นโยบายเปิดประเทศยังเป็นข้อถกเถียงอยู่ในสังคมโซเชียลอยู่บ้าง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ผมเชื่อว่าหลายฝ่ายยังคงกังวลกันอยู่มาก ล่าสุดทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์นโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 

        นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยหลังนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มแรกเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยด้วย special tourist visa (STV) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดประเทศอย่างจำกัดในวันที่ 20, 26 ตุลาคม และ 1 พฤศจิกายน การท่องเที่ยวจะเริ่มประเมินผลการเปิดเดินทางขั้นแรก (STV1) หากในระหว่างนี้จนถึงวันที่ 17 พ.ย. พบผู้ติดเชื้อเพียงแค่คนเดียว ก็จะไม่ผลักดันให้มีการเปิดประเทศไปสู่ STV2 แน่นอน

        แต่หากในการประเมิน STV1 ไม่พบผู้ติดเชื้อเลย จะมีการเสนอให้ขยับขั้นตอนการเปิดประเทศไปสู่ STV2 โดยจะกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องกักตัวอยู่ในห้องพัก 7 วัน และ บริเวณในโรงแรมอีก 7 วัน ซึ่งหาก STV2 ผ่านการประเมินและได้ความมั่นใจจากประชาชนไปแล้ว การท่องเที่ยวฯ จะเสนอให้เข้าสู่ STV 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนการเปิดประเทศอย่างจำกัด โดยนักท่องเที่ยวไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ทันที หากผ่านการตรวจเชื้อที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

        โดยในวันที่ 20 ตุลาที่จะถึงนี้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 120 คนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยผ่านสนามบินสุวรรณภูมิและจะกักตัวในพื้นที่กรุงเทพ 26 ตุลา จะมีนักท่องเที่ยวจากกว่างโจวมาอีกราว 100 คนซึ่งจะเดินทางเข้าสู่ภูเก็ต และ 1 พฤศจิกายน จะมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มซึ่งจะมาจากสแกนดิเนเวียมาอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของเอกสารเพราะมีนักท่องเที่ยวจากเมืองเสี่ยงต่ำของเดนมาร์กมีความประสงค์ขอเดินทาง แต่เนื่องจากเดนมาร์กยังเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยง

        พร้อมขยับการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศด้วยการเตรียมเสนอแพ็กเกจสนับสนุนการท่องเที่ยววันธรรมดาต่อ นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นจะขอแบ่งงบประมาณจากโครงการเที่ยวปันสุขที่เหลืออยู่มาสนับสนุนส่วนลด 40% สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาทต่อทริปต่อคนให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 55-75 ปีที่ซื้อแพ็กเกจผ่านบริษัททัวร์