ยังจำได้เลยว่า สมัยเรียนมีเพื่อนคนนึง บ้านมันอยู่แถว ๆ นี้แหละ "สี่แยกไฟฉาย" เวลาเราโทรหามันทีไรมันมักจะบอกว่า ไฟฉายแล้ว ๆ 

        ไฟฉาย สำหรับผมแต่ก่อนเป็นเพียงข้ออ้างของเพื่อนประมาณว่า ข้าออกจากบ้านแล้ว เอ็งรอแพร๊บบ แต่ตอนนี้ภาพจำมันเปลี่ยนไปแล้วนะ

        นับตั้งแต่รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินเข้ามามีบทบาทในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างฝั่งธนฯและฝั่งพระนคร ดูเหมือนว่าช่วงสถานีไฟฉาย จะเป็นอีกทำเลที่ดูจะมีเสน่ห์ไม่เบา เพราะฮอตเสียจนมีตึกรามคอนโดหลายเจ้า เริ่มมาจับจองพื้นที่กันบ้างแล้ว

        ผมเองก็เลยต้องมาพิสูจน์ความเป็นทำเลเจ้าเสน่ห์ตรงนี้กับเข้าเสียบ้างแล้ว เลยขอถือโอกาสมาเดินระลึกถึง ย่านนี้เสียหน่อย แต่วันนี้ผมมีจุดหมายปลายทางนะ ถือโอกาสในการมาแนะนำอีกโครงการน่าสนใจในช่วงทำเล "สถานีไฟฉาย" อย่าง ทำเล "NUE Noble Faichai-Wang Lang (นิว โนเบิล ไฟฉาย-วังหลัง)" 

        ผมเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้า จุดหมายปลายทางคือสถานีไฟฉาย เป็นเส้นทางรถไฟฟ้า MRT ส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน นั่นเอง 

        สี่แยกไฟฉายเป็นทำเลที่ค่อนข้างหลากหลาย เดินทางได้สะดวกหลากหลายเส้นถนน บริเวณสี่แยกไฟฉาย จะมีถนนเส้นสำคัญ ๆ ที่เข้ามาตัดกันทั้ง ถนนจรัญสนิทวงศ์(เชื่อมต่อทั้งถนนบรมราชชนนี และ เส้นท่าพระ) ถนนพรานนก(ซึ่งจะเชื่อมกับถนนอิสรภาพ) ถนนพุทธมณฑลสาย4-พรานนก

        เส้นพุทธมณฑลสาย4-พรานนก นี่ผมเคยเขียนรีวิวแนะนำร้านกาแฟฮิป ๆ ไปแล้วอย่าง Nana Hunter ไปเส้นนี้แหละครับ ขับขึ้นไปอีกนิดเดียว ไปอ่านรวิวกันได้นะ  คลิก (ขายของนิดนึง อิอิ)

         ส่วนตัวโครงการ นิว โนเบิล ไฟฉาย-วังหลัง ตั้งอยู่ติดถนนพรานนกครับ ตัวโครงการนั้นใกล้รถไฟฟ้ามาก ๆ แค่ 80 เมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินยังไม่ถึง 5 นาทีเลยครับ

        โครงการมีไวนิลติดไว้แล้วนะ ตัวโครงการติดถนนพรานนกเส้นนี้สามารถไปเชื่อมต่อกับถนนอิสรภาพได้ครับ ที่สำคัญเส้นนี้ยังสามารถไปสู่ศิริราช-วังหลังได้ด้วยเน้อ

        บริเวณที่ตั้งโครงการ อาจจะดูเงียบไปสักนิด แต่ขยับไปไม่ไกลนัก ทางเส้นพรานนก เราจะเจอกับสถานที่ฝากท้องสำคัญของย่าน อย่างตลาดพรานนก หรือ จะขยับมาเส้นจรัญสนิทวงศ์ เดินย้อนมาทางเส้นรถไฟฟ้าสถานีบางขุนนนท์ (แต่ไม่ถึงนะ) จะเจอทั้ง Foodland แมคโคร ที่สำคัญคือตลาดบางขุนศรี ตลาดแห่งนี้อุดมสมบูรณ์มาก ๆ เพราะนอกจากจะมีของสดแล้ว ที่นี่เค้ายังจัดโซนฟู๊ดคอร์ทต่างหากอีกด้วยนะครับ รับรองว่าอยู่ที่นี่ไม่อดตาย แต่จะอ้วนแทนแน่นอน อิอิ

        นอกจากตลาดสดแล้ว ร้าน Street Food เนี้ย เพียบ ของดีของเด็ดทั้งน้านนน อันนี้ขนาดผมไปถ่ายช่วงบ่าย ๆ นะ ตอนเย็นนี่ตรึม!!

        นอกจากเรื่องปากท้องแล้ว ทำเลแห่งนี้ค่อนข้างครบครัน และตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก อย่างตอนที่ผมเดินย้อนมา Foodland ก็เจอโรงพยาบาลอย่างโรงพยาบาลวิชัยเวชซึ่งนับว่าอยู่ใกล้ตัวโครงการมาก ๆ ดังนั้นเจ็บป่วยเมื่อไหร่รับประกันได้ว่าอยู่ใกล้มือหมอแน่นอน หรือจะเป็นโรงพยาบาลใหญ่อย่างศิริราชเองก็ไม่ได้ไกลมากนักเช่นกัน

        อ่ะ กลับมาที่โซนปากท้อง ผมอยู่ที่แมคโคร แล้วเห็นอะไรแว็บ ๆ ไหมครับ?... ใช่แล้ว ตรงนั้นคือ Sales Gallery ของโครงการนั่นเอง ซึ่งมาตั้งติดกับทางเข้าแมคโคร จรัญฯ เลย ห่างจากที่ตั้งโครงการจริงพอควร การเดินทางมา Sales Gallery ไม่ยากครับ สามารถนั่ง MRT มาลงที่สถานีไฟฉาย ออกที่ทางออก 3 แล้วเดินย้อนมาทางแมคโคร จรัญฯ Sales Gallery จะตั้งเด่นตระหง่านสะดุดตาอยู่ติดถนนใหญ่เลย

        ตัว Sales Gallery ของเค้า เปิดทำการเป็นเรียบร้อยแล้วนะ ไหน ๆ ก็มา ไปแวะชมห้องตัวอย่างสักหน่อยดีกว่าเนอะ 

        พูดถึงตัวโครงการกันแบบคร่าว ๆ สักเล็กน้อย พื้นที่โครงการอยู่ที 1-2-94.8 ไร่ ครับ ซึ่งจะมีด้วยกัน 1 อาคาร เป็น High Rise 22 ชั้น (บวกอีก 2 ชั้นใต้ดิน) มีด้วยกัน 355 ยูนิต 1 ร้านค้า มีแบบห้องด้วยกัน 4 แบบ คือ 1 Bedroom 22.50-23.30 ตร.ม. , 1 Bedroom 26 ตร.ม. , 1 Bedroom 30.50. , และ 1 Bedroom Plus 34.50 ตร.ม. 

      กลับมาที่ภายใน Sales Gallery ต่อ ที่นี่จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 3 ห้องนะครับ เป็นห้อง Type A8 26.00 ตร.ม. , Type A15 30.50 ตร.ม. , Type 12X 34.50 ตร.ม.

        Sales Gallery ของที่นี่เค้ามาในโทนอบอุ่น ๆ ครับ มีความไม้ ๆ สีเบจ ๆ สีขาวตัดกับสีน้ำตาล รูปแบบเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์น ยิ่งห้องตัวอย่างนี่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมากจากPinterest มาก ๆ

        มาชมห้องตัวอย่างกันครับ ห้องแรก Type A8 26.00 ตร.ม. อย่างที่ผมบอกเอาไว้ ที่นี่เค้าตกแต่งด้วยโทนสีที่อบอบอุ่น มีความไม้ ๆ เบจ ๆ เป็นซิกเนเจอร์ ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน แต่ยังไม่ใช่ไซส์เริ่มต้นนะ ตัวห้องแบ่งออกเป็นโซนครัวบริเวณทางเข้าเลยครับ ถัดไปถึงจะเป็นโซน Living area ทางด้านขวามือคือห้องนอนครับ ซึ่งห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนอีกทีนะ Type นี้เป็นห้องขนาดพอเหมาะ พอควร สามารถอยู่ได้จริง ส่วนตัวมองว่าเป็นห้องที่เหมาะกับคนโสดนะ 5555 สามารถอยู่ได้ครับไม่อึดอัด

        ห้องต่อมา Type A15 30.50 ห้องนี้จะใหญ่มาหน่อย ยังเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนอยู่ครับ แต่จะแตกต่างจากห้องแรกหน่อย เปิดประตูเข้าไปเราจะเจอ โซน Living area ก่อนเลยครับ มีชั้นวางของที่สามารถเก็บรองเท้า และสิ่งของไว้ทางเข้า ซึ่งส่วนนี้แน่นอนว่านำไปใช้งานได้จริงอยู่แล้วครับ ยังคงใช้เฟอร์นิเจอร์โทนอบอุ่นเช่นเคย ยิ่งเสริมให้ห้องดูสว่างยิ่งขึ้นไปอีก ถัดไปจาก Living area จะเป็นครัว ซึ่งห้องนี้ไม่เหมือนห้องที่แล้วคือ ตรงนี้จะเป็นครัวปิด หายห่วงเรื่องทำอาหารแล้วกลิ่นคลุ้งในห้อง ถัดจากครัวถึงจะเป็นระเบียงครับ ส่วนห้องนอนนั้นอยู่ทางขวามือของ Living area ส่วนห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนเช่นกันครับ

        ห้องสุดท้ายใน Sales Gallery Type 12X 34.50 ตร.ม. หรือเรียกชื่อเล่นให้ติดปากหน่อยก็คือห้อง 1 Bed Plus ห้องนี้ผมว่าจัดสัดส่วนมาดีมากเลยนะ ในเนื้อที่ 34.50 ตร.ม. ทางโครงการจัดออกมาดูกว้างขวางเชียว เปิดประตูทางด้านซ้ายมือเราจะเจอครัวก่อนเลย แต่แอบเสียดายนิดนึงเป็นครัวเปิด คนชอบทำอาหารอาจจะต้องกังวลเรื่องกลิ่นนิดนึง บริเวณตรงกลางห้องเค้าจัดเป็นโต๊ะอาหารเลย แอบชอบเฟอร์นิเจอร์ตรงที่มีที่เก็บของได้ด้วย เดินถัดมาจากโต๊ะอาหารจะเจอมุมพักผ่อนหรือ Living area (ระเบียงห้องจะอยู่ตรงนี้ครับ) ส่วน Plus หรือห้องอเนกประสงค์ จะอยู่ติดกับโซนครัวเลยครับ ตัวโครงการเค้าปรับเป็นห้องนอนเล็กหรือห้องนอนแขก ขนาดห้องกะทัดรัด แต่ยังสามารถวางเตียง Single Bed และตู้ขนาดเล็กได้ครับ หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ครับส่วนนี้ ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางขวามือของ Living area เอ้อ ลืมบอกครับ ห้องนี้ ตัวห้องน้ำอยู่แยกออกมาจากห้องนอนนะ ตัวห้องน้ำอยู่ทางขวามือของทางเข้าเลย 

        ดูห้องตัวอย่างเสร็จแล้ว ถึงเวลาสรุปเลยแล้วกันเนอะ ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งของโครงการ เจาะกลุ่มลูกค้าค่อนข้างชัดมาก ๆ ว่าน่าจะเป็นกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์หรือนักศึกษาเป็นส่วนใหญ่ แต่เอาจริง ๆ ผมว่าทำเลตรงนี้เป็นทำเลที่แม้จะไม่ได้แมสในรูปแบบของการตั้งคอนโดเท่าทำเลอื่น (ในตอนนี้) มากนัก แต่การมาของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เข้ามาอำนวยความสะดวก ผมเชื่อว่าในอนาคต ทำเลย่านนี้น่าจับตามองไม่ใช่น้อย ๆ เลย ยิ่งถนนตัดใหม่อย่าง พุทธมณฑลสาย4-พรานนก เข้ามาด้วยแล้ว การเดินทางยิ่งง่ายขึ้นเยอะ อ้อ ลืมบอกราคาซะได้ ราคาหน้าเว็บไซต์เริ่มต้น 2.41 ล้านบาท* (ตุลาคม 2563)

         รูปแบบห้องของโครงการ เป็นห้องขนาดไม่ใหญ่มากนัก ส่วนตัวขนาดห้องเริ่มต้นอย่างห้อง Studio นี่เหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่า ใครที่คิดอยากอยู่แบบเป็นครอบครัว จริง ๆ ก็มีห้องใหญ่แหละ อยู่แบบครอบครัวขนาดเล็กไม่เกิน 3 คน ก็คงพอไหว ย้ำอีกทีว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นของผมเน้อ แต่ยังไงก็ตาม อยากให้เข้ามาดูห้องตัวอย่างหรือสอบถามกับทางโครงการอีกทีดีกว่า ก่อนจบบทความผมขอฝากลายแทงไว้สำหรับสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือ ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์นี้ได้เลยนะครับ คลิก