เป็นโครงการที่เตะตาผมได้ตั้งแต่แวบแรกที่ได้เห็น และผมก็คิดว่า ไม่ว่าใครถ้าเผลอเลื่อนฟีดเฟซบุ๊กไปเรื่อยๆ แล้วดันเจอโครงการนี้เข้าก็ต้องมีหยุดมองกันแวบหนึ่งเหมือนกันแหละ

        "โอ้โห อย่างกับมี Private Island ตั้งไว้กลางบ้านเลยนี่!" 

        นี่เป็นความคิดของผมระหว่างที่ได้ดู perspective ของโครงการนี้เข้าครับ

        แหม เห็นแล้วมันก็คันไม้คันมือ คันใจยุบยิบๆ อยากจะไปดูของจริงเสียหน่อยเพราะสวยจริงอะไรจริง สุดท้ายผมก็ไม่รีรอแล้ว รีบวาร์ปไปที่โครงการ "Nivass Sukhon 10" ในซอยสุคนธสวัสดิ์ 10 ทันที! (อ่าน ‘นิว๊าส’ นะ เสียงสูงครับ ตอนแรกผมก็นึกว่า ‘นิวาส’ เหมือนกัน 5555)

        ระหว่างที่เรากำลังเดินทาง ผมก็ขอให้รายละเอียดของโครงการนี้คร่าวๆ แก่ท่านผู้โดยสารทุกท่านก่อนแล้วกันครับ

        โครงการนี้เป็นโครงการจากทาง "Nivass Group" หลายคนอาจไม่คุ้นหู แต่ถ้าได้ทำความรู้จักจะพบว่าเค้ามีสไตล์เป็นของตัวเองมากๆ เรียกง่ายๆ ว่า "อินดี้" นั่นแหละ

        ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้สามารถเข้าได้ 2 ทางหลักๆ คือเข้าจากทางถนนนาคนิวาส 48 แยก 7 ประมาณ 300 เมตร หรือไม่ก็เข้าจากถนนสุคนธสวัสดิ์ ซอย 10 ประมาณ 400 เมตร  แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ก็คือที่นี่มีหลายซอยให้ซ่อกแซ่กครับ ทางหนีทีไล่เยอะ เรียกได้ว่ายืดหยุ่นในทุกเส้นทาง

        ภายในซอยมี 7-11 อยู่ประปราย แอบเห็นว่ามีเทสโก้โลตัสเอ็กเพรสด้วย ร้านของกินโลคอลๆ ก็มี

        ทำเลในตอนนี้ จะเหมาะกับคนมีรถนะ การเดินทางสะดวก ส่วนคนไม่มีรถ รออีกหน่อย ในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าเตรียมจ่อเปิดใกล้ๆ อีก 2 สายครับ จะช่วยอำนวยความสะดวกสบายกันมากขึ้น

        เอาล่ะ พูดไปพูดมาเราก็มาถึงตัวโครงการกันแล้ววว แถ่นแท๊นนนน แต่มาถึงแล้วสตั๊นท์กันนิดหน่อย เพราะโครงการนี้ ไม่-ทำ-บ้าน-ตัว-อย่าง ครับ!

        ไม่ทำบ้านตัวอย่างไม่พอ ที่นี่ยังมีแค่ 4 ยูนิต เพราะทาง Nivass Group เค้าเน้นความกะทัดรัด ไม่เอาอารมณ์แบบบ้านจัดสรร ถามเค้าไปว่าในอนาคตจะขยายจำนวนยูนิตให้มากกว่าเดิมมั้ยเค้าก็บอกว่าไม่นะ เค้าไม่อยากหลุดคอนเซ็ปต์ความเป็นตัวเองไป โห สุดไปเลยครับพี่ชาย!

        ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมไม่ทำบ้านตัวอย่าง เค้าก็มีเหตุผลของเค้า ซึ่งพอฟังไปผมก็รู้สึกว่า เออ ผมชอบแนวคิดเค้าอ่ะ

        คือเค้าบอกว่าถ้าทำบ้านแบบเสร็จสมบูรณ์ไปแล้วเนี่ยลูกค้าอาจจะไม่ชอบก็ได้ ทีนี้เค้าเลยเลือกที่จะยื่นแบบให้ลูกค้าดูไปด้วย แก้ไปด้วย จะได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่องแบบบ้าน เรื่องฟังก์ชั่นที่ต้องการอะไรก็ว่าไป

        ถ้าตัวลูกค้าไม่ชอบ หรือรู้สึกว่าเอ๊ะ ตรงนั้นควรเป็นแบบนั้น ตรงนี้ควรเป็นแบบนี้ ทางทีมก็สามารถปรับแก้ตามที่ลูกค้าต้องการได้เลย สามารถเช็คฟีดแบ็คลูกค้าไประหว่างทางได้ด้วย 

        พูดง่ายๆ คือโครงการของ Nivass Group จะเป็นในรูปแบบของการ "ขายก่อน สร้างทีหลัง" ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปี โครงสร้างใช้อิฐแดงด้วย! มั่นใจได้ว่า แข็งแรงทนทานแน่นอน

        หน้าตาที่ได้ออกมาก็คือตามภาพครับ เป็นแบบ luxury แต่สามารถ afford ได้

        ทางทีมเค้าบอกผมว่าสร้างไว้เพื่อให้เป็นซิกเนเจอร์เป็นแฟลกชิปก่อน ซึ่งแน่นอนว่าโปรเจ็คต์ที่ผ่านมายังไม่มีโครงการไหนเกิน 10 ยูนิตเพราะอยากให้ลูกค้าได้บ้านที่ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า ทาง Nivass Group แกก็เลยไม่อยากทำให้มันดูโหล 

        พอคิดตามผมก็รู้สึกว่ามันก็จริงนะ

        ลูกค้ารีเควสอะไรมา ถ้าปรับเปลี่ยนได้เค้าก็จะทำให้เลย บ้านยังไม่สร้างจะแก้อะไรมันก็ง่ายกว่าไปทุบออกไง จำนวนน้อยควบคุมช่างได้การแก้ไขก็ไม่ลำบาก

        สุดท้ายก็จะออกมาในรูปแบบของการที่ลูกค้าสามารถได้บ้านตามสไตล์ที่ตัวเองอยากได้จริงๆ

        ขอแวะเข้าตัวบ้านเลยแล้วกันครับ เพราะไม่ทำบ้านตัวอย่างเราเลยต้องดูเฉพาะภาพ perspective ประกอบกันไป

        แต่เดี๋ยวก่อน...โครงการนี้เค้ามีทัวร์บ้านแบบ 3D ด้วยครับ ไม่ใช่แค่ให้ดูภาพอย่างเดียว

        ทางทีมเค้าเล่าให้ฟังว่า ตอนขาย เป็นช่วงโควิดพอดี เค้าขายแบบโมบายเซลส์ ซึ่งตอนนั้นมีให้ดูแค่แบบบ้าน 3D สำนักงานขายก็ยังสร้างไม่เสร็จ ก็ต้องโทรนัดวันแล้วค่อยเข้าไปคุยกันที่บ้านลูกค้าแล้วก็ต่อทีวีลูกค้าขายเอาอย่างนั้นเลย เนี่ย ฮาร์ดเซลส์มาก 5555

        สำหรับ "Nivass Sukhon 10" นั้น นอกจากจะยูนิตน้อย ดีไซน์ไม่ค่อยเหมือนใครแล้ว ภาพมันฟ้องเลยครับว่านี่คือโครงการที่ยกเอาพูลวิลล่ามาใส่ในบ้านให้เสร็จสรรพ!

        เค้าเรียกโปรดักส์ของตัวเองว่าเป็น "ไพรเวทรีสอร์ท" ผมมองๆ แล้วก็รู้สึกอย่างนั้นจริง มันเหมือนพวกพูลวิลล่าริมทะเลมากกว่าบ้านที่ตั้งอยู่ในโซนลาดพร้าวอ่ะ

        โครงการนี้เกิดจากคำถามที่ว่า "บ้านแบบไหนที่คุณอยากอยู่ไปตลอดชีวิต?" สุดท้ายมันเลยจบตรงที่ว่า บ้านที่อยากอยู่ไปตลอดชีวิต คือบ้านที่มีชีวิตยืนยาว

        ง่ายๆ คือมันไม่ใช่แค่การกลับบ้านมานอนอ่านหนังสือ แต่เป็นบ้านที่มีกิจกรรมให้ทำครับ อย่างที่เห็นคือมีสระว่ายน้ำในบ้าน แถมสามารถชมวิวได้แบบ 180 องศาด้วย

        โครงการนี้มี 4 ยูนิต แต่ละยูนิตมี 3 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ จอดรถได้ 4 คัน รองรับครอบครัวใหญ่

        สามารถปรับให้เป็นโฮมออฟฟิศได้แบบเหมาะจนไม่รู้จะเหมาะยังไง ไม่ได้อวยเลยนะ อันนี้พูดตามที่เห็นล้วนๆ

        ถ้าเดินเข้ามาจะเห็นพื้นที่ครัวก่อนเลยครับ (ตรงส่วนนี้สามารถต่อเติมเป็นห้องผู้สูงอายุตามสมัยนิยมได้) กับโต๊ะกินข้าว แล้วถัดไปจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น Double Volume สูง 5.7 เมตร กว้างโล่งโปร่งสุดๆ

        มองออกไปเราจะเห็นสระว่ายน้ำ และเพื่อให้เทควิวได้เต็มที่ แทนที่จะมีเสากลางเลยตั้งเสาตรงกำแพงแทน ได้เป็นข้อดีคือกำแพงสูงขึ้น สามารถเทควิวสระได้เต็มๆ เพราะเป็นกระจกล้วน ส่วนที่นั่งกลางน้ำก็มีหลังคาให้เรียบร้อย ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมโทรมของวัสดุ

        คั่นกลางกันสักนิดเรื่องสระว่ายน้ำ ผมค่อนข้างว้าวที่โครงการนี้เค้าใช้ระบบสระน้ำแร่ครับ

        ระบบสระน้ำแร่จริงๆ!

        คือเค้าเคลมว่าไม่มีในโครงการไหนด้วยนะ ซึ่งถ้าพูดถึงความเจ๋งของระบบสระน้ำแร่แล้วคือเรื่องของการดูแลสระจะง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะเปอร์เซ็นต์การเกิดคราบน้อยกว่า ไม่เกิดแคลเซียมเกาะกระเบื้องเหมือนกับสระเกลือ ทำให้กระเบื้องไม่หลุดล่อนง่าย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมสระ แถมด้วยระบบของมันเลยทำให้กินไฟน้อยกว่าครับ (อันนี้ผมก็เพิ่งรู้)

        อีกอย่างคือ กินได้!

        มันกินได้จริงๆ ทุกคน! เค้าบอกว่าน้ำในสระคือมาตรฐานน้ำดื่มเลยล่ะ แล้วก็เหมาะกับเด็กๆ ด้วยเพราะอย่างน้อยก็มั่นใจว่าระหว่างเด็กๆ เล่นน้ำ ถ้าเผลอดื่มน้ำเข้าไปก็ไม่เป็นอันตรายอะไร

        และรูปแบบสระว่ายน้ำดีไซน์มาให้มีน้ำล้อมครับ

        ลองนึกภาพตามนะ สำหรับบ้านที่มีสระว่ายน้ำ แรกๆ เราก็อาจจะว่ายน้ำกันอยู่หรอก แต่นานๆ เข้าก็ไม่ค่อยว่ายแล้ว เพราะแบบนี้ทีมเลยดีไซน์ให้มีน้ำล้อม จะนั่งเทควิวเฉยๆ ไม่ว่ายน้ำก็ได้ เหมือนรีสอร์ทเลย

        ที่นั่งกลางสระแบบนี้ ผมว่าเหมาะกับคนมีลูกมาก คือปล่อยลูกว่ายน้ำไป ส่วนเราก็นั่งดูลูกเล่นได้ ไม่ต้องไปนั่งไกลหูไกลตา

        อีกจุดหนึ่งที่เทควิวสระได้ดีคือชั้นลอยครับ

        ชั้นลอยนี้จะเป็นพื้นที่ของห้องทำงาน นั่งทำงานไปตาล้าก็หันไปมองวิวสระได้

        ชั้นนี้มีห้องนอนเล็ก กับห้องน้ำด้วย 

        ส่วนชั้น 3 เป็น Master Bedroom ซึ่งมองลงมาก็จะเห็นสระเหมือนกัน พื้นที่ด้านในเรียกได้ว่ากว้างขวาง ใส่เตียง 6 ฟุตได้สบาย พื้นที่ยังเหลืออีกบาน

        ห้องนี้ เด่นตรงที่มี sexy bath ให้ครับ มีกระจกเปลือยๆตรงห้องน้ำเหมือนในโรงแรมเลย ของจริงจะมีประตูบานเลื่อนไม้เลื่อนปิดให้นะ ไม่ต้องกลัวโป๊ อิอิ

        จบที่ดาดฟ้าด้านบนครับ ตรงจุดนี้รองรับการต่อเติม มีสเปซเผื่อ ถ้าใครอยากเติมก็เติมได้เลย

        ตัวโครงการไม่ได้เรียกว่าสวยงามอลังการแบบประโคมทุกอย่างใส่ลงไปจนมันดูล้น แต่มันให้ความรู้สึกสวยงามแบบสบายตาพูดแบบนี้ก็ไม่ผิดครับ

        เห็นว่าราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ 22.8 ล้านบาทนะ ส่วนตัวโครงการ บางหลังลงเสาเอกเรียบร้อยแล้ว พื้นที่โครงการยังโล่งๆ ตามนี้เลย

        ใครอยากมีบ้านแบบยูนีคสไตล์รีสอร์ท มีงบที่ 20 ล้านขึ้นไป แนะนำให้ลองไปดูครับ รับรองว่าโดนสะกดวิญญาณแบบผมแน่นอน อิอิ

        นอกจากนี้ผมมีโอกาสได้ไปดูอีกโครงการหนึ่งของเค้าคือ "Nivass Ladprao 71"

        เป็นอีกหนึ่งตัวที่ผมขอพูดเลยว่าสวยแจ่มแถมมี Glass House สวนกลางบ้าน มองไปมองมานึกถึงมุมคลับเฮ้าส์ของโครงการหรูทั้งหลายเลย

        โครงการนี้เองก็ให้ Double Volume ในห้องนั่งเล่นเหมือนกัน มันเลยดูโปร่งสบายแล้วก็หรูหราไปในตัว ส่วนตัวผมว่าโครงการนี้เหมาะจะปรับเป็นโฮมออฟฟิศมากๆ เลย

        เอาจริงด้วยยูนิตที่น้อย และรูปแบบที่ดีไซน์ออกมาเหมือนให้เรามีส่วนกลางทุกหลังมันน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อยากอยู่บ้านจัดสรรโครงการใหญ่ๆ หรือไม่อยากเสียเงินค่าส่วนกลางตลอดอยู่นะ

        และด้วยดีไซน์ของมัน ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าเตะตามาก

        ผมเลยแอบลุ้นอยู่ว่าโปรเจ็คต์ถัดไปของเค้าจะเป็นยังไง แต่รู้สึกได้ว่าน่าจะมีอะไรมาชวนให้ว้าวกันได้เหมือนเดิมแน่นอน

        รอคอยครับ คาดหวังด้วย 5555