ผมรู้จักเรื่องราวของ "การปฏิวัติฝรั่งเศส" ครั้งแรก สมัยที่อ่าน "กุหลาบแวร์ซายส์" ครับ โห... เก่ามากกกกก แต่ช่วงท้ายๆ นี่ก็อินมากเหมือนกัน
หลังจากนั้นก็ได้ลองหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอ่าน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสและพบว่ามันน่าสนใจมากทีเดียว
ถ้าให้พูดคือก่อนหน้านี้ตัวผมค่อนข้างสนใจเรื่องการปฏิวัติของฝั่งรัสเซียมากกว่า อ่านอย่างเมามันมาก แต่พอได้ทำความรู้จักกับฝรั่งเศสนี่ก็รู้สึกว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยแม้แต่น้อย
ห่างหายมาสักพัก ก็กลับมาอินใหม่เมื่อมีโอกาสได้ดู "Les Misérables" ที่ดันจับใจไอ้คนไม่ชอบดูภาพยนตร์มิวสิคัลอย่างผมมากๆ ยกให้เป็นหนึ่งในเรื่องที่ชอบ แล้วก็มาวันนี้ที่คนเขาฮือฮากันอีกหนกับซีรีส์เรื่องใหม่ที่ลงในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Netflix อย่าง "La Révolution" หรือชื่อภาษาไทย "ปฏิวัติเลือด"
ตัวผมเองก็พลอยตื่นเต้นไปกับเขาด้วยครับ เพราะซีรีส์มันมาได้ตรงเวลาพอดีอย่างกับรู้ใจ นับวันรอฉายแล้วก็เลยรีบเร่งไปดูกัน
คร่าวๆ ตรงนี้คือ "La Révolution" เป็นซีรีส์ที่หยิบเอาเหตุการณ์ปฏิวัติฝรั่งเศสมาตีความใหม่โดยอิงจากเรื่องราวเหตุการณ์ปฏิวัติในครั้งนั้น พร้อมสตอรี่ของโรคระบาดและการต่อสู้ของกบฎกับชนชั้นสูง
พูดให้ถูกคือมันเป็นการนำเอาการปฏิวัติฝรั่งเศสมา Re-imagine ใหม่ ตอนแรกเข้าใจว่าจะเล่าเชิงสารคดีไปเลยแต่อันนี้เปลี่ยนนิดโดยการใส่ความแฟนตาซีเหนือจริงลงไปมิกซ์ด้วย ไม่ได้เล่าตามต้นฉบับเดิมเป๊ะๆ นั่นเอง
"La Révolution" มีเนื้อหาคร่าวๆ คือการเล่าเรื่องในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เหล่าชนชั้นสูงเสวยสุขโดยไม่สนใจมองประชาชนที่กำลังอดอยาก ทำให้เริ่มมีการก่อจลาจลขึ้นในหลายๆ แห่ง
พร้อมกันนั้นก็เกิดโรคระบาดประหลาดอย่าง “เลือดสีน้ำเงิน” ที่กำลังแพร่กระจายในเหล่าขุนนาง ซึ่งฤทธิ์ของมันจะทำให้ผู้ที่ติดเชื้อกระหายเนื้อมนุษย์มากขึ้น และยิ่งกดขี่ไล่ฆ่าสามัญชนไปมากกว่าเดิม
ซึ่งนี่ทำให้ตัวเอกที่เป็นแพทย์อย่าง "โจเซฟ กิโยตอง" พยายามหาทางรักษาโรคร้ายนี้ให้ได้ (ชื่อคุ้นๆ ใช่มั้ย คนนี้แหละที่ต่อมาจะกลายเป็นผู้คิดค้นเครื่องประหารกิโยตินในภายหลัง)
ตัวซีรีส์มีความยาวทั้งหมด 8 ตอนครับ เวลาแต่ละตอนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40-50 นาที มีหลายแง่ทั้งในเรื่องของความเหลื่อมล้ำทางสังคม การรักษาโรค การสืบสวนคดี พร้อมความแฟนตาซีเบาๆ
พูดไปพูดมามันก็มีความคล้าย "Kingdom" อยู่บ้างนะ ตรงที่ตัวละครมีความเหนือมนุษย์ เป็นผีดิบที่ไม่ตายอย่างซอมบี้ แต่ไม่ได้ชวนแหวะและขาดจิตนึกคิดไป พูดไงดีล่ะ รูปลักษณ์คล้ายแวมไพร์แต่ฆ่าแล้วไม่ตายเหมือนซอมบี้นั่นแหละ
การจะนำเอาประวัติศาสตร์มาบวกรวมกับเรื่องแฟนตาซีที่มีทั้งผีดิบและมนต์ดำ มันเลยกลายเป็นการเล่าเรื่องที่ออกจะยากและซับซ้อนไปเสียหน่อย
เพราะตัวละครมหาศาล (แถมแต่ละตัวก็มีบทบาทสำคัญกันทั้งนั้น) การใช้เวลาในการปูเรื่องมันเลยนานไปนิด แถมมีพวกฉากนิมิตรมนต์ดำทั้งหลายมาด้วย ทำให้บางครั้งเราที่เป็นผู้ชมก็เกิดสับสนขึ้นมา แต่พูดถึงเรื่องตัวละครนี่ผมชอบบทของตัวร้ายอย่าง "Donatien de Montargis" มาก แสดงดีเหลือเกิน 5555
ไงก็ตาม ต้องยอมรับว่ารู้สึกเสียดายที่การขยี้ปมการปฏิวัติมันไม่ค่อยเร้าอารมณ์คนดูนัก มาสนุกเอาช่วงท้ายๆ แต่ตัวบทสนทนาทำได้ดี ถึงขั้นสามารถแคปภาพเอามาคู่กับสถานการณ์บ้านเมืองเราในช่วงนี้ได้เหมาะทีเดียว
เรื่องงานสร้างดูลงทุนดีครับ งานภาพก็โอเค แต่ส่วนตัวผมเทใจให้ดนตรีประกอบ เพราะเลือกใช้เพลงบรรเลงเข้ามาแจม แล้วเลือกเพลงได้เข้ากับแต่ละซีนดี อย่างช่วงสุดท้ายใช้เพลง Moonlight Sonata มาทำเป็น New version ใส่คลอเข้าไปด้วย ถือว่าเลือกเพลงได้เฉียบ
รวมๆ แล้วซีรีส์เรื่องนี้มันคือการหยิบเอา "Les Misérables" มาแอดความ "Kingdom" เข้าไปนิด แต่ไม่ค่อยสุดสักทาง มีเรื่องราวการเมืองเข้ามาแต่ไม่ได้เป็นการเมืองจ๋าอย่างที่คิด มีความแฟนตาซีผีดิบแต่ก็ไม่ใช่ผีดิบแหวะๆ วิ่งไล่กัดคนอะไร
มันคือการเปลี่ยนความเป็น "เลือดน้ำเงิน" จากในความหมายเดิมที่เราเข้าใจ ให้มาเป็น "เลือดน้ำเงิน" ที่หมายถึงโรคระบาด แล้วใส่บทบาทสตรีเข้าไปในแง่ของคนที่ตั้งตนเข้าทวงความยุติธรรมจากชนชั้นปกครอง
ถ้าใครคาดหวังมากก็อาจจะผิดหวังเล็กน้อยที่ดูไปแล้วพบว่าซีรีส์เรื่องนี้มันง่วงกว่าที่คาด นั่นอาจเพราะเนื้อเรื่องมันมีหลายจุดที่บังคับให้เราต้องตั้งใจจดจ่อกับเรื่องราว ถ้าเผลอใจลอยไปหน่อยก็คือตามไม่ทัน
แต่ผมว่าซีซั่นนี้เป็นเหมือนการมาเพื่อปูทางสำหรับซีซั่นหน้า เพราะดูทรงแล้วซีซั่นหน้าน่าจะสนุกและโปรดักชั่นยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่ ซีซั่นนี้อยู่ในเมืองโทรมๆ กับบ้านรวยๆ ของขุนนางเป็นส่วนใหญ่ แต่ซีซั่นหน้าผมเดาว่าเรื่องราวน่าจะมีเมนหลักเป็นพระราชวังแวร์ซายแล้วล่ะ
ไปดู "La Révolution ปฏิวัติเลือด" กันได้นะ สตรีมทาง Netflix ครับ ดูจบแล้วจะได้มาพูดคุยกันจ้า
Tag :
นี่คือคอนโดที่ใกล้ "ลานชมเมืองภูเก็ต" บนเขารังมากที่สุด ทำให้คุณเห็นวิวเมืองภูเก็ตสวยๆตัดภูเขา ทะเล และท้องฟ้า ได้อย่างเต็มตา
ไม่อยากจะเชื่อว่า คอนโดที่มีค่าตัวเริ่มระดับ 7 หมื่นกลางๆ/ตร.ม. จะให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ WASHLET (แบบที่ใช้ที่ญี่ปุ่นอ่ะ)
นอกจากทำเลติดถนนพระรามสี่อันโดดเด่นแล้ว ความน่าสนใจของ "The Crown Residences" แห่งนี้ ก็คือ "วิว" ที่หาได้ยากกกมว๊ากกกนี่ละ
เจ้าพ่อทำเลริมถนนเพชรเกษมนี่จะเป็นใครไปไม่ได้แล้วนอกจาก "ชัยพัฒนาที่ดิน"
"Asakan Elysium Phahol 59 Station" (อัสสกาญจน์ อีลิเซียม พหลฯ 59) จาก ASAKAN DEVELOPMENT คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสถานีพหลโยธิน 59 เพียง 50 ม. เท่านั้น!!
'So Origin Sukhumvit 105' (โซ ออริจิ้น สุขุมวิท 105) ถ้ารู้สึกว่าชื่อมันฟังดูแล้วคุ้นๆ หูจังแหะ ใช่ครับ มันคือตัวเดียวกับ 'โซ ออริจิ้น ลาซาล' นั่นแหละ เปลี่ยนตัวห้อยท้ายนิดหน่อย (แต่ส่วนตัวแอบชอบชื่อเก่ามากกว่า)
ไหนใครกำลังจะรีไฟแนนซ์กันบ้าง ใครกำลังผ่อนบ้านอยู่เพลิน ๆ นี่ห้ามลืมเด็ดเลยนะ เพราะหนี้บ้านพอพ้น 3 ปีแรก ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นแบบก้าวกระโดดเลย
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง...
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT พระราม 9 ประมาณ 420 ม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญวิ่งเป็น Loop เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายอื่นมากมาย จะไปไหนก็ง่ายดาย
‘ภูมิสถาปนิค‘ ท่านหนึ่งบอกกับผมว่า “Lanscape โครงการนี้สวยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ไม่มีที่ไหนใกล้เคียงความเป็น ‘สวนแบบ Classic’ ที่เป็น ‘quite luxury’ ได้เท่านี้แล้ว“
เฮ้ย! เนื้อที่ดีมันเป็นแบบนี้นี่เอง 5555
นูเทลล่า ทำมาจากถั่วเฮเซลนัท และ ช็อคโกแล็ต ช็อคโกแล็ตมาจากต้นโกโก้ ถั่ว และ โกโก้ = พืช พืช = ผัก กินผัก = ผอม โอเค กินเมนูนี้ได้แบบไม่รู้สึกผิดแล้ว 5555