“ซอยลัด” ถนนเส้นเล็กเส้นน้อยที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนเส้นใยในการผสานคนกรุงให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
และถ้าพูดถึงซอยลัดในกรุงเทพที่ผมใช้งานบ่อย ๆ ซอยแรกที่แว็บเข้ามาในหัวคงจะหนีไม่พ้น “วิภาวดี ซอย 3”
ที่สามารถทะลุทะลวงระหว่างเส้นวิภาวดีและพหลโยธินได้อย่างสะดวกสะบาย
จุดเด่นของซอยนี้ก็คือเราสามารถเข้าจากฝั่งพหลโยธินได้ทั้งซอยพหลโยธิน 18/1 และซอยพหลโยธิน 18
ซึ่งทั้ง 2 ซอยดักหน้าและหลังช่วงรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และ MRT จตุจักร ตามลำดับพอดี
รวมไปถึงเวลาที่เราออกไปฝั่งวิภาวดี ซอยนี้ก็ยังมีทางเลือกให้เราไปออกได้ทั้งซอย วิภาวดี 3 และ วิภาวดี 5
แต่ดูเหมือนคนส่วนใหญ่จะชอบออกวิภา 3 มากกว่า (ผมก็ด้วย 555)
ทั้งนี้ก็เพราะเวลาเราออกจากปากซอยวิภา 3 เราจะสามารถชะแวบขึ้นทางด่วนได้พอดิบพอดี
ผิดกับทางซอย 5 ที่ตัวปากซอยจะเลยจุดขึ้นทางด่วนไปแล้ว
ตัวผมเองมีโอกาสขับผ่านก็หลายหน นั่งผ่านก็หลายที จะให้ซอยนี้เป็นแค่ “ทางผ่าน” ก็กลัวเค้าจะน้อยใจ
วันนี้เลยขอแวะมาเดินเล่นให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักซอยนี้กัน
เพราะจากการที่ผมได้ลองไปเดินเล่นรวมถึงแวะเวียนไปใช้เส้นทางนี้อยู่บ่อย ๆ
ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าซอยนี้เป็นซอยที่มีเสน่ห์เอาเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นซอยที่ผมปลื้มมากจริง ๆ
เริ่มกัน สายกิน กันก่อนเลย ซอยนี้เป็นซอยที่ถ้าใครได้หลงแวะเวียนเข้ามาแล้วละก็... ท้องของคุณจะไม่เบาหวิวออกจากซอยแน่นอน
เพราะตั้งแต่เราเข้าปากซอยวิภาวดี 3 มา เราก็จะพบกับร้านสตรีทฟู้ดมากมายที่ตั้งขบวนรอคิวให้เราได้เลือกชิมตลอดวันหมุนเวียนกันไป
ซึ่งเท่าที่ผมได้ไปลองลิ้มชิมรสดูแล้ว มีหลายร้านที่รสชาติอร่อยใช้ได้
ซึ่งถ้าใครชื่นชอบแนวนี้แนะนำให้ไปช่วงค่ำ ๆ หน่อย เพราะจะมีร้านให้เลือกเยอะมาก
ส่วนถ้าใครอยากไปฝากท้องตอนกลางวัน ซอยนี้ก็ยังคงพร้อมเติมเต็มพุงของเพื่อน ๆ ให้อิ่มเอมไม่แพ้กัน
แต่จะเน้นไปที่ร้านอาหารตามตึกแถวภายในซอยมากกว่า
เอ่อ... เพื่อน ๆ ที่ชอบอาหารใต้ซอยนี้มีร้านเด็ดร้านนึงที่ผมชอบ “ป้ายแดง แกงใต้”
พิกัดก็หาไม่ยากเพราะป้ายร้านเค้าสีแดงสมชื่อจริง ๆ
เข้ามาทางปากซอยวิภาวดี 3 ประมาณ 400 ม. จะเจอร้านอยู่ทางซ้ายมือ
ผมเองเป็นสายจัดจ้าน ชอบกินอาหารใต้อยู่แล้ว รสชาติร้านนี้ใต้แท้ เด็ดจริง ๆ
ที่ผมชอบสุดคือแกงเหลืองของคนกรุง (แกงส้มของคนใต้) มาทุกทีร้านเค้าก็เปลี่ยนผักในแกงไปเรื่อย ๆ
ที่ผมเจอมีหน่อไม้กับสายบัว แต่ทางร้านบอกว่าแต่ละวันเค้าจะใช้ผักไม่ซ้ำกัน
ที่ร้านยังแอบบอกผมอีกว่าให้เชคเมนูรายวันที่ร้านทำได้ทางเฟสบุคของร้านเค้าด้วย
ทางร้านจะถ่ายรูปเมนูที่ทำในแต่ละวันแล้วอัพในเพจคอยยั่วเราแวะเวียนให้ไปกิน 55555
อีกร้านคือร้าน “ตำปูม้าทะเลเผา” สำหรับใครที่ไม่ชอบอาหารใต้แต่โปรดปรานอาหารอีสาน ร้านนี้จะเปิดช่วงค่ำหน่อย
แนะนำให้ไปเร็ว ๆ นะ ผมเคยไปช่วง 2 ทุ่มคนแน่นร้านจนต้องรอคิวเลยทีเดียว
เมนูแนะนำคงไม่ต้องมาบรรยายให้มากความ ส้มตำ บอกเลยว่ามีหลายตำให้เลือก สุดปัง แซ่บจริง
อีกอย่างคือ ไก่ย่าง หนังนี่กรอบดีเชียวล่ะ ใครแวะไปร้านนี้ห้ามพลาดจริง ๆ ไปลองกันดูนะทุกคน
มาต่อที่ สายดื่ม กันบ้าง ซอยนี้ถึงแม้จะเป็นซอยเล็ก ๆ แต่เท่าที่ผมโฉบเฉี่ยวดูก็เห็นมีคาเฟ่แฝงตัวอยู่ไม่น้อย
แต่บอกก่อนว่าส่วนใหญ่จะเป็นร้านเล็ก ๆ สำหรับคอกาแฟที่ไม่ได้ชอบถ่ายรูปเท่าไหร่นะ
พิกัดแรกที่ผมแวะบ่อยสุดและอยากแนะนำคือร้าน “YOU’R WHALECOME” ผมไม่ได้สะกดผิดนะ แต่ชื่อร้านเค้าเป็นแบบนี้จริง ๆ ฮ่า ๆๆๆ
สาเหตที่ผมชอบร้านนี้อย่างแรกเลยก็คือกาแฟรสชาติใช้ได้
ผมมักจะเดินมาซื้อหลังจากที่กินป้ายแดงแกงใต้เสร็จเพราะทั้งสองร้านอยู่ห่างกันไม่เท่าไหร่
แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าเค้าเน้นขายคนที่อยากกินกาแฟจริง ๆ ตัวร้านมีที่นั่งแค่นิดเดียว
ใครที่กะมาหาที่นั่งทำงานชิล ๆ ผมแนะนำให้ไปร้าน homstory มากกว่า
ร้านนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าหน่อย เป็นร้านกาแฟมีขนม home-made เยอะพอควร ตัวร้านดูอบอุ่นเพราะตั้งอยู่ในบ้านของเค้าเลย
ลืมบอก... ร้านนี้มีปลานิลด้วยนะ!!!
ที่ร้านเค้าเลี้ยงหมาชื่อปลานิล น้องน่ารัก เป็นกันเอง เล่นด้วยได้ แต่ถ้าใครที่ไม่ชื่อชอบสัตว์ก็อาจจะไม่ชอบได้ 55555
ทิ้งท้าย สายดื่ม ด้วยร้านนั่งชิลล์ยามค่ำคืนกันบ้างดีกว่า...
ใครจะคิดว่าซอยที่ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นแค่ทางผ่านแบบนี้จะแอบมีร้านอาหารที่เอาใจสายดื่มอยู่ด้วยนะ
“Six Degrees of Separation” ชื่อร้านที่ไม่บอกผมคนหนึ่งแหละที่ไม่มีทางรู้เลยว่ามันคือชื่อร้านอาหาร
แต่ต้องบอกนะว่าร้านนี้ผมยังไม่เคยแวะเวียนเข้าไป ได้แค่ผ่าน ๆ เท่านั้น
ตัวร้านตั้งอยู่ในบ้านอีกเช่นกัน ห่างจากร้าน homstory มาซัก 3-4 หลังได้
ที่ผมชอบคือร้านนี้จะมีดนตรีสดมาเล่นให้เราได้ฟังประกอบการกินดื่มของเราด้วย
ผมว่าอีกไม่นานนี้แหละ... ผมคงต้องแอบไปฝากท้องลองดื่มที่นี่ซะหน่อย ฮ่า ๆๆๆ
ปิดท้ายความน่ารักของซอยนี้ด้วย “ตลาดนัด” ที่ตัวผมเองไม่คิดว่าจะได้มาเจอในซอยนี้
และไม่รู้ด้วยว่าจริง ๆ แล้วเค้าเรียกตลาดแห่งนี้กันว่าอะไร 55555
ตลาดแห่งนี้จะว่าก็อยู่ใจกลางเมืองนะเนี่ย... เข้าออกได้ทั้งถนนวิภาวดี รังสิต เข้ามาซอย 5 ตรงมาประมาณ 200 เมตร
เลี้ยวซ้ายที่ซ.วิภาวดี รังสิต 5 แยก 5 ตรงมาประมาณ 100 เมตรก็จะเจอตลาด
และอีกหนึ่งทางก็จากซ.พหลโยธิน 18/1 (ซ.ตึก BTS) เลี้ยวเข้ามาในซอยตรงตามเส้นทางมาเรื่อย ๆ ประมาณ 1 กม.
เลี้ยวซ้ายเข้าทางซ.ยาสูบ 1 ประมาณ 100 เมตรก็จะเจอตลาด
แต่เห็นเป็นตลาดเล็กๆแบบนี้ ที่นี่เป็นขวัญใจของคนในพื้นที่ รวมถึงคนทำงานที่ต้องการหาของว่างหรืออาหารกินกันเลยนะ
โดยช่วงเช้าก็จะขายเป็นอาหารเบา ๆ ของสด รวมทั้งยังมีร้านที่ขายอาหารถุงสำหรับใส่บาตรพระตอนเช้าด้วย
ตื่นเช้าหาของกินเองแล้ว ยังได้หาโอกาสทำบุญด้วย!!!
ตลาดแห่งนี้จึงมีทั้งแม่บ้าน และพนักงานบริษัทในบริเวณรอบข้างมาซื้อ และทานอาหารในแถวนี้
ผมแอบถามคนเดินตลาดว่ามีร้านที่ขึ้นชื่อต้องลองไหม ได้ความมาว่าตอนเช้าต้องยกให้กับร้าน โจ๊ก และ ต้มเลือดหมู ที่ขายดีมาก
พี่เค้ายังบอกอีกว่าให้รีบมานะ เพราะถ้ามาเกิน 7 โมงเช้าอดกิน!!!
ส่วนตอนเย็นก็จะเป็นร้านขายอาหารทะเล ทั้งสด และสำเร็จรูป อันนี้ผมเดินดูเองได้เพราะผมไปตอนเย็นพอดี
ที่เห็นส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารสำเร็จรูป มีของสดบ้างประปราย
แต่ที่นี่ก็ถือเป็นวิถีชาวบ้านในแบบฉบับคนกรุงเทพฯ ที่ต้องเร่งรีบกับการทำงาน
ตลาดแห่งนี้จึงมีช่วงเวลาในการขายก่อนคนเข้าทำงาน 6.00 - 9.00 น. และคนเลิกงาน 16.00 - 20.00 น. โดยประมาณครับ
และนี้ก็คือไลฟ์สไตล์กินอยู่ง่าย ๆ ในหนึ่งวันที่ วิภาวดี ซอย 3
ซอยที่ผมแอบแวะเวียนมาใช้บริการบ่อย ๆ แล้วอยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ มาลองกันดู
บางที “ซอยลัด” ที่เราไม่เคยใส่ใจ และเห็นมันเป็นเพียงแค่ “ทางผ่าน”
อาจจะมีอะไรโดนใจและเราหาไม่ได้ในเส้นทางหลักของเราก็ได้ (คมไปอี๊กกกก 555)
ใครที่แวะเวียนผ่านหรือมีโอกาสได้มาใช้ชีวิตอยู่แถวนี้แล้วยังไม่รู้จะไปฝากท้องกินดื่มที่ไหน
ก็ลองมาแวะดูกันนะ เพื่อจะเจอเมนูเด็ด หรือร้านประจำที่ถูกใจเพิ่มเติม อิอิ
Tag : วิภาวดี 3 | วิภาวดี 5 | พหลโยธิน 18
ทุกครั้ง หลังไปดูโครงการของ "Assetwise" แถวมหาวิทยาลัย สิ่งหนึ่ง ที่เหมือนผมได้รับกลับมาคือ "พลังชีวิต"
หลังจากที่ "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 1" มีผลตอบรับที่ดีมาพอสมควร ตอนนี้ ทาง "Sena Development" ก็ได้ฤกษ์ เตรียมปล่อย "Flexi สาทร-เจริญนคร เฟส 2" มาให้ได้จับจองกันแล้วนะครับ
ปล่อยให้คนอื่นฟาดฟันกันขายคอนโดกลางเมืองกันเลือดสาด แต่ Origin กวาดเรียบคอนโดรอบนอก ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
มีใครรอรถไฟฟ้าสายสีส้มกันอยู่บ้างเอ่ย? ล่าสุดมีโครงการใหม่แกะกล่องจากออริจิ้นฯ ราคาน่ารักน่าคบหา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม งานนี้แอบกระซิบว่าถ้าคุณเป็นทาสหมา ทาสแมว ต้องหยุดอ่านโดยด่วน กับ "Origin Place รามคำแหง 153"
รถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็นหนึ่งในสายที่หลายคนคงตั้งตารอมากที่สุด ด้วยความที่สายสีชมพูใกล้เปิดให้บริการเต็มแก่เลยเริ่มมี 'คอนโด' ผุดขึ้นมาเป็นระยะๆ ตัวผมแอบไปดูทำเลโครงการใหม่มาหนึ่งตัวด้วยแหละ ฮิฮิ โครงการนี้ไม่ใช่ของใครอื่นไกลเป็น 'พี่แอล' (LPN) ของเรานี่แหละ คอนโด 'พาร์ค 168 นพรัตน์-รามอินทรา' แบรนด์คอนโดที่มาพร้อมเลขนำโชค
หลังจากเมื่อปีกลายออริจิ้นขึ้นแท่นเจ้าอสังหาฯ ที่เปิดตัวโครงการคอนโดเยอะที่สุด ปีนี้ผมแอบคิดว่าพี่อัศวินคงเพลาๆ ลงแล้วแหละ แต่เปล่าเลย ล่าสุดแง้มโครงการใหม่ปักหมุดย่าน 'ปิ่นเกล้า' มาอีกหนึ่งโครงการที่รอเปิดตัวอย่างโครงการ 'The Origin Pinklao' (ดิ ออริจิ้น ปิ่นเกล้า) คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจทาส Gen Z
เมื่อวันก่อนเห็นหลายๆ น้องๆ ว่าที่เฟรชชี่หลายคนลุ้นผล TCAS กันจนเกร็งเลย ยังไงก็ยินดีกับน้องๆ เด็ก 66 ทุกคนด้วยนะครับ ส่วนใครที่พลาดรอบนี้ก็ไม่เป็นไรนะ!! พอขึ้นมหาลัยแล้ว มันก็ได้ทำอะไรใหม่ๆ เยอะเนอะ อย่างเช่นการไปใช้ชีวิตเป็นเด็กหอกันครั้งแรก!! วันนี้เลยขอบิ้วอารมณ์ว่าที่เฟรชชี่ที่กำลังจะได้ไปอยู่หอทั้งหลาย ด้วยการมัดรวมหอพักสุดเจ๋งทั่วโลกต้อนรับเปิดเทอมใหม่!!
ได้ข่าวคราวมาสักพักแล้วว่า สตรีมมิงยักษ์ใหญ่ "Netflix" จะยกเลิกการหารบัญชี และก่อนหน้านี้ก็มีการทดสอบไปในบางประเทศแล้ว ล่าสุดพี่ไทยก็ไม่รอด
ครั้งแรกที่เห็นภาพโครงการนี้ออกมา ผมคิดในใจว่า 'แล้วจะรอดจากยุงหรอ' โครงการนี้มาจากประเทศจีนครับ ชื่อว่า "Liuzhou Forest City" จากประเทศจีนครับ แต่ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นอาคาร 'ป่าแนวตั้ง' แบบนี้มาก่อนแล้วกับโครงการ 'Qiyi City Forest Garden' ซึ่งอันนี้เค้านี้สร้างเสร็จ มีการเข้าอยู่ไปแล้วและพบปัญหาแบบที่ผมบอกเลย คือ 'ยุง'
ดีไปหมด อร่อยทุกอย่าง ร้านสวย นั่งสบาย เพื่อนสนิทลูกครึ่งตากาล็อกเป็นคนพาผมมากิน
เพื่อนสนิทผมอยู่ที่คอนโดนี้ เป็นคอนโดอายุหลายปีแล้วล่ะ แต่ยังมีกิจกรรมเรื่อยๆ เลย ทั้งที่ก็ขายหมดนานแล้ว เพื่อนผมชอบมาก ส่งมาแบบนี้
อีกปัญหากวนใจเวลาซื้อคอนโดก็คือค่าใช้จ่ายที่ต้องเจอเนี่ยแหละ เพราะนอกจากค่าบ้าน ค่าคอนโด ที่เราเห็นค่าตัวอย่างแน่นอนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียเพิ่มอีกนะ!!!