เป็นกระแสให้กลับมาพูดถึงกันอีกครั้งหนึ่งล่ะ หลังจากที่ก่อนหน้านี้แฮชแท็ก #BoycottMulan นั้นกระหึ่มอยู่พักหนึ่ง
วันนี้ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่จากค่ายดิสนีย์อย่าง Mulan เข้าฉายมาได้หลายวันแล้ว แต่ผมเพิ่งเห็นว่ายังมีหลายๆ คนไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนถึงบอยคอตมู่หลานกัน
คนรู้จักของผมนี่ก็หนึ่งล่ะ เป็นแฟนหลิวอี้เฟย พูดถึงทีไรภาพเซียวเหล่งนึ่งก็ต้องผุดเข้ามาในหัวตลอด พอรู้ว่าจะมารับบทเป็นมู่หลานก็ยังตื่นเต้นอยู่ อยากไปดูซะเหลือเกิน แต่เพิ่งมารู้ว่าอ้าว เค้ามีกระแสบอยคอตหนังเรื่องนี้กันด้วยเหรอเนี่ย
ผมก็บอกว่าใช่ เค้าบอยคอตเป็นเรื่องเป็นราวอยู่นะ นอกจากตัวโครงเรื่องที่ดิสนีย์สร้างมาเพื่อหวังกอดขาพี่จีนโดยเฉพาะแล้ว การกระทำของตัวนักแสดงเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คนเค้าไม่พอใจ และออกมา #BoycottMulan กันอย่างหนักหน่วงนี่แหละ
นี่ก็เพิ่งมารู้เหมือนกันว่ายังมีอีกหลายคนเลยที่รู้ว่ามันมีกระแส #BoycottMulan แต่ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุและที่มาที่ไปของมันเกิดจากอะไร ทำไมคนถึงลุกมาบอยคอตหนังเรื่องนี้กัน
เอาเป็นว่า มาครับ วันนี้เดี๋ยวผมจะมาสรุปคร่าวๆ ให้ได้อ่านกัน ว่าจริงๆ แล้วกระแสนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งที่สุดแล้วเราจะบอยคอต ไม่ไปดูหนังเรื่องนี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราเองนะคร้าบบบ
แฮชแท็ก #BoycottMulan เกิดขึ้นตั้งแต่หนังยังไม่ได้ฉาย ฮอตฮิตมากในทวิตเตอร์แถมติดเทรนด์โลกด้วยอีกต่างหาก
ว่าไปนั่น... เรื่องนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2019 โน่นแล้วนะครับ
เป็นช่วงที่ในฮ่องกงกำลังมีการประท้วงและการปะทะเดือดกันระหว่างตำรวจกับเหล่าผู้ชุมนุมเลย
ความจริงเรื่องนี้มันเกิดจากการที่นักแสดงนำอย่างหลิวอี้เฟยโพสต์ข้อความสนับสนุนตำรวจฮ่องกงช่วงประท้วงที่โลกจับตามองอยู่นั่นแหละ
หลิวอี้เฟยเขียนข้อความในแอคเคาต์ weibo ของตัวเองที่มีผู้ติดตามถึง 65 ล้านคนเป็นภาษาจีน แปลออกมาประมาณว่า "I support the Hong Kong police. You can all attack me now. What a shame for Hong Kong" หรือแปลเป็นไทยคร่าวๆ ก็คือ “ฉันสนับสนุนตำรวจฮ่องกง มารุมฉันได้เลย ฮ่องกงนี่ช่างน่าละอายจริงๆ” แถมติดแฮชแท็ก #Ialsosupportthehongkongpolice พร้อมอีโมจิรูปหัวใจคิ้วท์ๆ อีกต่างหาก
โพสต์ที่ว่านั้นมีคนกดไลก์ไปกว่า 72,000 ไลก์ แถมแชร์ออกไปกว่า 65,000 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง!
ทีนี้คนเค้าก็เดือดกันขึ้นมาเลย โดยเฉพาะฝั่งฮ่องกง ไต้หวัน และพี่ไทยเราด้วย (ช่วงนั้นเกิดขึ้นไล่เลี่ยกับเหตุการณ์ "พันธมิตรชานม" ครับ)
สุดท้ายจึงเกิดเป็นกระแสต่อต้านและเรียกร้องให้บอยคอตหนังเรื่องมู่หลาน (ที่ยังไม่ได้เข้าโรงฉาย) แล้วก็บู้มมม เกิดเป็นโกโก้ครันช์ เอ๊ย! เป็นแฮชแท็ก #BoycottMulan นี่เองครับ
ถามว่าเดือดยังไง บอกได้เลยว่าเดือดแบบระอุ ไข่ต้มสุกกันทีเดียว
หลายเสียงในโซเชียลมีเดียก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมไปสนับสนุนตำรวจฮ่องกงที่ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างนั้นล่ะ
ยิ่งไปกว่านั้นคือพูดว่าทำไมหลิวอี้เฟยถึงแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นพลเมืองอเมริกัน
เดือดไปอีกคือการแท็กไปยังแอคเคาต์ดิสนีย์เพื่อร้องเรียนถึงพฤติกรรมนี้ และเรียกร้องให้แบรนด์อาร์มานีและโชเมต์ปลดหลิวอี้เฟยออกจากการเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย
ฝั่งพี่จีนว่าไง แหม เค้าก็ออกมาชื่นชมว่าการกระทำของหลิวอี้เฟยช่างดูเป็นชาวจีนที่เชื่อมั่นในรัฐบาลรวมถึงการปกครองของจีน สนับสนุนความเป็นจีนเดียว (One China) ได้ดีมากๆ น่ะสิ
และว่าก็ว่านะ ช่วงนั้นเองก็เกิดโควิดระบาดหนักๆ พอดี ทำให้หนังเรื่องมู่หลานถูกเลื่อนฉายออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ที่บอกว่าครั้งแล้วครั้งเล่านั่นก็คือถึงจะเป็นหนังฟอร์มยักษ์ แต่ก็ถูกเลื่อนกำหนดฉายมาแล้วมากถึง 4 ครั้งเลย
กำหนดการเข้าฉายเดิมจะเป็นวันที่ 27 มีนาคมครับ แล้วก็เลื่อนมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายเพิ่งจะได้มาฉายในวันที่ 4 กันยายนนี่เอง
ขอพูดถึงเรื่องที่ว่า ทำไมการกระทำนี้ของหลิวอี้เฟยถึงได้ผลลัพธ์ที่ออกมารุนแรงขนาดนี้หน่อย
อันนี้คือสามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเด็นคือเธอออกมาสนับสนุนตำรวจที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม (ซึ่งการกระทำนี้ของตำรวจฮ่องกงถูกจวกยับจากทั่วโลกเลยนะ)
กับอีกประเด็นคือการกระทำนี้ทำให้บรรดาผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง หรือนักเคลื่อนไหวในไต้หวันที่ออกมาเรียกร้อง "นโยบายจีนเดียว" หรือ "One China" ของจีนไม่พอใจเอามากๆ เด้อออ
ตอนมู่หลานได้ฉาย โจชัว หว่อง ยังออกมาทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ เรียกร้องให้ทุกคนที่เชื่อในสิทธิมนุษยชนร่วมกันบอยคอตหนังเรื่องนี้ หรือเนติวิทย์ของบ้านเราเองก็ออกมา take action เรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
แต่มันก็นับได้ว่าเป็นความลี้ลับของจักรวาลอีกเหมือนกันที่ว่าหลายๆ คนยังไม่เข้าใจถึงเรื่อง One China หรือนโยบายจีนเดียวนี่สักเท่าไร แต่พอคิดว่าสื่อไทยกระแสหลักเดี๋ยวนี้เค้าเล่นกันแต่ข่าวอะไรไม่รู้ แถมรับข่าวจากสำนักข่าวหลักฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่มาแปลมันก็เข้าใจได้อยู่ (แหะๆ)
สำหรับเรื่องการสนับสนุนวันไชน่านี่พูดให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ คือ การที่คนคนนั้นเห็นด้วยถ้าพี่จีนจะกำจัดคนเห็นต่างนั่นแหละครับ มันไม่ได้เข้าใจยากเลยว่าทำไมคนเขาถึงเดือดกัน
ซึ่งความจริงเรื่องนี้มันก็มีรายละเอียดยิบย่อยอีกเยอะ อย่างการพยายามลบวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อย หรือการพยายามกลืนกินชาติอะไรทำนองนี้
คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องวันไช่น่า ไม่รู้เรื่องคนธิเบตเผาตัวเองประท้วง ไม่รู้เรื่องค่ายกักกันอุยกูร์ ซึ่งความจริงเรื่องพวกนี้ก็มีสาเหตุจากเรื่องเดียวกันทั้งนั้นคือการพยายามกลืนกินชาติ
ใครอยากรู้ว่าประเด็นนี้มันสะเทือนใจแค่ไหนก็ลองดูรายการด้านล่างนี้ดูครับ ฉายมานานแล้วล่ะแต่ตอนนี้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งเพราะกระแสแบนมู่หลานเลย
ถ้าไม่พูดถึงเรื่องนักแสดงบ้งแล้ว บทหนังก็บ้งเหมือนกันนะ คนส่วนใหญ่ที่ไปดูมาเค้าก็ว่างี้กันทั้งนั้น
อันที่จริงคนก็เริ่มไม่พอใจกันตั้งแต่ประกาศจะสร้างแล้วตัดบทโน่นนี่ออกเพียบแล้วล่ะ พอมามีประเด็นที่นักแสดงสนับสนุนการใช้ความรุนแรงมันเลยลามไปถึงบรรดาคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง อินฟลูเอ็นเซอร์ต่างๆ ที่มีคนติดตามเยอะ กับการออกมาสนับสนุนวันไชน่าของพวกเขาอีก
อย่างที่บอกครับ ใครจะไปดูหรือไม่ไปดูหนังมันก็สิทธิของเรา จะยังสนับสนุนดาราที่ชอบต่อไปแม้เค้าจะสนับสนุนวันไชน่าหรือไม่ก็สิทธิของเราเหมือนกัน แต่เราไม่มีสิทธิไปดีเฟนด์อะไรแทนเค้านะครับ ทุกคนมีราคาที่ต้องจ่ายเหมือนกัน
เฮ้อ แต่ก็นะ... รักแท้แพ้วันไชน่าจริงๆ ครับ
Tag :
“โอ้โห ได้วิวนี้เลยเรอะ คอนโดอยู่ตรงนี้เลยจริงดิ นี่มันอยู่ท่ามกลางดง รีสอร์ท โรงแรม เลยนะ“ ผมเผลอหลุดปากออกมา เมื่อได้เห็นภาพโครงการครั้งแรก
"LIFE สาทร - นราธิวาส 22"...นี่น่าจะเป็น คอนโด LIFE ที่มีคนสนใจมากที่สุดในปี 2025
"KAVALON" พัฒนาโดย "เจ้าพ่อแคมปัสคอนโด" แห่งยุคอย่าง AssetWise ซึ่งนี่ก็เป็นโครงการที่ 6 แล้ว ในโซน ม.กรุงเทพ รังสิต
วันก่อนเข้าออฟฟิศไปแถวๆ โชคชัย 4 นึกขึ้นได้ว่า เออ มันมีคอนโดโครงการหนึ่งของ SC Asset แถวๆ นี้นี่นา เรายังไม่เคยไปดูทำเลเลยแหะ!! COBE Ladprao - Sutthisan (โค้บบ์ ลาดพร้าว-สุทธิสาร) งานนี้เลยถือโอกาสลองเดินจ้ำอ้าว ไปส่องดูทำเลหน่อยซิ ว่าจะดีซักแค่ไหนกันเชียว
ที่ดินศูนย์กลางเมืองไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ร้อนฉ่า
ส่องโครงการรัฐกันบ้างครับ หลังจากที่เค้ามีการเปิดจองสิทธิ์โครงการ 'บ้านเพื่อคนไทย' ไปตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ปิดลงทะเบียนไปเรียบร้อยแล้ว
ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดอยู่ที่ 1.75% ต่อปี
เมื่อความหวานในใจต่ำเกินไป ชวนทุกคนมาเติมความหวาน กับเครื่องดื่มใหม่จากคริสปี้ครีม Krispy Kreme Sweet Pink Milk
มันจะมีอยู่รสชาติหนึ่งครับ ที่ไม่ว่าจะได้ลิ้มรสเมื่อไหร่ ก็จะนึกถึงวันวานตอนเป็นเด็กตลอด นั่นก็คือ 'โอวัลติน'!! กินทีไรเป็นต้องฟินเสมอ
พาชิมพิซซ่าโฮมเมดร้านดังประจำตลาดนัดจตุจักรที่แมสและสบายกระเป๋าที่สุดในตอนนี้!
วันนี้มีโอกาสได้เข้าไปร่วมฟังเสวนาในหัวข้อ 'อยู่สูงอย่างมั่นใจอาคาร SC ปลอดภัย 100%'
"MX27" ช่วง "อโศก-พร้อมพงษ์" นี่มันดงโรงแรมชัดๆ