะ หมายถึงได้ครัวปิดทุกห้องครับ เพราะงั้นไม่ต้องกังวลใจเรื่องกลิ่นทำอาหารเลย

 

        นอกจากนี้คือทางโครงการเค้าให้โซฟารูปตัว L ด้วย ถือว่าเป็นโซฟาที่ใหญ่พอควร แต่พูดๆ ไปก็ต้องบอกว่าเพราะขนาดห้องมันเล็กเลยทำให้ดูอึดอัดไปบ้าง แหะๆ

 

        ต่อมาเป็น 1 Bedroom 31.00 ตร.ม.

 

        ห้องนี้เน้นแสงธรรมชาติหน่อยโดยเฉพาะโซนครัว ถ้าเราเปิดประตูเข้ามาก็จะเจอ common area ก่อน พื้นที่ตรงนี้กว้างดีครับ ระยะห่างของโซฟากับทีวีก็ไม่ใกล้ไปด้วย สบายตาดี

 

 

 

 

        ห้องนอนอยู่ติดกันกับห้องครัว มีพื้นที่กว้างพอควร วางเตียง 5 ฟุตได้ ไม่ถือว่าอึดอัดอะไร ยังมีพื้นที่เหลือให้ยืนแต่งตัวด้วยซ้ำ

 

        ห้องสุดท้ายที่ขอนำมาฝากกันคือ 1 Bedroom Plus 38.00 ตร.ม.

 

        ห้องนี้จะมีโซน common area อยู่ด้านในครับ แล้วก็กว้างขวางดี มีพื้นที่เหลือให้จัดแต่งห้องได้ตามต้องการ ตรงนี้จะมีโต๊ะทานข้าวเล็กๆ ตั้งเอาไว้ใกล้กันกับโซฟา สองด้านเป็นหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้า ถ้าทานข้าวช่วงบ่ายๆ อาจจะร้อนอยู่นะดูทรงแล้ว

 

 

 

 

        ส่วนห้องนอนก็ทรงคล้ายกันกับรูปแบบ 1 Bedroom ครับ มีช่องแสงให้เต็มที่ ให้เราสามารถเปิดรับลมรับแสงธรรมชาติได้ ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด อ้อ เราสามารถมองวิวได้จากตรงห้องนอนเลยนะ ตื่นเช้ามารับบรรยากาศดีๆ ได้เลย เหมาะเหม็งสำหรับการชาร์จพลังรับวันใหม่

 

        ตอนนี้ได้ยินมาว่าโครงการนี้ขายได้ประมาณ 60% แล้วล่ะ ส่วนใหญ่ก็ซื้อไปอยู่เองนั่นแหละครับ แต่ส่วนที่ซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่านั้นก็มีประมาณ 15%

 

        ที่สำคัญผมได้ยินมาว่ามีลูกค้าต่างชาติซื้อไว้ด้วยอีกประมาณ 30% จำนวนนี้ถือว่าเยอะนะ แต่พอคิดดูว่าโซนนี้ก็มีต่างชาติอาศัยอยู่ไม่น้อยแล้วก็สมเหตุสมผลดี

 

        ยังไงก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ผมรู้สึกว่ามีหลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของนั่นแหละ ด้วยเรทสตาร์ทที่ไม่สูงเกินไป แถมรอบข้างยังอุดมสมบูรณ์เพียบพร้อมขนาดนี้ น่าจะเป็นที่ต้องตาต้องใจของใครหลายๆ คนครับ

 

        ยังไงวันนี้ขอบินกลับรังก่อน วันหน้าจะพาไปดูโครงการไหน ทำเลอะไร รอติดตามกันได้นะคร้าบบบบ