ฉันมีความฝัน ที่แม่เคยฝัน ที่ไม่กล้าฝัน ที่คนธรรมดาคนนึงไม่กล้าฝัน แต่เขาก็ให้มา โดยที่ฉันก็แอบฝัน

        ใช่ครับ... ในที่สุดฝันผมก็เป็นจริง ผมจะได้ไปดูท้องฟ้าจำลองแล้ว!!!

        ตั้งแต่ได้ดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอเมื่อหลายปีก่อน ผมก็คิดมาเสมอว่าจะต้องไปดูดาวที่ท้องฟ้าจำลองให้ได้ซักครั้ง

        ยิ่งตอนนี้เห็นว่าเขามี เครื่องฉายดาวมาใหม่ สักพักแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มาดูสักที จะน่าตื่นเต้นขนาดไหน วันนี้แหละจะได้เห็นกัน!

 

 

        ถึงแม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ไป แต่มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูดาวในท้องฟ้าจำลองจริง ๆ เพราะที่นี่ บัตรแต่ละรอบเต็มเร็วมาก

        โดยเฉลี่ยแล้วบัตรทุกรอบจะหมดประมาณเที่ยงกว่า ๆ ของทุกวัน จากรอบแสดงวันอังคารถึงศุกร์ 2 รอบ และเสาร์อาทิตย์ 5 รอบ

        จุดนี้เองที่ทำให้ผมพลาดไปในครั้งแรกที่วัดดวงไป เห็นว่ามีรอบบ่าย 3 เราก็ไปกินลมชมวิวซะนาน มาอีกทีก็อดเสียแล้ว 555

 

 

        เดี๋ยวนี้ดีหน่อยเพราะทางท้องฟ้าจำลองเค้ามี facebook >>> ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ - Bangkok Planetarium (คลิก!!!)

        มาเป็นอีกช่องทางคอยอัพเดตบัตรในแต่ละวันว่าหมดหรือยัง

        เพราะงั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะลองไปเยี่ยมชมก็ต้องเผื่อเวลากันให้ดีนะ

        ที่นี่จะมีรอบแสดงตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

        สำหรับบัตรเข้าชม สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ราคา 30 บาทเท่านั้นเอง และเด็ก 20 บาท โดยจะมีรอบดังนี้

• วันอังคาร 10.00 น.(EN) / 11.00 น. / 15.00 น.
• วันพุธ-ศุกร์ 11.00 น. / 15.00 น.
• วันเสาร์-อาทิตย์ 10.00 น. / 11.00 น. / 13.00 น. / 14.00 น. / 15.00 น.

 

 

        ซึ่งผมขอแนะนำเลยว่าให้มาเช้าไว้ก่อนจะดีมาก

        ยิ่งช่วงนี้ทางท้องฟ้าจำลองมีการรักษาระยะห่างที่นั่งชมแบบ #SocialDistancing ยิ่งทำให้แต่ละรอบจุคนได้ลดลงไปอีก

        ผมลองสอบถามเจ้าหน้าที่ดูเห็นว่าตอนนี้มีการปรับที่นั่งให้เหลือเพียง 100 ที่ต่อรอบ จากปกติ 280 ที่

        เพราะงั้นแต่ละรอบก็จะเต็มเร็วขึ้นไปอี๊กกกกกก

 

 

        พอเข้ามาด้านในห้องดูดาวเราก็จะพบกับที่นั่งนุ่ม ๆ พร้อมเครื่องฉายดาวขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง

        ในชื่อ  'มาร์ค โฟร์ (Mark IV)' ทำงานด้วยระบบกลไกมอเตอร์และเลนส์ 

        ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปลี่ยนระบบฉายดาวใหม่ในรอบ 56 ปี มาเป็นเครื่องฉายระบบดิจิทัล

        ผ่านโปรเจ็กเตอร์เกรดเดียวกับที่หลายประเทศใช้ในโรงละคร หรือท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่

        โดยเครื่องฉายดาวระบบเก่าที่หลายคนคุ้นหน้าตากัน เป็นเครื่องที่ใช้ระบบเครื่องกล ระบบไฟฟ้า

        และระบบแสงทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้ภาพดวงดาวที่คมชัดและสมจริง 

        ส่วนระบบใหม่จะเป็น เครื่องฉายระบบดิจิทัล ที่ฉายภาพด้วยโปรเจ็กเตอร์ 2 ตัว ที่ถูกติดตั้งไว้ข้าง ๆ เครื่องเดิม 

        ข้อดีของระบบใหม่นี้คือ เราสามารถซูมดูดวงดาวได้ใกล้ๆ ขนาดที่เห็นถึงวงแหวนดาวเสาร์แบบเต็มตา

        หรือสามารถขยับหมุนดวงดาวได้ด้วย ซึ่งเครื่องฉายแบบเก่าจะไม่มีฟังก์ชั่นเหล่านี้

 

 

        สำหรับเครื่องฉาย มาร์ค โฟร์ (Mark IV) ในอนาคตอาจถูกเคลื่อนย้ายออกไป เนื่องจากหมดหน้าที่แล้ว

        เพราะงั้นใครที่อยากไปเก็บความทรงจำกับเครื่องดั่งเดิมก็รีบ ๆ กันหน่อยเด้อออ

        ถึงเวลาดูดาว... เจ้าหน้าที่บรรยายว่า สามารถฉายดาวฤกษ์ได้ 9,000 ดวง

        ทั้งดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ 5 ดวง บลา บลา บลา~~~

        ส่วนนี้ผมขอไม่เล่าดีกว่าเนอะ ให้เพื่อน ๆ ได้ไปลองชมกันเองน่าจะได้อรรถรสกว่า 555

 

 

        และสำหรับใครที่ไม่เคยรู้มาก่อน...

        ระบบการฉายดาวที่ท้องฟ้าจำลองฯ สามารถดูตำแหน่งดาวย้อนหลัง หรือในอนาคตล่วงหน้าได้ ถึง 100,000 ปีเลยนะ

        อีกทั้งการฉายดาวที่ให้ชมในแต่ละวันจะเป็นตำแหน่งดาวจริง ๆ ที่จะปรากฎบนท้องฟ้าให้เราเห็นในวันนั้นด้วย 

        ทำให้เพื่อน ๆ สามารถกลับไปนั่งดูดาวเองที่บ้านได้หลังจากชมวิธีการดูดาวจากท้องฟ้าแห่งนี้

        แต่ก็ต้องดูช่วงฟ้าเปิด แล้วก็ทำเลที่มืด ๆ หน่อยนะ

 

 

        แม้ระบบใหม่จะเป็นการใช้โปรเจ็กเตอร์ 2 ตัวทำงานร่วมกัน แต่ก็สามารถฉายภาพเต็มโดมได้เป็นภาพเดียวอย่างไร้รอยต่อ 

        ทำให้เราสามารถชมดาวอย่างเต็มตาได้เช่นเดิมในรูปแบบใหม่ ความยาวทั้งหมด 50 นาที

        แบ่งเป็นการสอนดูดาว 30 นาที และภาพยนตร์เต็มโดม 20 นาทีครับผม

        สำหรับภาพยนต์เต็มโดมนั้นก็จะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนไปในแต่ละเดือน

        สำหรับเดือนตุลาคมที่ผมได้ชมมาจะเป็น โคโคมง ผจญภัยในอวกาศ (COCOMONG A Space  Adventure) 

        เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเกี่ยวกับภารกิจการผจญภัยในอวกาศของเจ้าลิงน้อย “โคโคมง” และบรรดาผองเพื่อน ดูเพลิน ๆ ก็สนุกดีครับ

        หลังจากชมดาวกลางกรุงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว...

        พอเราออกมาด้านนอกก็สามารถเดินเข้าไปชมในส่วนของ นิทรรศการอวกาศ ด้านข้างกันต่อได้ด้วยนะ

        ส่วนนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการเกิดขึ้นของอุกาบาต จำลองเทคโนโลยีบนอวกาศ ห้องน้ำบนดวงจันทร์

        รวมไปถึงชุดของนักบินอวกาศ กล้องโทรทัศน์ จรวดขับเคลื่อนยาน และอื่น ๆ อีกเพียบ!!!

 

 

        ผมว่าใครที่ชอบเรื่องอวกาศอยู่แล้วน่าจะอินกันเป็นพิเศษเลยล่ะ

        ถือเป็นการใช้เวลาเกือบ ๆ ชั่วโมงที่คุ้มค่าในราคา 30 บาทจริง ๆ นะ

        ช่วงเศรษฐกิจแบบนี้มาเที่ยวเก็บเกี่ยวความรู้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีเหมือนกัน

        ชาวติดดอยคนไหนชอบเที่ยวแนว ๆ นี้ ก็ลองชวนเพื่อน ชวนแฟนมากันดูนะคร้าบบบบ