สามสี่วันก่อนเพิ่งมีเรื่องให้ตื่นตาตื่นใจกันไปกับโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่ในบ้านเราที่เพิ่งได้ฤกษ์เปิดการเรียนการสอน
ผมเห็นหลายคนฮือฮามาก ตัวผมเองก็ว้าวเหมือนกัน เพราะโรงเรียนนี้นับได้ว่าเป็นโรงเรียนชื่อดังจากเกาะอังกฤษแถมยังมีระบบการศึกษาที่นับได้ว่ายอดเยี่ยมอีกแห่งหนึ่งด้วย
แน่ล่ะ โรงเรียนที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้เป็นโรงเรียนไหนไปไม่ได้นอกจาก "King's Bangkok" นี่เอง
ผมว่าหลังจากมีกระแสมาในบ้านเรา ผู้ปกครองของเด็กๆ หลายคนน่าจะเริ่มสนใจกันละ แต่โรงเรียนแบบนี้ค่าเทอมมักจะสูงครับ พูดไปพูดมามันก็เป็นเหมือนการซื้อสังคมให้ลูกนั่นแหละ ใครจ่ายไหวและพึงพอใจก็จ่ายไป แต่โรงเรียนนานาชาติที่ cost ถูกลงมาหน่อยในบ้านเราก็มีเหมือนกัน ยังไงวันนี้เดี๋ยวผมขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆ ของโรงเรียนนี้ก่อน เผื่อมีผู้ปกครองคนไหนสนใจเตรียมตัวส่งลูกเรียนปีการศึกษาหน้ากันเนอะ
ถ้าให้พูดถึงหน่อย สำหรับ "King’s College" นั้น ผมว่าหลายๆ คนน่าจะพอคุ้นหู เคยได้ยินชื่อโรงเรียนนี้กันมาบ้าง แต่สำหรับใครที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ให้เล่าคร่าวๆ คือ "King’s College" ในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็น "สาขา" ของทางฝั่งอังกฤษครับ
ตัวโรงเรียนนับได้ว่ามีชื่อเสียงอยู่ในลำดับ Top ของประเทศอังกฤษเลยนะ ทั้ง King’s College School Wimbledon (KCS) และ King’s College University London
ซึ่งสำหรับตัว KCS ที่ไทยนับได้ว่าเป็นแห่งที่สามของเค้าครับ เพราะก่อนหน้าตัวที่กรุงเทพฯ ก็จะมีอยู่อีก 2 แห่งที่จีน คือ King's College School Hangzhou กับ Nanwai King's College School Wuxi
King’s College บ้านเราตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามผืนสุดท้ายบนถนนรัชดาภิเษก-พระราม 3 ห่างจากถนนสาทรเพียงแค่ 4 กิโลเมตร ใกล้กับจุดเชื่อมต่อทางด่วนทุกสายเลยด้วย ผมเลยรู้สึกว่าเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบของเค้าแล้ว
เพราะถ้าเราไปดูโรงเรียนใหญ่ในกรุงเทพฯ มักจะมีปัญหาเรื่องการเดินทางกันเยอะหน่อย แต่ฝั่งของทาง King’s College นั้นถนนสองด้านรวมกันแล้วมีกว่า 10 เลน ความกังวลใจของผู้ปกครองในเรื่องการจราจรติดขัดรอบบริเวณโรงเรียนจึงถือว่าเบาบาง แต่ผมก็ได้ยินมาว่าทางโรงเรียนเค้าเตรียมพื้นที่จอดรถในอาคารไว้ถึง 250 คัน ประกอบกับช่วงแรกๆ เด็กไม่ค่อยเยอะเท่าไร ในอนาคตก็น่าจะยังสามารถรองรับได้อย่างเพียงพอครับ
ขอพูดถึงเรื่อง Facilities สักหน่อยดีกว่า พื้นที่โรงเรียนเค้ามีกว่า 41,000 ตารางเมตรนะ เพราะงั้นสิ่งแรกที่เราแน่นอนใจได้อยู่แล้วคือพื้นที่โรงเรียนมันต้องกว้างขวางมาก รองรับทุกๆ ความซนของลูกหลานเราแน่นอน 5555
ในเรื่องของ Classrooms เค้าจะเน้นไปที่การเรียนรู้ในยุคดิจิทัลครับ และที่นี่จะมี Early Years Centre ที่ออกแบบมาให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะต่างๆ อย่างครบครันเลย
นอกจากห้องเรียนสี่เหลี่ยมแล้วที่นี่ยังมาพร้อมสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่, รางจักรยาน, ห้องทำอาหาร, สระว่ายน้ำและพื้นที่เล่นน้ำ, ห้องแล็บวิทยาศาสตร์ที่ขนมาให้กัน 4 ห้อง แบ่งเป็นห้องที่รองรับวิทยาศาสตร์ทั่วไป, เคมี, ฟิสิกส์ และชีววิทยา นอกจากนี้ก็มีห้องไอซีที, ห้องศิลปะ ห้องสมุดวงกลมให้พื้นที่เปิดโล่ง และห้องประชุมขนาดใหญ่ด้วยครับ
ในเรื่องของ Activity นั้นผมว่าก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน เพราะรู้มาว่าที่นี่มีสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกขนาด 50 เมตรด้วย อาคารกีฬาในร่มก็มีพร้อมเสร็จสรรพ สนามบาสเก็ตบอลขนาดใหญ่ 3 สนาม, สนามฟุตซอลในร่ม, ห้องออกกำลังกาย, หน้าผาปีนกำแพง, ลู่วิ่งในร่ม กับพื้นที่ที่รองรับการทำกิจกรรมอื่นๆ ก็จัดเตรียมไว้เพื่อรองรับในทุกๆ กิจกรรมเลยครับ
เด็กๆ ช่วงวัยประมาณนี้ต้องชอบวิ่งเล่นกันอยู่แล้ว การมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมแบบนี้ผมว่าเป็นพื้นฐานของโรงเรียนทั้งหลายเลย อ้อ แล้วก็ที่นี่นั้นนอกจากจะมีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬาแล้วยังมีพื้นที่สันทนาการอีกกว่า 2,000 ตารางเมตรให้เด็กๆ ได้ปรับเปลี่ยนในการทำกิจกรรมต่างๆ ตามความต้องการของพวกเค้าด้วยนะ
ส่วน Facilities อื่นๆ ที่นอกเหนือจากนี้จะเป็นพวกสนามเด็กเล่น หอประชุม 600 ที่นั่งเอาไว้ให้เด็กทำการแสดง เลานจ์สำหรับผู้ปกครอง แล้วก็โรงอาหารอีก 600 ที่นั่งครับ
พูดถึงตรงนี้คงเริ่มมีผู้ปกครองสนใจกันแล้ว ที่นี่เค้าเปิดสอนกันตั้งแต่ระดับ Pre-Nursery หรือก็คือเด็กอายุ 2 ขวบ ไปจนถึงชั้น Year 13 หรือวัยรุ่นอายุ 18 ปีเลยนะ (เกรด 12 หรือก็คือมัธยม 6 นั่นแหละครับ) แต่ว่าในส่วนของปีนี้ต้องบอกก่อนว่าทางโรงเรียนจะเปิดเฉพาะระดับชั้น Pre-Nursery ไปจนถึง Year 6 แล้วจากนั้นถึงจะค่อยๆ ไล่เปิดไปจนถึงระดับ Year 13 พ่อแม่คนไหนที่มีลูกโตแล้วและสนใจให้ลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนนี้ก็สามารถรอประกาศของทางโรงเรียนได้นะว่าปีการศึกษาหน้าเค้าจะไล่เปิดถึงชั้นไหน
PRE-PREPARATORY SCHOOL
Pre-nursery - Year 2 (Ages 2+ - 7 years)
ระดับชั้น Early Years และ Key Stage 1 เด็กๆ จะได้รับการวางรากฐานทางการศึกษา ทั้งเรื่องการเรียนวิชาพื้นฐานทั่วไปกับการทำกิจกรรมแบบสมวัยครับ ผมเห็นโปรแกรมของเค้าแล้ววางแผนจะสอนจีนแมนดารินให้เด็กด้วยนะ เจ๋งมาก
JUNIOR SCHOOL
Year 3 - 6 (Ages 7+ - 11 years)
ช่วงชั้นนี้จะเน้นทักษะการคำนวณ การพูด และการฟังครับ ด้านอื่นๆ ก็จัดเต็มเหมือนกัน ที่สำคัญคือมีการเรียนการสอนในเรื่องของการดนตรีและการละครเพิ่มเข้ามาด้วย
SENIOR SCHOOL
Year 7 - 13 (Ages 11+ - 18 years)
ระดับชั้นนี้นอกจากการเรียนรู้ที่หลากหลายแล้วโรงเรียนจะมีการให้คำแนะนำแบบรายบุคคลเพื่อให้เด็กค้นหาความชอบของตัวเอง และให้อาจารย์แนะแนวต่อเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ระดับมหาวิทยาลัยครับ
สุดท้ายแน่นอนว่าต้องพูดถึงเรื่องนี้... ค่าเทอม
ถ้าพูดถึงเรื่องค่าเทอมแล้ว King’s College นับว่าเป็นโรงเรียนที่มีค่าเทอมสูงที่สุดในไทยตอนนี้เลยก็ว่าได้
ให้สรุปเลยคือเงินที่ผู้ปกครองอย่างเราๆ ต้องจ่ายจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนครับ ส่วนแรกจ่ายตอนแรกเข้า ซึ่งจะมีในส่วนของ Application Fee (5,000 บาท), Registration Fee (225,000 บาท) และ Security Deposit (200,000 บาท)
ส่วนที่สองจะเป็นค่าใช้จ่ายรายปี ซึ่งตารางด้านล่างจะเป็นค่าเทอมของช่วงปีการศึกษา 2020-2021 นี้นะครับ หลังจากนี้อาจมีการปรับขึ้น ลดลง หรือคงเดิมก็ได้
เห็นราคาที่ต้องจ่ายแล้วแน่นอนว่า...แพง! แต่ต้องบอกก่อนว่าเงินส่วนนี้เค้ารวมค่าอาหารกลางวัน, ค่าขนมช่วงเช้าและช่วงบ่าย, ค่า EAL, ค่าใช้จ่ายในกิจกรรมร่วมหลักสูตรต่างๆ, ค่าใช้จ่ายใน clubs หรือ societies ที่นักเรียนเข้า, ค่าอุปกรณ์เครื่องมือรวมถึงหนังสือต่างๆ แล้วก็มีในส่วนของ education needs ด้วยครับ
เห็นรายละเอียดโรงเรียนแบบนี้แล้วไม่รู้ผู้ปกครองทั้งหลายคิดกันยังไง แต่ถ้าถามว่ามันคุ้มค่ามั้ยก็คงต้องยอมรับว่าคุ้มจริง ด้วยชื่อเสียงอะไรต่างๆ ของเค้าด้วยแล้ว อย่างน้อยความเป็น King’s College มันก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นโรงเรียนต้นแบบ แถมเป็นหนึ่งในโรงเรียนของอังกฤษที่ประสบความสำเร็จด้านการศึกษาสูงที่สุดในโลกด้วยนะ
ผมมองว่ามันก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ปกครองที่มองหาโรงเรียนที่โดดเด่นในเรื่องของความเป็นเลิศทางวิชาการแต่ก็ต้องมีกิจกรรมนอกห้องเรียนที่เหมาะสมสำหรับเด็กในยุคนี้นะครับ
และถ้าพูดถึงความสำเร็จที่ผ่านมาของยี่ห้อ King’s College นั้นเป็นที่รู้กันดีว่านักเรียนของโรงเรียนนี้มีเปอร์เซ็นต์การสอบเข้าเรียนในออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ได้ปีละประมาณ 25% เลยนะ แถมนักเรียนมากกว่า 90% ของเค้ายังสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ตัวเด็กเลือกไว้เป็นอันดับแรกได้ด้วย ทั้งในประเทศอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาเลย
เม้าท์นิดเพราะผมได้ยินมาว่าในส่วนของ King’s College นั้นเค้าคัดเลือกครูผู้สอนจากใบสมัครมากกว่า 1,500 ใบให้เหลือเพียงแค่ 38 คน พูดง่ายๆ คือตั้งใจถอดแบบความเป็น King’s College School Wimbledon มาในทุกๆ ด้านเลยอ่ะแหละ
ท้ายที่สุดคือผมชอบหลักสูตรของเค้านะ เพราะไม่ได้เน้นแค่วิชาการ แต่ก็ให้ความสำคัญกับด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ การแสดง ฯลฯ พูดง่ายๆ คือให้ความสำคัญกับทุกอย่างแบบเท่ากันหมด ผู้ปกครองคนไหนที่มีกำลังจ่ายไหวก็อาจจะลองเก็บไว้เป็นตัวเลือกในใจสำหรับการส่งลูกๆ หลานๆ ไปเรียนได้ครับ เพราะเอาตามตรงแม้ค่าใช้จ่ายมันสูงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันคุ้มค่ากับการปูพื้นฐานความสำเร็จในอนาคตของเด็กๆ จริงๆ
ทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศเปิดเทอมวันแรกของ King’s College Bangkok กันครับ
photo credit: kingsbangkok.ac.th, kingsbangkok
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555